ผู้จัดการรายวัน 360 - เซ็นทรัล-โรบินสันสลับร่าง เปลี่ยนแบรนด์ ประเดิมปรับโรบินสัน 3 สาขาเป็นห้างเซ็นทรัล นำร่องที่สาขาเมกาบางนา เหตุขนาดพื้นที่ใหญ่-ทำเลทอง เหมาะมากกว่า
นายวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) ในเครือเซ็นทรัลรีเทล กล่าวว่า ในปี 2563 นี้บริษัท เซ็นทรัลรีเทล จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ในฐานะบริษัทแม่ได้วางโครงสร้างธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มเซ็นทรัล ทำให้ CRC เป็นผู้นำค้าปลีกที่มี “ดีพาร์ตเมนต์สโตร์” รวมกันมากที่สุดถึง 74 สาขา (ประกอบด้วย ห้างเซ็นทรัล 23 สาขา และห้างสรรพสินค้าโรบินสัน 51 สาขา) และตามแผนงานในการพัฒนาธุรกิจ CRC ได้มีการปรับบิสิเนสโมเดลใหม่ให้สอดรับกับการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ
*** สาเหตุปรับโรบินสันเป็นเซ็นทรัล
สำหรับการปรับรูปแบบของธุรกิจใหม่ที่จะปรับเปลี่ยนห้างเซ็นทรัลในบางสาขาให้เป็นห้างโรบินสัน และการปรับเปลี่ยนห้างโรบินสันบางสาขาให้เป็นห้างเซ็นทรัล เบื้องต้นจะปรับห้างโรบินสันเป็นห้างเซ็นทรัล 3 สาขาก่อน คือ ในกรุงเทพฯ 2 สาขา และต่างจังหวัด 1 สาขา เริ่มที่ห้างโรบิสันสาขาเมกาบางนา ซึ่งเปิดมา 8 ปีพร้อมกับเมกาบางนา ที่จะเปลี่ยนเป็นห้างเซ็นทรัลวันที่ 2 ก.ค. 63 นี้
พื้นที่นี้มีกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง ตั้งอยู่ในศูนย์กลางชุมชนที่ทันสมัย มีอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่หลายโครงการ ตั้งอยู่ใกล้ท่าอากาศยานนานาชาติ มีสถานศึกษาขนาดใหญ่หลายแห่ง มีระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้า MRT รองรับ เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของเมืองกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก จึงเหมาะสมในการปรับภาพลักษณ์ใหม่ ให้ “โรบินสันเมกาบางนา” เปลี่ยนเป็น “เซ็นทรัลเมกาบางนา” ซึ่งโซนตะวันออกนี้ยังมีอีก 3 สาขาบริการ คือ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ศรีนครินทร์, ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ลาดกระบัง และศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ สมุทรปราการ
ส่วนแผนโรบินสันยังคงเปิดสาขาใหม่เฉลี่ย 3 สาขาต่อปี จะเน้นไปที่ไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์เป็นหลัก ปัจจุบันมี 51 สาขา รวม 583,300 ตารางเมตร ใน 36 จังหวัด
นอกจากนี้ การปรับบิสิเนสโมเดลใหม่ของโรบินสัน (New Business Model) ยังควบรวมไปถึงการหา New Channel ใหม่ๆ เพื่อรองรับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ภายใต้การมอบความสะดวกสบายแก่นักชอปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันโรบินสันได้พัฒนาแพลตฟอร์มการขายทั้ง 4 ช่องทางให้ตอบโจทย์ความสะดวกสบายแก่นักชอปมากที่สุด 1) ROBINSON ONLINE (www.robinson.co.th)
