เมื่อ 2 ยักษ์ใหญ่ต่างวงการอย่าง จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ กับ วีจีไอ จับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจครั้งแรก จึงกลายเป็นกลยุทธ์ที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เพราะอาศัยคอนเทนต์และเครือข่ายของแต่ละฝ่าย ทำให้การทำตลาดด้วยการปั้นโปรเจกต์ใหม่เพื่อมุ่งตรงไปสู่กลุ่มเป้าหมายทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้นำด้าน CONTENT PROVIDER และบริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) ผู้นำการตลาด O2O Solutions บนแพลตฟอร์มธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการชำระเงิน และธุรกิจโลจิสติกส์รายเดียวของเมืองไทย 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ประกาศความร่วมมือในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจครั้งแรก จับมือปั้นโปรเจกต์ใหม่เสริมความแข็งแกร่งเพื่อเพิ่มช่องทางการค้า รองรับการขยายตัวทางธุรกิจด้านการเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ และผู้ให้บริการสื่อโฆษณาตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน
นายภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มองเห็นโอกาสทางธุรกิจในฐานะที่แกรมมี่ ซึ่งเป็น MUSIC SOLUTION ซึ่งนอกจากการผลิตคอนเทนต์ที่ดีแล้วเรายังต้องมีพันธมิตรที่ดีมาช่วยขับเคลื่อน สอดคล้องกับ 1 ใน 7 ยุทธศาสตร์สำคัญที่ได้วางแนวทางไว้ นั่นคือ ยุทธศาสตร์ด้าน Media Partnership โดยปี 2563 นี้จะร่วมมือกับสื่อชั้นนำทั่วประเทศแบบครบวงจร รวมถึงแพลตฟอร์มรายใหญ่เพื่อการขยายฐานการเข้าถึงและการรับรู้ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น สื่อทีวี, สื่อวิทยุ, สื่อ Outdoor และสื่อโรงภาพยนตร์
ล่าสุดได้ร่วมมือกับ VGI เป็นการเปิดช่องทางการค้าและขยายช่องทางการทำการตลาดให้กับเจ้าของแบรนด์สินค้าและบริการต่างๆ ด้วยสื่อที่ครอบคลุมและเข้าถึงผู้บริโภคทุกระดับ
โดยแกรมมี่ได้เสนอช่องทางการค้าที่เรียกว่า MUSIC SOLUTION เพื่อนำมาใช้ในการร่วมมือกันครั้งนี้ ได้แก่
1. MUSIC CONTENT ในปีนี้แกรมมี่มี CONTENT เพลงในรูปแบบของ DIGITAL ALBUM ออกมามากมายที่ตอบโจทย์ในการเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายทั้ง REACH & ENGAGEMENT ครอบคลุมกลุ่ม NATIONWIDE / LOCAL HERO /FANBASE และ TRENDING ALBUM เช่น พบกับอัลบั้มเต็ม 10 เพลงใหม่เป็นครั้งแรกของวง KLEAR ในอัลบั้ม GROW IN THE DARK ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย NATIONWIDE ครอบคลุมทั่วประเทศ หรืออัลบั้มที่ตอบโจทย์ LOCAL HERO เจาะจงไปที่กลุ่มเป้าหมายในแต่ละท้องถิ่น อย่างอัลบั้มลำซิ่งลิซึ่ม ของหญิงลี ที่เจาะกลุ่มภาคกลาง เป็นต้น
2. DIGITAL MEDIA แกรมมี่มีศิลปินและเหล่า INFLUENCERS ซึ่งถือได้ว่าแกรมมี่มี GMM INFLUENCER HUB กว่า 65 ล้าน FOLLOWERS ที่ทรงพลังอยู่ในมือ ครอบคลุมไปทุกกลุ่มเป้าหมาย NATIONWIDE & COVERAGE ตั้งแต่ระดับ ARTIST (ศิลปิน) / MACRO (เพจต่างๆ) ไปจนถึงระดับ LOCAL (PAGE LOCAL) และ MICRO INFLUENCERS (INFLUENCERS ระดับ ท้องถิ่น) ทำให้สามารถสื่อสารเจาะกลุ่มได้ทั้งแนวราบและแนวดิ่งอย่างมีประสิทธิภาพ
