xs
xsm
sm
md
lg

ร.ฟ.ท.เคลียร์พื้นที่ กม.11 ผุดแก้มลิงช่วยแก้น้ำท่วมวิภาวดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ร.ฟ.ท.ลุยย้ายสิ่งปลูกสร้างบริเวณบ้านพักนิคมรถไฟ กม.11 เร่งขุดโครงการแก้มลิงฯ 2 บ่อเสร็จใน 30 วัน แก้ปัญหาน้ำท่วมวิภาวดี, แหล่งเสื่อมโทรม, อาชญากรรม ภายในพื้นที่รถไฟ

นายสมยุทธิ์ เรือนงาม รองผู้อำนวยการฝ่ายด้านปฏิบัติการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหาผู้บุกรุก บริหารจัดการ และจัดระเบียบการใช้พื้นที่ บริเวณบ้านพักนิคมรถไฟ กม.11 นิคมรถไฟมักกะสัน บางชื่อ และจิตรลดา เปิดเผยว่า ขณะนี้การรถไฟฯ ได้เริ่มดำเนินการเข้าปรับปรุงพื้นที่ของการรถไฟฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนรถไฟ และสังคมส่วนรวมให้ได้รับประโยชน์สูงสุด รวมถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วมขัง ปัญหาด้านการจราจร ปัญหาอาชญากรรม การเกิดแหล่งเสื่อมโทรม ปัญหาด้านสาธารณสุข ตลอดจนการเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในพื้นที่

ทั้งนี้ ในส่วนของการแก้ปัญหาน้ำท่วมขังและปัญหาจราจร การรถไฟฯ ได้เริ่มโครงการขุดลอกแก้มลิงและระบบระบายน้ำภายในชุมชนรถไฟ บริเวณบ้านพักนิคมรถไฟ กม.11 ไปแล้ว เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบนถนนวิภาวดีรังสิต และในพื้นที่เขตจตุจักร โดยได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่กองพลพัฒนาที่ 1 กองทัพบก ในการถอนย้ายสิ่งปลูกสร้างที่กีดขวางทางระบายน้ำ การกำจัดวัชพืช ทำทางลำลองเข้าพื้นที่ และการขุดลอกบ่อรองรับน้ำ

“จากการดำเนินการขุดลอกแก้มลิงฯ ในพื้นที่บ้านพักนิคมรถไฟ กม.11 พบว่าช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณถนนวิภาวดีรังสิตได้เป็นอย่างดี โดยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งเขตกรุงเทพฯ ได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อนนูรีและมีฝนตกชุกหลายวัน โครงการแก้มลิงฯ บ้านพักนิคมรถไฟ กม.11 สามารถช่วยรองรับการระบายมวลน้ำจากเขตจตุจักรและถนนวิภาวดีรังสิตเข้าพื้นที่ได้ปริมาณมาก จนไม่เกิดน้ำท่วมขังบนถนนวิภาวดีฯ ตลอดสายตั้งแต่เขตดินแดงจนถึงสนามบินดอนเมือง”

นายสมยุทธิ์กล่าวต่อว่า โครงการขุดลอกแก้มลิงในพื้นที่บ้านพักนิคมรถไฟ กม.11 เป็นนโยบายของ
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. ที่ต้องการนำที่ดินของการรถไฟฯ มาบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวม รวมทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล และกองอำนวยการน้ำแห่งชาติที่ต้องการแก้ปัญหาน้ำท่วมขังบนถนนสายหลักของกรุงเทพฯ ในช่วงฤดูฝน

การรถไฟฯ ตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถขุดลอกบ่อโครงการแก้มลิงฯ จำนวน 2 บ่อให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ซึ่งสามารถรองรับการระบายน้ำได้สูงสุดถึง 157,001 ลูกบาศก์เมตร

นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังได้ร่วมมือกับชุมชนในการเข้าพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกันปรับปรุงพื้นที่ภายในตลาดบริเวณบ้านพักนิคมรถไฟ กม.11 ให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาด ปลอดภัย พร้อมกับรณรงค์ให้ใช้มาตรการด้านสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และภายในเร็วๆ นี้การรถไฟฯ ยังมีแผนยกระดับคุณภาพชีวิตของคนรถไฟ และชาวกรุงเทพฯ โดยร่วมมือกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จัดทำโครงการปลูกป่าบริเวณโดยรอบพื้นที่แก้มลิง เพื่อพัฒนาพื้นที่สีเขียวเป็นปอดแห่งใหม่ของชาวกรุงเทพฯ อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการแก้ไขปัญหาผู้บุกรุกบริเวณบ้านพักนิคมรถไฟ กม.11 ทางคณะทำงานแก้ไขปัญหาผู้บุกรุก บริหารจัดการ และจัดระเบียบการใช้พื้นที่บริเวณบ้านพักนิคมรถไฟ กม.11 ได้ตระหนักถึงความเข้าใจของพี่น้องประชาชน จึงได้มีการลงพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจถึงเหตุผลและประโยชน์ของการพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งพบว่ากลุ่มผู้บุกรุกส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือพร้อมปฏิบัติตามเป็นอย่างดี

“การรถไฟฯ ยืนยันว่าการดำเนินการปรังปรุงเพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่ของการรถไฟฯ ได้ดำเนินการโดยยึดหลักความเท่าเทียม ความเป็นธรรม ปลอดภัย ไม่เลือกปฏิบัติ หลังจากที่ผ่านมาได้ประสบปัญหามีผู้บุกรุกเข้าใช้ประโยชน์พื้นที่อย่างยาวนาน จนกลายเป็นชุมชนเสื่อมโทรม มีสิ่งก่อสร้างกีดขวางทางระบายน้ำ ก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังและการจราจรติดขัด รวมถึงยังเกิดปัญหาอาชญากรรม ปัญหาทางด้านสาธารณสุข จนกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพนักงานการรถไฟฯ และประชาชนที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง การถไฟฯ จึงมีความจำเป็นที่ต้องเข้าไปดูแลการใช้ประโยชน์พื้นที่ให้มีความถูกต้อง และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคมส่วนรวม”










กำลังโหลดความคิดเห็น