xs
xsm
sm
md
lg

“แกรมมี่” ลุยโชว์บิซฝ่าโควิด-19 รายได้เพลงทุบสถิติ 10 ปี 4 พันล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - คอนเสิร์ตแกรมมี่รอดจากโควิด-19 โชว์บิซ 40 งาน และงานจ้าง 7,000 งาน ยังไปได้ดี เหตุส่วนใหญ่งานอยู่ครึ่งปีหลัง ไม่นิ่งนอนใจวางมาตรการป้องกัน จัดคอนเสิร์ตพร้อมแจกหน้ากากอนามัย ทั้งปีมั่นใจโชว์บิซโต 10% ตามแผน ต่อยอดให้รายได้กลุ่มธุรกิจเพลงโตอีก 10% จาก 4,014 ล้านบาท ในปีก่อนที่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา

นายภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้น ในส่วนของกลุ่มธุรกิจจีเอ็มเอ็ม มิวสิค ที่น่าจะได้รับผลกระทบมากสุด คือ ธุรกิจโชว์บิซ แต่ในความเป็นจริงยังไม่ได้รับผลกระทบเลย

ส่วนสำคัญมาจากการวางแผนการจัดงานที่วางไว้ล่วงหน้า 9 เดือน ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจที่เชื่อว่ายังไม่ดีขึ้น ส่งผลให้งานส่วนใหญ่จะจัดขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี 2563 นี้ ส่วนของไตรมาสแรกได้จัดงานไปแล้วก่อนมีโควิด-19 เกิดขึ้น ขณะที่เกิดไวรัสโควิด-19 มีการจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตอะตอมหมดแล้ว ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือน เม.ย. 63 นี้ ส่วนคอนเสิร์ตไมโครที่จะตามมาในไตรมาสสองยังไม่เห็นผลกระทบแต่อย่างใด ดูได้จากยอดการคืนบัตรต่ำกว่า 8% ซึ่งถือว่าน้อยมาก ทำให้แผนงานโชว์บิซยังดำเนินไปตามเดิม แต่พร้อมเฝ้าระวังและจัดการให้ทัน ณ เวลานั้น


"การจัดงานโชว์บิซหลังจากนี้ โดยเฉพาะในส่วนฮอลล์ที่จัดงานจะมีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อทั้งก่อนและหลังจบงาน มีจุดคัดกรองผู้เข้าร่วมงาน มีจุดให้บริการเจลล้างมือทั่วงาน มีการแจกหน้ากากอนามัยระหว่างชมคอนเสิร์ต เป็นต้น"

อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มธุรกิจโชว์บิซ ปีที่แล้ว (2562) มี 30 งาน ปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 40 งาน แบ่งเป็น เฟสติวัล 5 งาน, โซโลคอนเสิร์ต 4 งาน, ตรีมคอนเสิร์ต 3 งาน และงานเล็กๆ อีก 24 งาน ซึ่งไม่รวมกับงานจ้างตามผับกลางคืนอีก 7,000 งานตลอดปี ซึ่งในส่วนนี้มียกเลิกงานไม่ถึง 8% ส่งผลให้ทั้งปียังมั่นใจว่า ธุรกิจโชว์บิซจะเติบโตที่ 10% หรือมีรายได้มากกว่า 500 ล้านบาทตามแผนที่วางไว้


นายภาวิตกล่าวต่อว่า ปีนี้กลุ่มธุรกิจจีเอ็มเอ็ม มิวสิค ตั้งเป้ารายได้รวมจะเติบโตขึ้นอีกอย่างน้อย 10% จากปี 2562 ที่ผ่านมาจีเอ็มเอ็ม มิวสิคมีรายได้สูงสุดในรอบ 10 ปี หรือทำได้กว่า 4,014 ล้านบาท และมีกำไร 472 ล้านบาท โตขึ้น 13.2% โดยมาจาก 3 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ 1. Digital Music โต 31% ด้วยรายได้ 1,123 ล้านบาท 2. Showbiz โต 36% รายได้ 524 ล้านบาท และ 3. ธุรกิจการบริหารลิขสิทธิ์ รายได้ 313 ล้านบาท โต 25%


ผลจากความสำเร็จที่เกิดขึ้น เกิดจากแผนยุทธศาสตร์ของจีเอ็มเอ็ม มิวสิค ได้ถูกวางไว้ล่วงหน้าอย่างชัดเจนในรูปแบบบันได 3 ขั้น ประกอบด้วย บันไดขั้น 1 คือ Restructure, Refocus และ Restabilize บันไดขั้นที่ 2 คือ Build, Invest และ Aggregate และบันไดขั้นที่ 3 คือ Infrastructure, Recurring และ Sustainnable

ในปี 2562 ที่ผ่านมาใช้ยุทธศาสตร์บันไดขั้น 1 ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ซึ่งใช้เวลากว่า 3 ปีกับจำนวนพนักงานกว่า 600 คน และศิลปินกว่า 300 คน ส่งผลให้ในปีนี้พร้อมเข้าบันไดขั้นที่ 2 ที่มี 7 ยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนในอีก 5 ปีหลังจากนี้ ประกอบด้วย 1. New Content Strategy & New Artist Development โดยจะสร้างศิลปินและแนวเพลงให้ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ ไม่ยึดติดการทำศิลปินแต่ในจีเอ็มเอ็ม มิวสิค พร้อมร่วมมือกับศิลปินทุกค่าย ด้วย Business Model ที่เป็นธรรม และเพิ่ม Sub Segment เช่น Original Sound Track ให้กับตลาดละครและภาพยนตร์ และลงทุนอีกกว่า 300 ล้านบาทในการสร้างศิลปินใหม่

2. Showbiz Expansion จะขยายใน 4 รูปแบบ คือ Music Festival, Solo Concert, Theme Concert และการเป็น Promoter ในการจัด International Showbiz โดยพร้อมร่วมมือกับทุกพาร์ตเนอร์หรือทุกค่ายเพลงในการจัดคอนเสิร์ตเพื่อสร้างความสำเร็จให้กับทุกคนในการเติบโตไปด้วยกัน 3. Artist Product ในรูปแบบจีเอ็มเอ็ม มิวสิค ลงทุนให้ และศิลปินของแกรมมี่เป็นเจ้าของเอง ปีนี้จะมีออกมา 4 เอสเคยู 4. Industry Aggregation จับมือพันธมิตรสร้างประโยชน์ทางรายได้จากทุกช่องทางการค้า 5. Media Partnership ร่วมมือกับสื่อชั้นนำเพื่อขยายฐานการเข้าถึง 6. M&A เป็นแผนยุทธศาสตร์การเข้าซื้อกิจการที่สร้างโอกาสในการเกิด Leap Growth ในช่วง 5 ปีนี้ในหลายอุตสาหกรรม และ 7. Data Creative พัฒนาเรื่องการทำดาต้าสู่การทำ Personalization เพื่อทำให้เกิด New Product Experience








กำลังโหลดความคิดเห็น