ผู้จัดการรายวัน360- “เทสโก้โลตัส” เผยสำรวจลูกค้าพบ สิ่งที่กังวล 3 เรื่องมากที่สุด” ภาพรวมเศรษฐกิจ-ความมั่นคงในการงาน-รายได้” ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโควิดยังไม่จบ ทุ่มกว่า 1,000 ล้านบาท ศึกราคามหาชน เร่งเปิด 3 สโตร์ใหญ่ครึ่งปีหลังปีนี้
นางวรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ประธานกรรมการฝ่ายการตลาด เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า จากการสำรวจข้อมูลวิจัยของเทสโก้โลตัสจากกลุ่มลูกค้าในช่วงโควิด-19ที่ผ่านมา ด้วยจำนวนฐานลูกค้าที่เป็นออนไลน์กว่า 4 ล้านคน ฐานลูกค้าจากบัตรคลับการ์ดอีกกว่า 15 ล้านราย พบว่า สิ่งที่ลูกค้ามีความกังวลมากที่สุด 3 อย่างคือ 1.ความไม่แน่นอนของภาพรวมของเศรษฐกิจ 2.ความมั่นคงในอาชีพการงานขณะนี้เพราะหลายองค์กรมีการลดจำนวนและเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก และ 3.ความมั่นคงด้านรายได้ ขณะที่จำนวน 72% มีความกังวลว่าราคาสินค้าจะปรับตัวสูงขึ้นในรอบ 12 เดือนที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ประกอบการ นางวรวรรณ มองว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ ผู้ประกอบการมีความกังวลในส่วนของลูกค้าจะมีกำลังซื้อมากน้อยแค่ไหน เพราะถ้ามีน้อยลงการจับจ่ายก็จะน้อยลงเช่นกัน เนื่องจากช่วงนี้มีภาระค่าใช้จ่ายอย่างมาก โดยเฉพาะหลังจากที่สถานการณ์โควิด-19เริ่มคลี่คลายลง มีการปลดล็อกมากแล้ว ทำให้ผู้บริโภคต้องกลับไปสู่การมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเป็นไปตามเหมือนช่วงปรกติ
สังเกตุได้ว่า ในช่วงโควิดคลี่คลาย การเข้ามาชอปปิ้งที่สโตร์ของลูกค้าน้อยลง มีความถี่น้อยลง และปริมาณการซื้อต่อบิลก็ลดลงด้วย ต่างจากช่วงที่เกิดโควิดระบาดใหม่ๆ ปริมาณการจับจ่ายของลูกค้าจะมีมากกว่าช่วงนี้ โดยเฉลี่ย ถ้าเป็นสาขาขนาดใหญ่ ลูกค้าจะเข้าเฉลี่ย 2 อาทิตย์ต่อครั้ง และถ้าเป็นสาขาเล็กแบบเอ็กซ์เพรส เฉลี่ย 2 ครั้งต่ออาทิตย์ และที่สำคัญผู้บริโภคจะไปซื้อของจับจ่ายในร้านค้าที่ใกล้บ้านมากขึ้นแบบพวกเนเบอร์ฮู้ด
นางวรวรรณ กล่าวว่า แต่ไม่ว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจหรือการเมืองจะเป็นอย่างไร ในแง่ธุรกิจ เทสโก้โลตัสก็ยังคงมีแผนการลงทุนและขยายสาขาและการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เข้าถึงลูกค้ารวมทั้งเพื่อเป็นการกระตุ้นและสร้างช่องทางในการจำหน่ายให้มากที่สุด ทั้งในด้านของสาขาที่เป็นแบบออนกราวนด์สโตร์ และช่องทางออนไลน์สโตร์แบบออมนิแชนแนล
ทั้งนี้ตามแผนเดิมที่วางไว้ในปี2563นี้ จะเปิดสาขาแบบใหญ่ไฮเปอร์มาร์เก็ตรวม 3 สาขา แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้เปิดใหม่ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 แต่จะทยอยเปิดในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ส่วนสาขาขนาดเล็กแบบเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรส จะเปิดใหม่ประมาณ 150 สาขาในปีนี้ โดยตั้งแต่ต้นปีถึงขณะนี้เปิดแล้ว 63 สาขา และปรับปรุงร้านเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรสเดิมเป็นโฉมใหม่ประมาณ 90 สาขา
นอกจากนั้น ยังมีการเปิดทดลองสาขาในโมเดลใหม่ๆอีก 2 แบบคือ เทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรสแบบตั้งอยู่หน้าร้านไฮเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งเริ่มแล้ว 2 แห่งคือ ที่อ่อนนุชกับ พัฒนาการ คือจะเน้นผู้ที่ผ่านไปมาบนท้องถนนแต่ไม่ต้องการเข้ามาในสโตร์ใหญ่ จะจำหน่ายเครื่องดื่ม สแน็ก ขนมปัง อาหาร เป็นหลัก อีกรูปแบบคือ ป๊อปอัพ เริ่มทดลองสาขาเดียวที่เทสโก้โลตัสไฮเปอร์มาร์เก็ต บางนา-ตราด
