ผู้จัดการรายวัน 360 - รีเจ้นท์ ชะอำ หัวหิน (Regent - Chaam, Hua Hin) ทุ่มงบ 30 ล้านบาทพัฒนาโซนใหม่ Family Wing รับนักท่องเที่ยวไทยกลุ่มครอบครัว ตั้งเป้าขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดเซกเมนต์ครอบครัว เชื่อมั่นเศรษฐกิจท่องเที่ยวไทยจะฟื้นตัวจากโควิดหลังปลดล็อกดาวน์ ล่าสุดคว้ามาตรฐาน SHA คาดตลอดปี 63 นี้จะมียอดผู้เข้าพักประมาณ 30%
นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัท เดอะ รีเจ้นท์ กรุ๊ป เผยว่า “หลังจากที่รัฐบาลประกาศคลายล็อกดาวน์ พร้อมทั้งมีแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในประเทศ โรงแรม รีเจ้นท์ ชะอำ หัวหิน ได้เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยอีกครั้ง โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา หลังจากได้หยุดชะงักนาน 3 เดือนจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พร้อมทุ่มงบ 30 ล้านบาทพัฒนาโซนใหม่ Family Wing ที่ดีไซน์เป็นพิเศษเหมาะสำหรับครอบครัวโดยเฉพาะ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก และกิจกรรมนันทนาการ เพื่อดึงดูดกลุ่มครอบครัวนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีสัดส่วนถึง 35% ของผู้มาใช้บริการทั้งหมด
ที่สำคัญ โรงแรมรีเจ้นท์ ชะอำ หัวหิน ยังมีความพร้อมด้านความปลอดภัยสุขอนามัย โดยได้รับการรับรอง และได้ตราสัญลักษณ์ SHA เป็นที่เรียบร้อยจากโครงการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย หรือ Amazing Thailand Safety & Health Administration อีกทั้งโรงแรมยังได้เสริมมาตรการ Regent Clean & Care อีกขั้น ด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย กำหนดสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะ มีบริการแอลกอฮอล์ล้างมือตามจุดต่างๆ และมีการรักษาระยะห่าง
ในส่วนของห้องพัก เพิ่มความมั่นใจให้แก่แขกผู้เข้าพักด้วยการติดเครื่องหมายแสดงถึงการทำความสะอาดหลังแขกเช็กเอาต์ และห้องจะเปิดโดยผู้พักรายใหม่เท่านั้น รวมถึงอาหารเช้าที่จะเปิดให้บริการแบ่งเป็นรอบ เพื่อระยะห่างที่เหมาะสม ด้วยพื้นที่โรงแรมกว่า 100 ไร่ จึงมั่นใจว่าผู้มาใช้บริการจะได้รู้สึกถึงความปลอดภัย ปลอดโปร่ง ไม่แออัด สะดวกสบาย และมีความเป็นส่วนตัว ภายใต้บรรยากาศร่มรื่นเป็นธรรมชาติ”
ผู้บริหารรีเจ้นท์กล่าวเสริมถึงการนำพาองค์กรให้ยืนหยัดในยุคนิวนอร์มัลว่า “ต้องปรับใช้กลยุทธ์เชิงรุก และลงลึกในเรื่องบุคลากร เช่น รายละเอียดของงานเพื่อความเข้าใจตรงกัน สร้างประสิทธิภาพ และความคุ้มค่า พัฒนาทักษะความสามารถที่หลากหลายขึ้นเพื่อมีโอกาสรับรายได้เสริม และการประเมินผลงานถี่ขึ้นเพื่อการตื่นตัวและพัฒนาตลอดเวลา โดยเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจท่องเที่ยวไทยจะฟื้นตัวดีขึ้นเป็นลำดับ จากการที่ภาครัฐได้มีการกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่านแคมเปญเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยว มั่นใจว่าจะทำให้คนไทยตัดสินใจออกมาท่องเที่ยวกันมากขึ้น และชะอำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ เป็นสถานที่อันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยว โดยคาดว่าอัตราเข้าพักปีนี้ทั้งปีประมาณ 30%”
อนึ่ง โซน Family Wing ใหม่ ประกอบด้วยห้องพัก จำนวน 74 ห้อง ดีไซน์เป็นพิเศษสำหรับครอบครัวโดยเฉพาะ เช่น ห้องรีเจนซี่ วิวทะเล และวิวสระว่ายน้ำที่มีขนาดห้องใหญ่กว่า 42 ตร.ม. พร้อมพื้นที่สำหรับนั่งเล่น และระเบียงส่วนตัว, ห้องแฟมิลี Bunk Beds ที่ได้รับการตกแต่งสไตล์โมเดิร์น โดยมีเตียง 2 ชั้นสำหรับเด็กๆ ให้ได้ใช้เวลาสนุกร่วมกันกับคุณพ่อคุณแม่ในห้องเดียวกัน และห้องดีลักซ์แฟมิลี สำหรับ 4 ท่าน ประกอบด้วย 2 ห้องนอน แบ่งเป็นห้องนอนใหญ่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ และมีประตูเชื่อมถึงห้องนอนลูกๆ ซึ่งได้รับการตกแต่งในธีมโจรสลัด พร้อมเตียงเรือใบเพื่อช่วยส่งเสริมจินตนาการของเด็กๆ
นอกจากนี้ยังได้เนรมิตสระว่ายน้ำและบริเวณโดยรอบ ให้กลายเป็นสวนแห่งความสุขท่ามกลางต้นไม้นานาพรรณ บรรยากาศร่มรื่น โดยมีหอคอยน้ำตก พร้อมสไลเดอร์ติดตั้งในสระน้ำเด็ก และสนามเด็กเล่นกลางแจ้ง รวมถึงพื้นที่พักผ่อน, มุมกิจกรรมศิลปะส่งเสริมนันทนาการสำหรับเด็ก, ร้านไอศกรีม, คลาสทำพิซซาที่ร้านอาหารอิตาเลียนเปปปิน่า ออน เดอะ บีช ซึ่งตั้งอยู่ภายในโรงแรม
อีกทั้งยังมีเส้นทางปั่นจักรยาน รีเจ้นท์ไบค์ปาร์ก และแผนต่อยอดพัฒนาสวนออร์แกนิก ซึ่งจะมีการสร้างศูนย์การเรียนรู้อยู่ภายในและกิจกรรมเวิร์กชอปสำหรับเด็ก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Life & Learn” เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ พร้อมทั้งปลูกฝังให้ใส่ใจธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย เช่น การทำของเล่นย้อนยุคจากต้นกล้วย, ศิลปะจากเมล็ดพืชและเกลือ, กิจกรรมระบายสีกระถางต้นไม้, กิจกรรมปั้นดินเหนียว รวมถึงกิจกรรมสาธิตการทำผ้ามัดย้อม และทริปตามหาพืชผักสวนครัว เป็นต้น เพื่อให้ครอบครัวสนุกร่วมกัน รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อผู้สูงวัย เช่น ลิฟต์สำหรับผู้สูงอายุ ทางเดินของรถเข็นวีลแชร์ที่สามารถลงไปได้ถึงชายหาดริมทะเล