ผู้จัดการรายวัน 360 - อั้นคอนเสิร์ตมา 3 เดือน แกรมมี่จับมือ VLIVE จัด GMM Online Festival จากคอนเสิร์ตออนกราวด์ สู่คอนเสิร์ตออนไลน์ ประเดิม 2 วันเต็ม 4-5 ก.ค.นี้
นายภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลอด2-3 เดือนที่ผ่านมาในสถานการณ์โควิด-19 แกรมมี่ได้ให้ความสำคัญในความร่วมมือกับภาครัฐอย่างต่อเนื่องด้วยดีเสมอมา ด้วยการหยุดจัดคอนเสิร์ตทุกรูปแบบ แต่ในขณะเดียวกัน การดูแลบุคคลากรในอุตสาหกรรมคอนเสิร์ตทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน
ล่าสุดจึงได้จับมือกับแอปพลิเคชันออนไลน์ชื่อดังจากเกาหลีใต้อย่าง VLIVE เพื่อจัด Online Music Festival ที่ใหญ่ที่สุดให้ได้รับชมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์คุณภาพระดับโลก การสร้างปรากฎการณ์พิเศษในครั้งนี้ เชื่อว่าวันนี้ธุรกิจ Showbiz ได้แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบอย่างชัดเจน ทั้ง On Ground และ Online ซึ่งให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันและไม่สามารถทดแทนกันได้
สำหรับความพิเศษของ GMM Online Festival ยังมีอีก 6 จุดเด่นที่จะสร้างความแตกต่างจนแฟนคลับทุกคนต้องรีบไปจับจองบัตร ดังนี้ 1. ไม่จำกัดจำนวนผู้ซื้อบัตรจึงทำให้สามารถรองรับความต้องการของแฟนๆได้อย่างไม่จำกัด 2. สามารถเข้าถึงผู้ชมได้ทุกที่มากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก 3. ผู้ชมสามารถสัมผัสได้ถึงประสบการณ์รูปแบบใหม่ของคอนเสิร์ตออนไลน์ผ่าน AR Technology 4. ผู้ชมสามารถแสดงตัวตนบนหน้าจอที่อยู่บนเวที พร้อมส่งคอมเมนต์สดๆระหว่างการแสดง และทักทายพูดคุยได้แบบเรียลไทม์ผ่าน Virtual Meeting
5. สามารถชมแบบเสียงภาษาไทย และเลือกรับชมพร้อมคำบรรยายได้ 2 ภาษา คือ ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน และ 6. ราคาบัตรสุดคุ้มที่สามารถรับชมได้ทั้ง 2 วัน ในราคาเพียง 600 VCoins (ประมาณ 350 บาท)
การจัดงาน GMM Online Festival ในครั้งนี้ จะจัดขึ้นด้วยโชว์รูปแบบใหม่ 2 วันเต็ม โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 4 -5 ก.ค 2563 รวมศิลปินยอดนิยมรวมกว่า 20 วง นำทีมโดย เป๊ก ผลิตโชค, พาราด็อกซ์, เคลียร์, อะตอม, ทเว้นตี้ไฟว์เอาเออร์ส, ค็อกเทล, โลโมโซนิก, เกทสึโนวา, เดอะเยอร์ส, ไททศมิตร, มียู, เลซี่ล็อกซี่, มิลลิ, ไมยราพ, สนามหลวงมิวสิก, ทรีแมนดาวน์, ทิลลี่เบิร์ดส์, อนาโตมี่ แรบบิต และ เซฟแพลนเน็ต
รวมทั้งเรื่องการผลิตหรือ Production ที่สามารถ Interact กับผู้ชม และผสมผสานการถ่ายทอดสดเพื่ออรรถรสในการรับชมที่ครบครันบน 4 เวที คือ Main Stage, Cube Stage, Green Stage และ Prop Stage ที่มาพร้อมกับจอ LED สุดอลังการที่สามารถแสดงผู้ชมได้ไม่จำกัดจำนวนและยังสร้างความรู้สึกเสมือนจริงด้วย AR Technology เต็มรูปแบบ จึงทำให้ผู้ชมสามารถสัมผัสได้ถึงความแตกต่างจากคอนเสิร์ตปกติทั่วไป
นายภาวิต กล่าวต่อว่า เชื่อว่าผู้ชมทุกคนที่ซื้อบัตร GMM Online Festival ในครั้งนี้ จะได้มากกว่าประสบการณ์ที่พิเศษ แต่ยังได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสนับสนุนให้การแพทย์ของไทยสามารถที่จะระดมทุนเพื่อนำไปพัฒนาและวิจัยวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้เกิดความเป็นไปได้ในเร็ววัน เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการสร้างความสุขให้เกิดกับสังคมรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น ผู้ชม ศิลปิน บุคคลากรเบื้องหน้า-เบื้องหลัง และทีมแพทย์.