3. ROAD TOURS กิจกรรมฟรีคอนเสิร์ต เจาะเข้าถึงตลาดภูมิภาคครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย และครบวงจรในการทำ Music content คือการทำ Online Offline และ On ground เมื่อมีอัลบั้มเพลงโปรโมตผ่านทาง Online Offline การทำ On ground คือจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายที่ทำให้เกิดความสมบูรณ์ โดยในปีนี้มี Road tour ทั้งหมด 31 ครั้งครอบคลุมทุกพื้นที่ เช่น แกรมมี่ซูเปอร์โชว์ บุก 8 จังหวัดเจาะพื้นที่ภาคอีสาน, CLASH Road tour 5 จังหวัด, POTATO Campus Tour รวม 10 มหาวิทยาลัย และปิดท้ายด้วยคอนเสิร์ตฉลองครบรอบ 25 ปีแกรมมี่โกลด์กับเส้นทางสายมิตรภาพ 8 จังหวัด
4. SHOWBIZ สำหรับคอนเสิร์ตขายบัตรทุกรูปแบบทั้ง MUSIC FESTIVAL เช่น BIG MOUNTAIN / เชียงใหญ่เฟส / นั่งเล่น หรือ SOLO CONCERT ที่ถือได้ว่าแกรมมี่เป็นเจ้าตลาดกว่า 60% MARKET SHARE กว่า 300,000 ผู้ชมต่อปี ถือว่าเป็นช่องทางสำคัญสำหรับพาร์ตเนอร์รูปแบบ B2B ได้อย่างแท้จริง
นายเนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในฐานะผู้นำการตลาดแบบ O2O Solutions ธุรกิจโฆษณาคือ 1 ใน 3 แพลตฟอร์มธุรกิจของ VGI ที่เป็นกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร เราให้บริการสื่อโฆษณาครบวงจร ที่ครอบคลุมเส้นทางการใช้ชีวิตและการเดินทางของผู้คนในเมืองหลวงไปจนถึงผู้คนในจังหวัดหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชน, สื่อโฆษณาในอาคารสำนักงาน, สื่อกลางแจ้ง, สื่อประเภทสตรีทเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงสื่อในสนามบินทั้งในและต่างประเทศ ที่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้ง Offline และ Online เรามีความเข้าใจอย่างแท้จริงในพฤติกรรมการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการของผู้บริโภค จึงทำให้สามารถนำเสนอมุมมองสื่อโฆษณาได้ครบ 360 องศา
ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มสีสันและความแปลกใหม่ให้กับวงการเพลง ด้วยการนำ MUSIC CONTENT มาสื่อสารผ่านสื่อโฆษณาของ VGI 3 ประเภท คือ การ Wrap ตัวขบวนรถไฟฟ้า (TRAIN BODY), สื่อจอดิจิทัลบนสถานีบีทีเอสและสื่อจอทีวีภายในขบวนรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นช่องทางการสื่อสารแบบ B2C ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสสูงถึงกว่า 1,300,000 คนต่อวัน ในขณะเดียวกัน แกรมมี่ก็ได้มอบอาวุธหลักให้ VGI ได้นำไปต่อยอดในการสร้างสรรค์แคมเปญและเพิ่มโซลูชันส์ในการใช้งานด้านสื่อสารการตลาดให้กับลูกค้าของบริษัทฯ ทั้งยังช่วยยกระดับในการสร้างการรับรู้ และสร้างการมีส่วนร่วมให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึง CONTENT ใหม่ๆ ได้อย่างง่ายดายมากขึ้นอีกด้วย”
การผนึกกำลังกันในครั้งนี้ คาดว่าจะทำให้เกิดปรากฏการณ์ทางการตลาดที่ไม่เคยมีมาก่อนของบริษัทยักษ์ใหญ่ ทั้งด้าน CONTENT PROVIDER และด้านการตลาด O2O Solutions จะช่วยกระตุ้นตลาด LIFESTYLE ให้มีความคึกคักมากขึ้น ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนและเข้าถึงมากขึ้น ทั้งในแง่ของ B2C ที่เป็นผู้บริโภคเอง และกลุ่มพันธมิตร B2B ของทั้ง 2 บริษัท และทำให้การทำการตลาดในเชิง MUSIC MARKETING มีความแปลกใหม่มากขึ้น โดยการร่วมมือกันในครั้งนี้จะทำกันอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2563 นี้