“อธิรัฐ” เปิดตัว “เรือด่วนเจ้าพระยาติดแอร์” เริ่มให้บริการ 18 พ.ค. 63 ลดค่าโดยสารเหลือ 30 บาทช่วง 3 เดือนแรก เชื่อมสถานีรถไฟฟ้า “เรือสู่ราง” ผนึกบีทีเอสจ่ายค่าตั๋วผ่าน Rabbit Card
วันนี้ (16 มี.ค.) ณ ท่ามหาราช นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดตัวเรือโดยสารสาธารณะรูปแบบใหม่ปรับอากาศ ณ ลานกิจกรรมชั้น 2 ท่ามหาราช
RIVA EXPRESS 4 ลำ ยกระดับมาตรฐานการขนส่งสาธารณะทางน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นระบบ Feeder เชื่อมต่อรถไฟฟ้า รถเมล์ สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลเรื่องเชื่อมการเดินทางอย่างไร้รอยต่อ โดยบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด เป็นบริษัทในเครือสุภัทรา กรุ๊ป จะครบรอบ 100 ปีในปีนี้ จึงเปิดให้บริการเรือด่วนปรับอากาศ “ริว่า เอ็กซ์เพรส” เป็นรายแรกของประเทศไทยจำนวน 4 ลำ
นายอธิรัฐกล่าวว่า บริษัทฯ จะนำเรือแล่นทดสอบระบบให้มีความสมบูรณ์พร้อมก่อนเริ่มเปิดให้บริการในวันที่ 18 พ.ค. 63 เป็นต้นไป โดยเก็บอัตราค่าโดยสาร 50 บาทตลอดระยะทาง ในช่วง 3 เดือนแรกที่เปิดให้บริการ จะลดราคาพิเศษเหลือเพียง 30 บาท ตลอดเส้นทางนนทบุรี-สาทร จันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่ 09.45-16.15 น. จำนวน 8 ท่าเรือ ที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าในปัจจุบัน ระยะทาง 15 กม.
ได้แก่ 1. ท่าเรือบางโพ 2. ท่าเรือเกียกกาย 3. ท่าเรือเทเวศร์ 4. ท่าเรือพรานนก 5. ท่าเรือราชินี 6. ท่าเรือราชวงศ์ 7. ท่าเรือไอคอนสยาม และ 8. ท่าเรือสาทร ย่นเวลาจากเรือด่วนฯ เดิม 1 ชั่วโมง เหลือเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
"เรือด่วนเจ้าพระยาเป็นทางเลือกการเดินทางใหม่ให้ประชาชนมีทางเลือกการเดินทางเชื่อมต่อหลายระบบขนส่งสาธารณะจากเรือสู่รางได้เป็นโครงข่ายใน กทม. และปริมณฑล ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ของกระทรวงคมนาคม ตามแผนยุทธศาสตร์กระทรวงคมนาคม พ.ศ. 2560-2564 ที่ต้องการให้มีการจัดการคมนาคมขนส่งให้ทั่วถึงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม"
ด้านนางสุภาพรรณ พิชัยรณรงค์สงคราม ประธานกรรมการบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด กล่าวว่า ให้บริการเรือด่วนปรับอากาศ “ริว่า เอ็กซ์เพรส” นี้เป็นการเชื่อมต่อการคมนาคมขนส่งทางน้ำกับการขนส่งทางราง โดยมีบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และบัตรแรบบิทการ์ด เป็นพันธมิตรในการให้บริการ
เรือด่วนปรับอากาศ “ริว่า เอ็กซ์เพรส” เป็นก้าวใหม่ของบริษัทเพื่อยกระดับบริการเรือด่วนให้มีความทันสมัย สะดวกรวดเร็วตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการรูปแบบการเดินทางที่สะดวกสบายประหยัดเวลา และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โดยเป็นเรืออะลูมิเนียมรูปแบบใหม่จากออสเตรเลีย จุผู้โดยสาร 200 คน น้ำหนักเบา ตัวเรือเป็นแบบลำตัวคู่ (Catamaran) ใช้เทคโนโลยีใหม่ สร้างคลื่นน้อย (Low Wash) ลดผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อม ประหยัดพลังงาน มีเสถียรภาพ ความคล่องตัวและปลอดภัยสูง ความมั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากล ติดตั้งระบบติดตามเรือ GPS จอภาพ LED และอุปกรณ์การกระจายเสียง มีระบบประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารการเดินเรือและข้อมูลต่างๆ ได้ในลักษณะอัตโนมัติ สามารถกำหนดข้อมูลเสียงและภาพได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้โดยสารภายในเรือสามารถได้รับข้อมูลการเดินเรือ ท่าเรือที่เรือกำลังจะเข้าจอดเพื่อให้ผู้โดยสารเตรียมตัว มีระบบจำหน่ายตั๋วโดยสารด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (บัตร Rabbit) และระบบกล้องวงจรปิด
เรือจะเปิดให้บริการระหว่างวันจันทร์-ศุกร์ ในช่วงเช้าจะแล่นตั้งแต่เวลา 06.20-08.30 น. ในเส้นทาง นนทบุรี-สาทร โดยเรือจะออกทุก 20 นาที และจอดรับ-ส่งผู้โดยสาร 8 ท่าเรือ
ในช่วงเวลา 09.45-16.15 น. จะเน้นจอดท่าเรือที่เชื่อมต่อกับระบบรางในเส้นทางสาทร-บางโพ จำนวน 7 ท่าเรือ ได้แก่ 1. ท่าเรือสาทร (BTS สถานีสะพานตากสิน) 2. ท่าเรือไอคอนสยาม 3. ท่าเรือราชวงศ์ 4. ท่าเรือราชินี (MRT สถานีสนามไชย) 5. ท่าเรือพรานนก 6. ท่าเรือเทเวศร์ และ 7. ท่าเรือบางโพ (MRT สถานีบางโพ) ส่วนช่วงเย็นเวลา 17.30-19.30 น. จะแล่นรับส่งผู้โดยสารกลับจากสาทร-นนทบุรี โดยจอดรับ-ส่งผู้โดยสาร 8 ท่าเรือ