กรมเจ้าท่าเปิดตัวเรือไฟฟ้าต้นแบบ คาดเริ่มออกให้บริการได้ ธ.ค. 63 “อธิรัฐ” สั่งคุมเพดานค่าโดยสาร ปรับได้ไม่เกิน 10-20% หวั่นกระทบประชาชน “อธิบดีเจ้าท่า” เผยเรือไฟฟ้าค่าเชื้อเพลิงและค่าซ่อมบำรุงต่ำกว่าเรือน้ำมัน เชื่ออนาคตค่าโดยสารจะลดลง
นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในงานวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 161 ปี กรมเจ้าท่า ว่า กรมเจ้าท่าได้นำเรือไฟฟ้าต้นแบบจากบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด โดยร่วมกับ บริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด มาแสดง โดยเรือมีความยาว 20 เมตร ความกว้าง 6.3 เมตร กินน้ำลึก 2.35 เมตร สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 78 คน ซึ่งจะนำไปให้บริการในทะเลสำหรับการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต
ส่วนเรือที่จะนำมาให้บริการในแม่น้ำเจ้าพระยามาเปิดตัว ดำเนินโครงการโดยบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เป็นเรือไฟฟ้า MINE Smart Ferry ขับเคลื่อนจากแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ขนาด 800 KWh สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 200 คน ซึ่งจะผลิตทั้งหมด 40 ลำ ขณะนี้ต่อเสร็จแล้วจำนวน 1 ลำ และมีแผนดำเนินการต่อเรือเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2563 จำนวน 15 ลำ ภายในเดือนมีนาคม 2564 จำนวน 12 ลำ รวมจำนวนทั้งสิ้น 28 ลำ
โดยจะใช้เป็นเรือโดยสารให้บริการรับ-ส่งในแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมด ทั้งนี้จะเริ่มนำเรือไฟฟ้าออกให้บริการผู้โดยสารได้ภายในเดือนธันวาคม 2563
สำหรับข้อดีของเรือไฟฟ้า จะช่วยยกระดับการให้บริการทั้งความสะดวกสบายด้วยการติดแอร์ เน้นความสะอาดและการออกแบบที่ปลอดภัย สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้โดยสาร อีกทั้งยังประหยัดต้นทุนด้านพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 เนื่องจากขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจากพลังงานแบตเตอรี่ซึ่งดีกว่าน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงเพื่อจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้เรือโดยสารมากขึ้นเพื่อเลี่ยงปัญหาการจราจรติดขัด
“ขณะนี้อยู่ระหว่างทดสอบและเตรียมความพร้อมทั้งหมด เช่น ท่าเทียบเรือ กรมเจ้าท่าจะต้องประสานกับท่าเรือที่เป็นของเอกชนด้วยเพื่อให้เรือสามารถจอดให้บริการประชาชนได้ทุกท่าอย่างครบถ้วน ส่วนค่าโดยสารนั้น เบื้องต้นจะให้จัดเก็บในอัตราเดิม หรือหากจำเป็นต้องมีการปรับจะต้องน้อยที่สุด ไม่ให้เกิน 10-20% ไม่ให้ประชาชนมีภาระ ซึ่งช่วงที่เกิดโควิด ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการจัดเก็บค่าโดยสารเท่าเดิมแม้จะขาดทุน”
นอกจากนี้ ได้ให้นโยบายกรมเจ้าท่าในการปรับปรุงท่าเทียบเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อยกระดับการให้บริการ โดยในปี 2563 ได้ดำเนินการท่าเรือกรมเจ้าท่าเสร็จแล้ว ที่อยู่ในระหว่างดำเนินการ ได้แก่ ท่าช้าง ท่าเตียน ท่าวัดโพธิ์ ท่าราชินี ท่าสาทร ท่าพระราม 5 ท่าพระราม 7 ในต้นปี 2564 จะเสร็จทั้งหมด
นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า ภาพรวมการทดสอบเรือไฟฟ้าน่าพอใจ โดยจะมีการปรับปรุงระบบอีกเล็กน้อย เรือไฟฟ้ามาแล่นให้บริการไปแม่น้ำเจ้าพระยา ทางบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด พร้อมจะปรับเปลี่ยนเรือมาใช้เรือพลังงานไฟฟ้าที่ทำจากอะลูมิเนียม โดยจะมีการทยอยเปลี่ยนจากเรือไม้ที่หมดอายุ าดว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ปลายปี 2563
ส่วนของเรือไฟฟ้าท่องเที่ยวในทะเล ทางเอกชนจะนำไปจังหวัดภูเก็ตในปลายปีนี้ คาดว่าจะมีเรือไฟฟ้าให้บริการ 30 ลำ และในอนาคตจะมีเรือให้บริการในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวที่กล่าวไปแล้วประมาณ 200 ลำ เพื่อขยายการบริการที่กระบี่ และพังงา
ทั้งนี้ เรือไฟฟ้าผลิตจากอะลูมิเนียม ขณะนี้ต้นทุนในการเดินเรือไฟฟ้าจะมีการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่ในราคาสูง แต่ทิศทางของแบตเตอรี่ก็มีราคาถูก ขณะที่ผู้ประกอบการจะมีต้นทุนในด้านการบำรุงรักษาที่ต่ำกว่าเรือไม้แบบเดิม รวมถึงเรือไฟฟ้ามีต้นทุนด้านเชื้อเพลิงที่ต่ำกว่าเรือน้ำมันประมาณ 40% เชื่อว่าในอนาคตจะมีส่วนสำคัญทำให้ค่าโดยสารของเรือโดยสารถูกลงแน่นอน
