ผู้จัดการรายวัน360- สยามพิวรรธน์ ไซม่อน แย้ม พรีเมียมเอาท์เล็ตอีก 2 สาขาใหม่อาจต้องเลื่อนออกไปจากผลกระทบโควิด-19 ทั่วโลก แต่ยืนยันลงทุนต่อเนื่องแน่นอนแค้ช้าไปบางเท่านั้น พร้อมเปิดสาขาแรกเป็นทางการแล้ว หลังเลื่อนมาเกือบ 2 เดือน ปรับแผนเน้นคนไทยมากขึ้น เหตน่านฟ้ายังไม่เปิด นักท่องเที่ยวต่างชาติยังมาไม่ได้
นายไมเคิล ถัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามพิวรรธน์ ไซม่อน จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจพรเมียมเอาท์เล็ตในไทย เปิดเผยว่า จากแผนเดิมที่บริษัทฯวางไว้จะเปิดเอาท์เล็ตในเบื้องต้น 3 แห่งในไทนนั้น ขณะนี้อีก 2 โครงการจากนี้คงจะต้องมีการเลื่อนออกไปบ้าง จากผลกระทบของโรคระบาดโควิด-19 ที่ระบาดรุนแรงทั่วโลก แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯและกลุ่มไซม่อนยังคงยืนยันที่จะลงทุนต่อเนื่อง ซึ่งโดยปกติแล้ว กลุ่มไซม่อนเมื่อไปลงทุนในประเทศใดก็แล้วแต่จะต้องมีสาขามากกว่า 1 แห่งทั้งสิ้นในทุกประเทศ เช่น ในญี่ปุ่นเปิดเอาท์เล็ต 10 แห่ง และในเกาหลีเปิด 5 แห่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ2ปีที่แล้ว ผู้บริหารของสยามพิวรรธน์ เคยกล่าวไว้เมื่อช่วงเปิดตัวบริษัทร่วมทุนว่า ตามแผนการร่วมทุนตลอด 3 ปีจากนี้ จะมีการลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท เพื่อสร้าง Luxury Premium Outlet รวม 3 แห่งในประเทศไทย คือ ในกรุงเทพฯ 1 แห่ง ซึ่งก็คือที่ถนนแพร่งหลวงที่เปิดบริการวันนี้ ( 19 มิถุนายน ), ภาคใต้ 1 แห่ง และภาคเหนือ 1 แห่ง
นายไมเคิลกล่าวต่อว่า สำหรับโครงการแรก สยาม พรีเมียม เอาท์เล็ต แบงค็อกนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จตั้งแต่เดือนเมษายน2563แล้ว แต่ก็ต้องเลื่อนมาตลอด เนื่องจากสถานการ์โควิด-19 อีกทั้งปัญหาที่ขณะนี้ยังมีการปิดน่านฟ้าอยู่ แม้ว่าจะเริ่มมีการผ่อนคลายบ้างแล้วก็ตาม ทำให้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติหายไป แต่กลุ่มไซม่อน พร็อพเพอร์ตี้ พันธมิตรจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกต้องการให้เปิดบริการได้แล้ว
โดยโครงการแรกนี้ใช้เงินลงทุน 4,000 ล้านบาท เปิดบริการเฟสที่1 พื้นที่ 50 ไร่ก่อน จากทั้งหมด 150 ไร่ ส่วนเฟสที่2 จะเป็นส่วนต่อขยายเอาท์เล็ต ส่วนเฟสที่3จะเป็นบริการอื่นเช่นโรงแรม
“การเปิดบริการครั้งนี้ ก็ดำเนินมาตรการเพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัย ซึ่งสอดรับกับมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาล โดยจัดให้มีมาตรการการเช็คอินและเช็คเอาท์ ผ่านแพลตฟอร์มไทยชนะ ตรวจวัดอุณหภูมิ รวมถึงจุดให้บริการเจลล้างมือแอลกอฮอลล์ รวมถึงพนักงานผู้ให้บริการจะสวมมาส์กและรักษาสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด รวมถึงการกำหนดจำนวนผู้มาใช้บริการให้เป็นไปตามมาตรการ เว้นระยะห่างของภาครัฐอย่างเข้มงวด” นายไมเคิล กล่าว
ขณะเดียวกันยังต้องปรับแผนการตลาดและกลุ่มเป้าหมายใหม่ โดยจะหันมาเน้นคนไทยและคนต่างชาติที่อยู่ในไทยมากขึ้น ทั้งในกรุงเทพ ที่มีมากกว่า 12 ล้านคนและต่างจังหวัดใกล้เคียงเช่น ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ด้วยสัดส่วนมากถึง 80% และที่เหลือเป็นคนต่างประเทศทำงานอยู่ไทยและนักท่องเที่ยวที่ยังตกค้างอยู่ รวมทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเริ่มทยอยเข้ามาเที่ยวในไทยหลังจากนี้ส่วนหนึ่งซึ่งคงยังไม่มากรวม20% จากเดิมที่ตั้งเป้าสัดส่วนเป็นคนไทย 60% และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40% ( จะเป็นคนจีนมากที่สุดถึง 60%) ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าหมายคนเข้ามาใช้บริการประมาณ 10,000 คนต่อวัน คาดว่าผู้มาใช้บริการจะมีการซื้อสินค้ามากถึง 90-95% จากนำนวนทั้งหมดและมีปริมาณการซื้อเฉลี่ย 1,500 - 2,000 บาทต่อคน
สำหรับร้านค้าที่เปิดบริการแล้วขณะนี้มีประมาณ 65% และคาดว่าภายในสิ้นปี2563 นี้จะเปิดเพิ่มเป็น 80% ส่วนอีก 20% ที่เหลือนั้นก็เป็นแบรนด์ที่ยังมีการเจรจาติดต่อกันอยู่ยังไม่สรุป โดยสินค้าที่มาเปิดให้บริการแบ่งเป็นแบรนด์ลักซ์ชัวรี่ 10% อาหาร 10% และแบรนด์ต่างประเทศ 80% จากทั่วโลกมากกว่า 200 แบรนด์ ซึ่งช่วงเปิดบริการใหม่ๆนี้มีการจัดโปรโมชั่นพิเศษ 3 วันแรก มอบส่วนลดเพิ่มอีก 10-15% จากเดิมลด 70% ระหว่างวันที่ 19-21 มิ.ย.63
แบรนด์ลักซ์ชัวรี่ระดับเวิลด์คลาสที่เผยโฉมในคอนเซ็ปต์เอาท์เล็ตเป็นครั้งแรกในเมืองไทย ได้แก่ Burberry, Balenciaga, Bally, Breitling, CK, Furla, Hugo Boss และ Montblanc รวมถึงแบรนด์ลักซ์ชัวรี่อีกมากมาย อาทิ Salvatore Ferragamo, DKNY, 3.1 Phillip Lim, Alexander Wang, Black Barrett by Neil Barrett, Diesel, Marni, P.S. Paul Smith, Proenza Schouler, Stella McCartney, DKNY, See by Chloé, Joseph and Porsche Design รวมถึงเอาท์เล็ต Coach, kate spade NEW YORK และ Skechers ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยนำเสนอสินค้าครบครัน และแบรนด์อินเตอร์เนชั่นแนลชั้นนำและแบรนด์ไทยที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ American Eagle, Cotton On, Mango, New Era, U.S. Polo Assn., Camper, Dr. Martens, REPLAY, Sperry และ Lamy นอกจากนี้ยังมี Nike พรีเมี่ยม รีเทล สโตร์ ขนาดใหญ่กว่า 1,300 ตารางเมตร ที่มาพร้อมสิทธิพิเศษสำหรับดิจิทัลเมมเบอร์โดยเฉพาะ และสไตล์การตกแต่งร้านที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปะไทย อีกทั้ง adidas เอาท์เล็ต ที่ครบครันด้วยคอลเลคชั่นทั้งสปอร์ตและแฟชั่นกว่า 2,000 รายการ อีกทั้ง แบรนด์สปอร์ตแวร์เอ็กซ์คลูซีฟมากมาย อาทิ Asics, Vans, North Face, Sports Selected และ Grand Motorsports
พร้อมด้วยแบรนด์สินค้าของตกแต่งบ้าน เทคโนโลยี และสินค้าสำหรับเด็ก อาทิ Tefal, Ralph Lauren Home, Calvin Klein, Sanderson, Yves Delorme, Garmin, Fitbit, irobot, DJI Phantom, Nintendo, Lego และอีกมากมาย รวมทั้งแบรนด์ไทยระดับแนวหน้าอย่าง EVEANDBOY ไลฟ์สไตล์บิวตี้สโตร์อันดับหนึ่งของเมืองไทยที่จะเผยโฉมในคอนเซ็ปต์ใหม่ นอกจากนี้จะมีลักซ์ชัวรี่แบรนด์เข้ามาเสริมทัพเพิ่มเติมอีกในระยะเวลาอันใกล้นี้อย่างต่อเนื่อง
นักช้อปยังสามารถเพลิดเพลินกับทั้งอาหารและเครื่องดื่มจากหลากหลายร้านดัง อาทิ Starbucks, Ajisan, Café Amazon, ChaTraMue, Hong Kong Noodle, KOI Thé, Olino Crepe & Tea, Subway, S&P, Red Diamond, KFC และ Sushi Plus รวมถึงเมนูอาหารทั้งไทยและนานาชาติให้เลือกอย่างหลากหลายที่ Food Republic ขนาดใหญ่กว่า 1,200 ตารางเมตร
“สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ” มอบประสบการณ์ที่มากกว่าการช้อปปิ้ง ด้วยการเติมเต็มความสุข และความต้องการของไลฟ์สไตล์หลากหลายได้ในทุกๆ วัน ให้ที่นี่เป็นศูนย์รวมของการพบปะสังสรรค์ ผ่อนคลายและการทำกิจกรรมร่วมกันของครอบครัวและเพื่อนฝูง ท่ามกลางบรรยากาศเอาท์ดอร์ ที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียว สดชื่นด้วยองค์ประกอบของน้ำพุและน้ำตก มีโซนให้เด็กๆ ได้เล่นสนุกเพื่อเสริมสร้างจินตนาการทั้งสไตล์อินดอร์และเอาท์ดอร์ โซนแอมฟิเธียเตอร์เล่นระดับในบรรยากาศผ่อนคลายชวนให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ รวมถึงเติมแต่งบรรยากาศด้วยศิลปะไทยในอารมณ์ร่วมสมัย ให้ศิลปะเป็นสิ่งที่สามารถชื่นชมได้ในทุกๆ วัน กับผลงาน ในธีม ‘Eco Jungle’ ฝีมือศิลปินไทย รุ่นใหม่ระดับแนวหน้า อาทิ ผลงานศิลปะจากไม้ไผ่อันเป็นเอกลักษณ์ ฝีมือของกรกต อารมย์ดี, งานประติมากรรมโลหะรีไซเคิลที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดอกไม้ไทยโดย Pin Metal Art หรือ ปิ่น-ศรุตา เกียรติภาคภูมิ และ งานสีสันสดใสจากวัสดุ รีไซเคิล โดย WISHULADA โดย วิชชุลดา ปัณฑรานุวงศ์
พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ ที่จอดรถที่สามารถรองรับได้กว่า 1,500 คัน, บริการไว-ไฟฟรี, ห้องรับรองสมาชิกและนักท่องเที่ยวในบรรยากาศหรูหรา, ห้องรับรองสมาชิกทุกคนในครอบครัว, ห้องสำหรับแม่และเด็ก, ห้องรอรับบริการ รถ Shuttle Bus โดยสารฟรี, บริการรถเข็นเด็ก และ บริการรถเข็นสำหรับผู้พิการหรือผู้สูงอายุฟรี เป็นต้น
“สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ” เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 – 21.00 น. เดินทางได้อย่างสะดวกสบายเพียง 15 นาทีจากสนามบินสุวรรณภูมิ หากเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวจากใจกลางกรุงเทพฯ สามารถใช้เส้นทางทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 มอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ชลบุรี กม.23 ทางออก 5 ลาดกระบัง หรือ ใช้บริการรถ Shuttle Bus รับส่งฟรีจากสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ สถานีมักกะสัน ถึง “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ” สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถชมได้ที่ www.siampremiumoutlets.com หรือ โทร. 02-082-8998
ทั้งนี้ไซม่อน พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต นำเสนอแบรนด์ดังในราคาสุดคุ้มค่า มีทั้งแบรนด์ลักซ์ชัวรี่, แบรนด์จากดีไซเนอร์ ชั้นนำ รวมถึงเครื่องใช้และของตกแต่งบ้าน ไซม่อน พรีเมี่ยม เอาท์เล็ตในสหรัฐอเมริกา, เปอร์โตริโก้, แคนาดา, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย เม็กซิโก และเกาหลีใต้ นั้นขึ้นชื่อว่าเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการช้อปปิ้งของผู้คนและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยพรีเมี่ยม เอาท์เล็ตที่มีความโดดเด่นมากที่สุด ได้แก่ Woodbury Common Premium Outlets นิวยอร์ค, Orlando International Premium Outlets, Desert Hills Premium Outlets, Las Vegas North Premium Outlets และ Wrentham Village Premium Outlets ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook, Twitter และ Instagram