นางวรวรรณ กล่าวด้วยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สร้างผลกระทบเป็นวงกว้าง ขณะที่มาตรการเยียวยาและความช่วยเหลือจากทางภาครัฐต่างๆ ส่วนมากก็สิ้นสุดลงตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เทสโก้โลตัสจัดแคมเปญครั้งใหญ่สุดของปี “ราคามหาชน” ของเทสโก้ โลตัส โดยตัดราคาสินค้าที่จำเป็นทุกหมวดหมู่ และตรึงราคายาวนานกว่า 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม ถึง 25 พฤศจิกายน 2563 เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของลูกค้าและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
เทสโก้ โลตัส ใช้งบประมาณการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นสูงสุด 50% รวมถึงตัดราคาอาหารพร้อมทานและเมนูในศูนย์อาหารให้มีราคาเพียง 25 บาท ตลอดทั้งกว่า 3 เดือน ที่เทสโก้ โลตัส ทั้ง 2,000 กว่าสาขาทั่วประเทศ และทางเทสโก้ โลตัส ช้อปออนไลน์ เพื่อความสุข เพื่อความอิ่มท้อง ของมหาชนชาวไทย
“ความโดดเด่นของแคมเปญราคามหาชน ที่มีความพิเศษและแตกต่างจากแคมเปญโรลแบ๊คและแคมเปญลดราคาที่ผ่านมา คือ การทำการสำรวจความคิดเห็นของมหาชน เพื่อคัดเลือกสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพในแต่ละหมวดหมู่ โดยเราได้ทำการสำรวจความคิดเห็นลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ประกอบกับการประมวลข้อมูล big data ของฐานสมาชิกบัตรคลับการ์ด 15 ล้านคน ก่อนที่เทสโก้ โลตัส ทำการคัดเลือกสินค้ามาร่วมแคมเปญ ซึ่งเป็นสินค้าที่ลูกค้ากว่า 75% ของเทสโก้ โลตัส ซื้อเป็นประจำ”
นอกจากตัดและตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่มหาชนมีมติเลือกมาแล้ว เรายังลดราคาอาหารพร้อมทานและเมนูในศูนย์อาหารเทสโก้ โลตัส ทั่วประเทศ เหลือเพียงเมนูละ 25 บาท โดยแคมเปญราคามหาชน เข้ามาเสริมโปรโมชั่นราคาอื่นๆ ที่มีอยู่ตลอดเวลาตามปกติ ไม่ว่าจะเป็น การรับส่วนลดทันทีที่แคชเชียร์เมื่อซื้อสินค้า, ซื้อ 1 แถม 1, ซื้อหลายชิ้นประหยัดกว่าเดิม และราคาอาหารสดสุดคุ้ม เพื่อยกระดับความคุ้มค่าและรับประกันความสุขให้กับประชาชนคนไทย ผ่านวิกฤติโควิด-19 ไปด้วยกัน
“การช่วยลูกค้าและประชาชนประหยัดค่าครองชีพ โดยมีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการ จำหน่ายในราคายุติธรรม เป็นหนึ่งใน 3 พันธกิจที่สำคัญของเทสโก้ โลตัส ตลอดระยะเวลาของสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ถึงแม้ว่าปัจจุบัน สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยอยู่ภายใต้การควบคุม แต่ผลกระทบในด้านเศรษฐกิจยังคงมีอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีระยะเวลายาวนาน เนื่องจากการระบาดของไวรัสในต่างประเทศยังคงรุนแรง ทำให้เทสโก้ โลตัส ได้ปรับกลยุทธ์และแผนธุรกิจของเราให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และความต้องการของลูกค้า เพื่อประคับประคองให้ทุกภาคส่วนสามารถก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน” นางวรวรรณกล่าวสรุป
ปัจจุบันเทสโก้โลตัสมีสาขาทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 14 สิงหาคม 2563) ดังนี้
• สาขาขนาดกลางและขนาดใหญ่ 411 สาขา
• สาขาเอ็กซ์เพรส 1,635 สาขา
• จำนวนสาขาทั้งหมด 2,046 สาขา
จำนวนสาขาที่เปิดใหม่ในปี 2563 (ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 จนถึงวันที่ 14 สิงหาคม 2563)
• ร้านเอ็กซ์เพรสรูปโฉมใหม่ 63 สาขา
• ปรับปรุงร้านเอ็กซ์เพรสเดิมให้เป็นรูปโฉมใหม่ 90 สาขา
ด้านบริการ omni-channel
• Tesco Lotus Shop Online สั่งสินค้าผ่านแอพพลิเคชั่นและเว็บ ให้บริการใน 23 จังหวัด
• ร้านค้าบน marketplace ชั้นนำ Lazada และ Shopee เข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศ
• บริการ Chat & Shop สั่งสินค้าและจัดส่งโดยตรงจากสาขาใกล้บ้าน 36 สาขา
• บริการ Chat & Collect สั่งสินค้าและรับสินค้าโดยตรงจากสาขาใกล้บ้าน ที่ไฮเปอร์มาร์เก็ตทั้ง 194 สาขา
• บริการ Click & Collect สั่งสินค้าผ่านออนไลน์และรับด้วยตนเอง 45 สาขา ใน 23 จังหวัด