“ถาวร” เปิดสัมมนาโครงการศึกษาความเหมาะสม และ EIA ออกแบบก่อสร้าง “สะพานข้ามทะเลสาบสงขลา” แห่งที่ 3 เชื่อมพัทลุง-สงขลา เพื่อเพิ่มความสะดวกการเดินทาง ช่วยย่นระยะทางถึง 80 กม.
วันนี้ (31 ก.ค.) นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดการประชุมปฐมนิเทศโครงการศึกษาความเหมาะสม ผลกระทบสิ่งแวดล้อมในขั้นรายละเอียด (EIA) ก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา ตำบลเกาะใหญ่ อำเภอกระเเสสินธุ์ จังหวัดสงขลา - ตำบลจองถนน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ณ ห้องประชุมณทัพพ์รดา โรงแรมเดอะเบด เวเคชั่นราชมังคลา จังหวัดสงขลา
โดยโครงการดังกล่าวมีความเป็นมาจากการเดินทางจากจังหวัดพัทลุงไปยังจังหวัดสงขลา ที่ในปัจจุบันมีปริมาณยานพาหนะที่เดินทางระหว่าง 2 จังหวัดเป็นจำนวนมาก ตลอดแนวทะเลสาบสงขลามีสะพานเชื่อมระหว่างจังหวัดอยู่ 2 แห่ง ได้แก่ สะพานชะแล้ เชื่อมต่อตำบลชะแล้ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา กับตำบลเกาะหมาก อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นสะพานเก่าแก่และมีความยาวไม่มากนัก โดยเป็นเส้นทางสัญจรของผู้คนในพื้นที่เป็นหลัก ส่วนอีกหนึ่งสะพานคือสะพานเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา 5 ธันวาคม 2550 เชื่อมต่อพื้นที่ ตำบลน้ำขาว อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา และตำบลพนางตุง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง และการเดินทางจะใช้ถนนเลียบทะเลสาบสงขลา มีระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร ต้องใช้เวลาในการขับรถประมาณ 2 ชั่วโมง
ทั้งนี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทั้งเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง และอำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา ได้เรียกร้องให้สร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา เพื่อเชื่อมระหว่างพื้นที่อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง กับพื้นที่อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา
โดยกรมทางหลวงชนบทจึงได้จ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษาความเหมาะสม ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ออกแบบ ประเมินราคา มีระยะเวลาศึกษา 360 วัน ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. 2563 - 29 เม.ย. 2564 และเมื่อการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลาในพื้นที่บริเวณดังกล่าวแล้วเสร็จจะสามารถลดระยะการเดินทางได้มากกว่า 80 กม. ลดระยะเวลาในการเดินทางได้ประมาณ 2 ชั่วโมง และยังใช้เป็นเส้นทางอพยพประชาชนในพื้นที่จังหวัดสงขลาให้สามารถเดินทางมายังจังหวัดพัทลุงได้รวดเร็วขึ้นหากเกิดภัยพิบัติ
การก่อสร้างสะพานดังกล่าวจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวพื้นที่ริมทะเลสาบสงขลา ทั้งจังหวัดพัทลุง และจังหวัดสงขลา รองรับโครงการก่อสร้างถนนพื้นที่ริมทะเลสาบในจังหวัดพัทลุง ตามโครงการส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรองของจังหวัดพัทลุงจากรัฐบาลที่ผ่านมา และเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมทะเลสาบทั้ง 2 จังหวัดให้เพิ่มขึ้น และที่สำคัญยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวบริเวณพื้นที่ริมทะเลสาบสงขลาทั้ง จังหวัดพัทลุงและจังหวัดสงขลา ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่สำคัญ มีความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรธรรมชาติสูงอีกด้วย