กรมทางหลวงเผยสถิติอุบัติเหตุบนทางหลวง พ.ค. 63 มีจำนวน 1,042 ครั้ง ลดลง 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 17% โดยขับรถเร็วเกินกำหนด และเส้นทางตรง ยังเป็นที่ 1 ของสาเหตุ
กรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า สำนักอำนวยความปลอดภัย ทล.ได้สรุปรายงานข้อมูลอุบัติเหตุบนทางหลวงทั่วประเทศประจำเดือนพฤษภาคม 2563 จากการรายงานอุบัติเหตุทางระบบ HAIMS พบว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นบนทางหลวงในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง จำนวน 1,042 ครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 175 คน ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 776 คน จำนวนรถที่เกิดอุบัติเหตุ 1,527 คัน เป็นเหตุให้ทรัพย์สินของกรมทางหลวงเสียหายประมาณ 12 ล้านบาท
เมื่อเปรียบเทียบสถิติอุบัติเหตุประจำเดือนพฤษภาคม 2562 จำนวนอุบัติเหตุลดลง 13% ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 17% บาดเจ็บลดลง 29% จำนวนรถที่เกิดอุบัติเหตุลดลง 14%
สาเหตุหลักการเกิดอุบัติเหตุมาจากผู้ขับขี่ขับรถด้วยความเร็วสูงกว่ากฎหมายกำหนด 70% (728 ครั้ง) รองลงมาได้แก่ การตัดหน้าระยะกระชั้นชิด 9% (95 ครั้ง) หลับใน 6% (65 ครั้ง) และอุปกรณ์รถบกพร่อง 6% (63 ครั้ง)
สำหรับอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดบริเวณทางตรง 64% (663 ครั้ง) ทางโค้งปกติ 14% (144 ครั้ง) และจุดเปิดเกาะกลางถนน 7% (70 ครั้ง) ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ ได้แก่ รถปิกอัพบรรทุก 4 ล้อ 44% (665 คัน) รถยนต์นั่ง 21% (322 คัน) และรถจักรยานยนต์ 14% (207 คัน)
หากจำแนกตามภาคของการเกิดอุบัติเหตุ พบว่าเส้นทางในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเกิดอุบัติเหตุสูงสุด 23% ภาคเหนือ 22% และภาคใต้ 14%
นอกจากนี้ ทางหลวงที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ ทางหลวงหมายเลข 7 ถนนศรีนครินทร์-บางปะกง จำนวน 59 ครั้ง หากจำแนกตามรายจังหวัดพบว่ากรุงเทพมหานครเกิดอุบัติเหตุสูงสุด รองลงมาได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดชลบุรี ตามลำดับ
ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้มีมาตรการแก้ไขที่ได้ดำเนินการร่วมกับตำรวจทางหลวงในการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการตรวจจับความเร็วยานพาหนะที่วิ่งบนทางหลวง ซึ่งเป็นมาตรการที่สำคัญในการลดและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น กรมทางหลวงขอความร่วมมือผู้ใช้ทางโปรดขับขี่ด้วยความระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยของท่านและผู้ร่วมทาง รวมถึงป้องกันและลดอุบัติเหตุให้ได้ประสิทธิผลอีกด้วย