2) ROBINSON FACEBOOK LIVE ชอปผ่าน FACEBOOK INBOX ROBINSON DEPARTMENT STORE 3) ROBINSON CHAT & SHOP ที่ LINE @ROBINSON และ 4) ROBINSON CALL & SHOP ชอปผ่านโทรศัพท์ ที่หมายเลข 0-2160-3933 รวมทั้งบริการรับสินค้าง่ายๆ ทั้งบริการส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ และ CLICK & COLLECT รับสินค้าที่จุดบริการลูกค้าสาขาใกล้บ้าน โดยช่องทางเหล่านี้จะเข้ามาช่วยเสริมทัพการตลาดของโรบินสันให้มีความแข็งแกร่ง และสามารถตอบรับ NEW NORMAL LIFE และสถานการณ์ DIGITAL DISRUPTION ได้อย่างเหนือชั้น ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้โรบินสันก้าวสู่การเป็น ‘ออมนิแชนเนล ดีพาร์ตเมนต์สโตร์’ ที่สมบูรณ์แบบตามที่ตั้งเป้าไว้ในอนาคตได้อีกด้วย ซึ่งช่วงปิดห้างช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมายอดขายจากออนไลน์เติบโตมาก
*** ห้างเซ็นทรัลลงทุนปรับ 50 ล้านบาทเฟสแรก
นางณัฐธีรา จิราธิวัฒน์ บุญศรี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า จะใช้งบลงทุน 50 ล้านบาทในเฟสแรก มีจำนวน 3 ชั้น ส่วนในเฟสที่สองคาดว่าประมาณปลายปีหน้าจะปรับใหญ่อีกครั้งด้วยการเพิ่มพื้นที่ขายด้วย เนื่องจากมองว่ากลุ่มลูกค้าย่านเมกาบางนา รวมทั้งพื้นที่ขายของโรบินสันเดิมมีมากถึง 13,000 ตารางเมตร จะมีความเหมาะสมกับห้างเซ็นทรัลมากกว่า เน้นกลุ่มคนวัยทำงานและครอบครัวคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อสูง คาดว่าจะเพิ่มยอดขายได้สิ้นปีหน้า 20%
โดยจะปรับเปลี่ยนและเพิ่มสินค้าอีกมาก ทั้งแบรนด์ไทย-แบรนด์อินเตอร์ และแบรนด์ที่มีเฉพาะที่ห้างเซ็นทรัลเท่านั้นรวมกว่า 400 แบรนด์ ที่จะทยอยเข้ามามอบความพิเศษในปีนี้ รวมกว่า 1,000 แบรนด์ เช่น Chanel, Dior, Nars, Sisley, Dyson, Nine West, Steve Madden, Cath Kidston, Tommy Hilfiger, MLB, Fila รวมถึงสินค้า Only@Central ที่มีจำหน่ายเฉพาะที่ห้างเซ็นทรัล เช่น Dorothy Perkins, Sfera, Miss Selfridge และแบรนด์ Exclusive อย่าง Sanrio และ Smiggle เป็นต้น
*** จัดเต็มสินค้าแบรนด์ชั้นนำใหม่-เอ็กซ์คลูซีฟ
สำหรับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของห้างเซ็นทรัลเมกาบางนา จะเน้นกลุ่มคนไทยที่เป็นคนทำงาน และครอบครัวคนรุ่นใหม่ รวมถึงชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย และอาศัยในย่านนี้ ซึ่งจะต่างกับ Target ของห้างเซ็นทรัลบางนา ที่จะเน้นกลุ่มครอบครัวใหญ่ที่มีหลายเจเนอเรชัน และเนื่องด้วยฐานข้อมูลบัตรเดอะวัน เป็น Big Data ที่แข็งแกร่ง มีจำนวนมากถึง 16 ล้านคน ทำให้เราเห็นถึงความต้องการ และกำลังซื้อของลูกค้า จึงได้นำแบรนด์ใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาให้ลูกค้าได้เลือกชอป พร้อมกันนี้ ภายในห้างเซ็นทรัลเมกาบางนายังมีความทันสมัยและอบอุ่น เหมาะสำหรับลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย โดยมีจำนวน 3 ชั้น รวมพื้นที่ใช้สอยกว่า 13,000 ตร.ม. มีสินค้าชั้นนำทั้งไฮเอนด์แบรนด์ในประเทศ, แบรนด์อินเตอร์นำเข้า, แบรนด์ Only@Central รวมถึงแบรนด์ใหม่ยอดนิยมอีกกว่า 400 แบรนด์ ที่จะทยอยเข้ามาเสริมทัพในปีนี้ รวมกว่า 1,000 แบรนด์ ดังนี้
ชั้น 1 : BEAUTY GALERIE, WOMEN’S FASHION, WOMEN’S ACCESSORIES, SHOES &
HANDBAGS, LINGERIE, WATCHES & JEWELRY
• แผนก BEAUTY GALERIE (บิวตี้แกลเลอรี) อาณาจักรความงามที่จะมอบประสบการณ์ที่แตกต่าง ครบครันด้วยแบรนด์ไฮเอนด์ชั้นนำทั้งไทย และระดับโลก ให้สาวๆ เสริมลุคเปลี่ยนสไตล์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด แบรนด์ชั้นนำ เช่น ESTĒE LAUDER, SHISEIDO, DIOR, CLARINS, LANCOME, SKII, CLINIQUE, BOBBI BROWN, LAURA MERCIER แบรนด์ใหม่ เช่น CHANEL, SISLEY, NARS, ORINGINS, AVEDA, PREMIER จะตามมาภายในสิ้นปี พร้อมทั้งมี DYSON BEAUTY SHOP เปิดให้บริการอีกด้วย
• แผนก WOMEN’S FASHION ตอบโจทย์ทุกสไตล์ หลากหลายไปด้วยสินค้าแฟชั่นแบรนด์ดัง พร้อมอัปเดตเทรนด์สินค้าแบรนด์ใหม่ที่เป็น Exclusive Brands เฉพาะห้างเซ็นทรัล แบรนด์ชั้นนำ เช่น ESPADA, BOSINI, ESPRIT, G2000 แบรนด์ใหม่ เช่น DOROTHY PERKINS, MISS SELFRIDGE, SFERA, DEFRY 01 WOMEN
• แผนก WOMEN’S ACCESSORIES, SHOES & HANDBAGS แหล่งรวมสินค้าแฟชั่นแอ็กเซสซอรี ครบครันทุกไอเท็ม แมตช์ได้ทุกสไตล์ ตั้งแต่ Day to Night สวมใส่ได้ทุกโอกาส คอมพลีตลุคแบบหัวจดเท้า แบรนด์ชั้นนำ เช่น FITFLOP, HUSH PUPPIES, GUESS, KIPLING, ANELLO แบรนด์ใหม่ เช่น NINE WEST, STEVE MADDEN, CATH KIDSTON, JEFFREY CAMPBELL, STACCATO, ECLIPSE, PAZZION, PRETTYFIT
• แผนก LINGERIE ศูนย์รวมแบรนด์ชุดชั้นในที่เป็นมากกว่าแค่ชุดที่ใส่ข้างใน ปฏิวัติรูปแบบเดิม พร้อมเสริมความมั่นใจให้แก่สุภาพสตรีด้วยแพตเทิร์นที่ทันสมัย ผสมกับกลิ่นอายความเซ็กซี่ของผู้หญิง แบรนด์ชั้นนำ เช่น WACOAL, SABINA, TRIUMPH แบรนด์ใหม่ เช่น CALVIN KLEIN, ETAM, MAIDENFORM, UNDERGEAR และชุดนอน CLAUDIA ROMANCE, ELIZABETH, MARIA VICTORIA, SANRIO SLEEPWEAR
นอกจากนี้ ยังมีโซนสำหรับผู้หญิงสายเฮลตี้ที่ชื่นชอบ และรักการออกกำลังกาย โดยรวบรวมแบรนด์ดัง เช่น GIRLSNATION, JENIM, L’URV, MANDUKA, TAACTIVE, TOESOX, WAKINGBEE, YOGATIQUE
• แผนก WATCHES & JEWELRY อาณาจักรของคนรักนวัตกรรมเรือนเวลา ครบครันด้วยแบรนด์ชั้นนำจากทั่วโลก พร้อมฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ทุกสไตล์อย่างมีระดับ ทั้งยังมีโซนที่โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ดีไซน์สุดประณีตจากจิวเวลรีแบรนด์ดัง แบรนด์ชั้นนำ เช่น LONGINES, RADO, CASIO, SEIKO, GUESS
แบรนด์ใหม่ เช่น PRIMA GOLD, PRIMA DIAMOND, MAURICE LACROIX, LUMINOX, ORIENT
ชั้น 2 : MEN & YONG FASHION, BABY & KIDS
