ผู้จัดการรายวัน 360 - 3 พันธมิตร “อินเด็กซ์-ไอคอนสยาม-ทรูไอคอน ฮอลล์” ผนึกกำลัง ต่อลมหายใจอีเวนต์คอนเสิร์ตยุค New Normal รูปแบบไฮบริด เล่นสด-ไลฟ์สด แบบ VIP “เจ เจตริน-ติ๊นา” นำทีมประเดิมงานแรกกลางเดือน ก.คนี้ สู่ความหวังจบปี 63 อุตสาหกรรมอีเวนต์จะทำได้ 20% จากยอดเดิม 13,000 ล้านบาทในปีก่อน
นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมอีเวนต์เชื่อว่าจะกลับมาเป็นปกติในปี 2564 หรือน่าจะกลับมามีมูลค่า 13,000 ล้านบาทได้อีกครั้ง ขณะที่ปี 2563 นี้มองว่าอย่างดีที่สุดน่าจะกลับมาเพียง 20% หรือราว 2,600-3,000 ล้านบาท โดยจะเป็นอีเวนต์รูปแบบใหม่ๆ หรือเป็นแบบขนาดเล็กเป็นหลัก
ในส่วนของอินเด็กซ์เองก็ได้ปรับตัวจากสถานการณ์โควิด-19 เช่นกัน โดยจะมีประมาณ 5 โปรเจกต์ที่เป็นนิวบิสิเนสใหม่ๆ ไปจนถึงสิ้นปีนี้ หลังจากที่เริ่มไปแล้ว คือ ธุรกิจพ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อ ภายใต้แบรนด์ KILL & KLEAN
ล่าสุดในเดือน ก.ค.นี้พร้อมเปิดตัวโปรเจกต์ที่ 2 คือ คอนเสิร์ต ไฮบริด ภายใต้แนวคิด เฟรนด์ชิปอีโคโนมี คือการช่วยเหลือกันแบบเพื่อน โดยได้ 2 พันธมิตรใหญ่เข้ามาร่วม คือ ไอคอนสยาม และทรู ไอคอน ฮอลล์ และศิลปิน ค่ายเพลงดังอีก 5 ค่าย ซึ่งโปรเจกต์นี้ถือเป็นการหาทางออกและต่อลมหายใจให้กับธุรกิจคอนเสิร์ตกลับมาอีกครั้งในยุค New Normal ในรูปแบบไฮบริดอีเวนต์ ผสมผสานระหว่างความเป็นออฟไลน์กับออนไลน์เข้าด้วยกัน จึงเป็นที่มาของ ไฮบริด คอนเสิร์ต ครั้งแรกในไทย กับ “เวทีคอนเสิร์ตคือรอยยิ้ม” ห่างไกลแต่ใกล้ชิด ที่สามารถรับชมได้ทั้งแบบ Real Live ในสถานที่จริง แสงสีเสียงเต็มรูปแบบ และทางออนไลน์ผ่านการ Live Streaming
ส่วนเรื่องของศิลปินที่จะมาประเดิมเวที Serie1 ภายใต้ Theme Empire of Dance ได้แก่ King and Queen of Dance อย่างเจ-เจตริน และคริสติน่า อากีลาร์ ในวันที่ 18 ก.ค.นี้ นอกจากนี้ยังมีศิลปินจากค่ายอื่นๆ เช่น GMM Grammy, J MIDEE, SMALLROOM, MUZIC MOVE และ What The Duck ณ ทรู ไอคอน ฮอลล์ ที่เตรียมจัดคอนเสิร์ตไปตลอดทั้งปีนี้ เฉลี่ยสัปดาห์ละครั้ง ราคาบัตรตั้งแต่ 2,500 บาท 4,000 บาท 5,000 บาท และ 6,000 บาท เพียง 900 ที่นั่ง ส่วนบัตรรับชมผ่านออนไลน์มี 600 บาท และ 980 บาท จำหน่ายบัตรที่ www.way-t.com
“คอนเสิร์ตในยุค New Normal คือคอนเสิร์ตที่มีการผสมผสานกับทั้งออนกราวนด์และออนไลน์ แต่สุดท้ายแล้วผู้ชมก็ยังโหยหาคอนเสิร์ตในรูปแบบเดิม เพราะคอนเสิร์ตเป็นยูนีค ต้องดูสด และเรียลเอ็กซ์พีเรียนซ์ เพราะการชมออนไลน์ไม่นานก็เบื่อ ดังนั้นถึงแม้จะเป็นไฮบริดคอนเสิร์ต แต่โปรดักชันจัดเต็ม ศิลปินแสดงเต็มที่ ขณะที่ผู้ชม 900 ที่นั่ง มาพร้อมที่นั่งรับชมแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ส่วนผู้ชมทางออนไลน์จะได้รับหูฟัง JBL เพื่ออรรถรสในการรับฟังที่ดียิ่งขึ้น”
นายเกรียงไกรกล่าวต่อว่า โปรเจกต์นี้คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวมไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท แต่ทุกคนทำด้วยใจ เพื่อให้ทุกคนอยู่ได้ ดังนั้น รายได้ที่ได้มาจึงเป็นรูปแบบแบ่งรายได้ร่วมกัน ขณะที่ช่องทางหารายได้จะมาจาก 900 ที่นั่งเป็นหลัก ซึ่งถือเป็น 20% ของที่นั่งปกติที่สามารถจัดได้ นอกจากนี้ยังมีรายได้จากสปอนเซอร์อีกส่วนหนึ่งด้วย ขณะที่รายได้จากออนไลน์ถือเป็นรายได้เสริม