กทท.ยุติเจรจาแหลมฉบังเฟส 3 กลุ่ม GPC (ปตท.-กัลฟ์) เทผลตอบแทนเพิ่มอีกกว่า 100% ขยับเกือบถึงราคากลาง 3.2 หมื่นล้าน บอร์ด กทท.ไฟเขียวชงบอร์ดอีอีซีชี้ขาด ก.ค.นี้ กก.คัดเลือกฯ มั่นใจเจรจาให้รัฐได้ประโยชน์สูงสุด คาดลงนามเร็วๆ นี้ ขณะที่เร่งก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งมอบใน 2 ปี
แหล่งข่าวจากการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ว่า ขณะนี้คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนฯ ได้เจรจาต่อรองกับกลุ่มกิจการร่วมค้า GPC (ประกอบด้วย บริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ในกลุ่ม บมจ.ปตท (PTT), บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF), บริษัท China Harbour Engineering Commpany Limited) ได้ข้อยุติแล้ว และที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กทท. เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมาได้รับทราบผลการเจรจาแล้ว โดยภายในสัปดาห์นี้ กทท.ได้สรุปเรื่องส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) คาดว่าจะเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.หรือบอร์ดอีอีซี) ได้ภายในเดือน ก.ค.นี้
ทั้งนี้ จากที่เอกชนได้ยื่นเสนอผลตอบแทนที่ประมาณ 12,051 ล้านบาท โดยการเจรจาล่าสุดเอกชนได้ปรับเพิ่มผลตอบแทนให้รัฐขึ้นมากว่า 100% แม้ยังต่ำกว่าผลตอบแทนที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติอยู่ที่ 32,225 ล้านบาท (ผลตอบแทนตลอดอายุสัมปทาน 35 ปี) แต่ผลตอบแทนที่สรุปได้นั้นถือว่าใกล้เคียงกับวงเงินที่รัฐต้องการ ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้เจรจาอย่างเต็มที่ พร้อมเสนอเหตุผลทั้งหมดประกอบเพื่อให้บอร์ดอีอีซีพิจารณาตัดสินใจ
“กรณีที่ กทท.เจรจากับเอกชน ทั้งที่เสนอผลตอบแทนไม่ถึงวงเงินที่รัฐต้องการนั้นเป็นการดำเนินการตามประกาศฉบับที่ 2 ของ สกพอ. ส่วนการตัดสินใจขึ้นอยู่กับบอร์ดอีอีซี กทท.ดำเนินการอย่างเต็มที่ โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 มีอัตราผลตอบแทนการลงทุนทางการเงิน (FIRR) ทั้งโครงการ 5% ขณะที่ ในส่วนของท่าเทียบเรือ F นั้นมี FIRR 11% ขณะที่สถานการณ์โรคโควิด-19 ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่เอกชนประเมินว่าจะส่งผลกระทบเพราะเศรษฐกิจทุกภาคส่วนปักหัวลงหมด และต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะเชิดหัวได้”
ทั้งนี้ หลังจาก ครม.อนุมัติผลการประมูล กทท.จะต้องเจรจารายละเอียดสัญญากับเอกชน จากนั้นจึงจะเสนอครม.อีกครั้งเพื่อขออนุมัติลงนามสัญญาต่อไป ซึ่งจะใช้เวลาอีกระยะ โดยขณะนี้ร่างสัญญาเสร็จแล้วและอัยการได้ตรวจร่างแล้ว ขณะเดียวกัน กทท.จะต้องก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้เสร็จและส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนผู้ชนะประมูล กลุ่มกิจการร่วมค้า GPC ภายใน 2 ปี หลังจากลงนามสัญญา
สำหรับการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ซึ่งเป็นส่วนที่ กทท.ดำเนินการเองมี 4 ส่วน ได้แก่ 1. งานก่อสร้างทางทะเล วงเงิน 22,000 ล้านบาท 2. งานก่อสร้างอาคาร ท่าเทียบเรือ ระบบถนน และระบบสาธารณูปโภค 6,700 ล้านบาท 3. งานก่อสร้างระบบรถไฟ 4. งานจัดหา ประกอบและติดตั้งเครื่องจักรและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ก่อสร้างไม่น้อยกว่า 52 เดือน ซึ่งประมูลด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) แล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบก่อนประกาศผลการประมูล