xs
xsm
sm
md
lg

“เบบี้สวิมมิ่ง”ต่อยอดสินค้าแม่และเด็ก โหมแฟรนไชส์รร.สอนว่ายน้ำเด็กทารก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน360 – “เบบี้ สวิมมิ่ง” วางแผนรุกตลาดโรงเรียนสอนว่ายน้ำทารกและเด็กเล็ก มั่นใจตลาดยังมีโอกาสอีกมาก ผุดทั้งโมเดลลงทุนเองและแฟรนไชส์ เล็งต่อยอดธุรกิจเกี่ยวเนื่อง สินค้าแม่และเด็ก เตรียมออกต่างประเทศ แต่เบรกก่อนเพราะโควิด-19

ดร.พลภัทร นิติธรรมยง ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร เบบี้ สวิมมิ่ง (Baby Swimming) โรงเรียนสอนว่ายน้ำเด็กทารกและเด็กเล็กของไทยอายุตั้งแต่ 4 เดือน – 12 ปี เปิดเผยว่า ตลาดโรงเรียนสอนว่ายน้ำเด็กทารกและเด็กเล็กที่ได้มาตรฐานยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากด้วยมูลค่าตลาดรวมที่มากว่าพันล้านบาท หากสังเกตุจากตัวเลขคร่าวๆที่คาดว่าประเทศไทยมีอัตราเด็กเกิดใหม่ประมาณ 8 แสนคนต่อปี ขณะที่ในแต่ละปีคาดว่าจะมีผู้ที่เรียนว่ายน้ำเพียง 2 แสนคนเท่านั้น


อีกทั้งซัพพลายหรือโรงเรียนสอนว่ายน้ำเด็กทารกและเด็กเล็กโดยเฉพาะนั้นยังมีน้อยมาก ที่เป็นระบบมาตรฐาน ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 10 รายที่เป็นแบรนด์ โดยมีรายใหญ่อยู่ประมาณ 4 รายที่มีสาขา 8 ถึงมากกว่า 10 สาขาในแต่ละราย

ทั้งนี้บริษัทฯวางแผนการขยายโรงเรียนฯเบบี้สวิมมิ่งเฉลี่ย 2 - 3 สาขาต่อปี โดยจะมีทั้งรูปแบบ 1.การลงทุนเองและร่วมทุน เช่นในพื้นที่กรุงเทพและฯปริมณฑลและบางจังหวัด 2. การขายแฟรนไชส์เป็น เน้นในพื้นที่ต่างจังหวัดเป็นหลัก แต่ก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่การเจรจา 


จากปัจจุบันมีสาขาบริการประมาณ 11 แห่ง ล่าสุดคือจะเปิดที่สระบุรี โดยแบ่งเป็นสัดส่วนที่เท่ากันใน2รูปแบบนี้ เช่น หัวหิน กระบี่ บางแสน ระยอง สมุทรสาคร ทั้งนี้ตามแผนในปีหน้า(2564) จะเปิดอีก 4 สาขา ลงทุนรวม 40 ล้านบาท

หลังจากที่เปิดบริการตั้งแต่ปี 2557 สาขาแรกที่หมู่บ้านสัมมากรรามคำแหงและได้รับการตอบรับอย่างดี ถึงขณะนี้เป็นแบรนด์ที่มีจำนวนสาขามากที่สุดและมีสมาชิกมากที่สุดก็ว่าได้ 

ส่วนการลงทุนนั้นเฉลี่ย 10 กว่าล้านบาทต่อสาขา และมีพื้นที่สาขาเฉลี่ย 300 – 400 ตารางวา มีสระ 3 ขนาดแล้วที่ขนาดพื้นที่ ความยาวตั้งแต่ 6 เมตร, 8 เมตร และ 12 เมตร ส่วนความกว้างเฉลี่ยที่ 7 – 8 เมตร แล้วแต่กรณี ส่วนถ้าเป็นแฟรนไชส์ จะมีการเก็บค่าแฟรนไชส์ฟี 1.5 ล้านบาทครั้งเดียว สัญญา 5 ปีต่อ 5ปี และมีค่ารอยัลตี้ฟีขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิก และค่ามาร์เก็ตติ้งฟี 


สำหรับค่าบริการคิดเป็นคอร์ส คอร์สละประมาณ 11-12 สัปดาห์ ราคาประมาณ 8,000 กว่าบาท ซึ่งแต่ละสาขามีสมาชิกมากกว่า 80% ซึ่งอยู่ในอัตราที่บริษัทวางไว้เพื่อไม่ให้แออัดเกินไป 

อย่างไรก็ตามอยู่ระหว่างการศึกษาที่จะขยายสาขากลางเมืองเมืองรูปแบบพรีเมียมมากขึ้น เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ต้องการบริการพิเศษกลุ่มเอบวก อาจจะต้องมีค่าสมาชิกที่สูงขึ้นและบริการที่แตกต่างจากกันจากเดิมจับกลุ่มบีบวก และการขยายไลน์ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น การจำหน่ายชุดว่ายน้ำซึ่งแต่เดิมขายเพียงเฉพาะในสมาชิกเท่านั้น หรือแม้แต่แผนการจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวกับแม่และเด็ก โดยมีสาขาเป็นหน้าร้านในช่วงแรก 

รวมไปถึงการศึกษาที่จะขยายตลาดเบบี้สวิมมิ่งไปต่างประเทศด้วยโดยเฉพาะ เวียดนามกับกัมพูชา แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19ที่เกิดขึ้นจึงทำให้ต้องชะลอแผนออกไปก่อน 


ผู้บริหาร เบบี้ สวิมมิ่ง กล่าวด้วยว่า ช่วงโควิด-19ระบาด ทำให้ต้องปิดบริการไปนานกว่า 3 เดือน ทำให้ไม่มีรายได้เข้ามา แต่ขณะนี้หลังจากที่ได้คลายล็อกดาวน์ลงแล้วและเปิดบริการได้แล้ว มีลูกค้าที่ทยอยกลับเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่องและเริ่มเข้าสู่ภาวะปรกติแล้ว คาดว่าทั้งปีนี้ยอดขายน่าจะหายไปประมาณ 30% จากปรกติที่มีรายได้หรือยอดขายประมาณ 50 – 60 ล้านบาทต่อปี

“ธุรกิจนี้ ปัจจัยสำคัญอยู่ที่คุณภาพการบริการ ครูสอนว่ายน้ำ ความสอาดของน้ำและสถานที่ เพราะพ่อแม่ต้องการความมั่นใจในการนำลูกของเข้ามาเรียนที่เรา ซึ่งเราให้ความสำคัญในเรื่องเหล่านี้สำคัญมาก ครูสอนก็ไม่ใช่ว่าใครจะมาเป็นก็ได้จะต้องผ่านการคัดเลือกและผ่านการฝึกฝนจากเรา ส่วนเรื่องความสอาดของน้ำและสถานที่เราก็มีมาตรการเข้มงวด รวมทั้งได้รับไอเอสโอด้วย หลักสูตรและคุณภาพของเบบี้สวิมมิ่งก็ได้รับการรับรองจากสถาบันที่เกี่ยวข้องในต่างประเทศ” ดร.พลภัทร กล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น