• แผนก MEN & YONG FASHION สนามแฟชั่นสำหรับเหล่าแฟชั่นนิสต้าให้ได้มาสนุกกับการมิกซ์แอนด์แมตช์ครีเอตลุคสร้างสไตล์ตามเอกลักษณ์ของตัวเอง ครบครันแบรนด์ชั้นนำระดับโลก พร้อมให้แฟชั่นนิสต้าทั้งชายและหญิงได้เผยความเท่ เพิ่มความมั่นใจ ด้วยเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายหลายแบรนด์ดัง แบรนด์ชั้นนำ เช่น CALVIN KLEIN JEANS, LEVI’S, NEW BALANCE, SUPERGA, SKECHERS, FITFLOP, ARROW, ALUMNUS, ANDREW BROWN, CARLO BASANO, CROCS, DEFRY 01, NIKE, ADIDAS, PUMA SELECT, CONVERSE
แบรนด์ใหม่ ตามมาภายในสิ้นปี เช่น TOMMY HILFIGER, G2000, MLB, FILA, HAVAIANAS, OOFOS, KAMIMURA, ONITSUKA TIGER
• แผนก BABY & KIDS อาณาจักรแห่งจินตนาการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ครอบครัวรุ่นใหม่ ครบทุกความต้องการสำหรับเด็กๆ มีแบรนด์ Exclusive เช่น SMIGGLE แบรนด์ระดับโลกจากประเทศออสเตรเลียมีจำหน่ายในประเทศไทยที่ห้างเซ็นทรัลเท่านั้น SANRIO กองทัพสินค้าสุดคิวต์อย่าง HELLO KITTY, MY MELODY, LITTLE TWIN STAR พร้อมพบกับโซน Kids Sport Brands เช่น ADIDAS, NIKE, PUMA และแบรนด์แฟชั่นชื่อดัง เช่น SFERA, SANRIO, DEFRY 01 KIDS, DISNEY BABIES, DISNEY PRINCESS ขณะที่แผนกของเล่นได้มีการปรับโฉมใหม่ด้วยจุดกิจกรรมมากมาย เช่น เสริมพัฒนาการกับ LEGO สนุกกับรางรถแข่ง HOTWHEEL และประลองความแม่นยำกับ NERF เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีของใช้เด็กอ่อนแบรนด์ชั้นนำ เช่น COMBI, PIGEON, PHILIPS AVENT, CHICCO
ชั้น G : HOME, LUGGAGE
• แผนก HOME มอบประสบการณ์ใหม่ในการชอปปิ้งสำหรับคนรักบ้าน ด้วยสินค้าครบครันทุกประเภททั้งของตกแต่งบ้าน สินค้าเครื่องครัว เครื่องนอน พรม หมอนอิง รวมถึงอุปกรณ์ในห้องน้ำ โดยจัดวางสินค้าตามประเภทให้ง่ายต่อการเลือกซื้อ พร้อมสร้างบรรยากาศเป็น Room concept ช่วยจุดประกายไอเดียในการจัดบ้าน หากชื่นชอบธีมนั้นๆ ก็สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น โดยมีแบรนด์ไฮไลต์ เช่น CENTRAL HOME, ESQUIRE, CORELLE, LOCK&LOCK, NU COVER, OMAZZ, PASAYA, SANTAS, ZWILLING นอกจากนี้ ยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กที่จะเติมเต็มให้ครบทุกความต้องการ เช่น BLUEAIR, DYSON, ELECTROLUX, IROBOT, KITCHENAID, NESPRESSO, PANASONIC, PHILIPS, TEFAL, KENWOOD
• แผนก LUGGAGE มุมสำหรับนักเดินทาง และผู้ที่รักการท่องเที่ยว ที่นี่จะกลายเป็นโซนโปรดให้คุณเพลิดเพลินกับการเลือกกระเป๋าเดินทาง ซึ่งคับคั่งด้วยแบรนด์ดัง เช่น AMERICAN TOURISTER, CAGGIONI, DELSEY, ELEMENTS, ELLE, LOJEL, SAMSONITE, THULE, VICTORINOX
*** ปรับรูปแบบการขาย
นางณัฐธีรากล่าวเสริมด้วยว่า “นอกจากนี้ ห้างเซ็นทรัลยังได้มีการปรับรูปแบบการขายแบบใหม่ มีบริการ ‘CENTRAL ANYTIME ANYWHERE‘ โดยปรับตามพฤติกรรมของลูกค้าที่นิยมใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยจะเห็นว่าให้บริการตอบรับลูกค้าแบบ 360 องศา เป็นออมนิแชนเนลอย่างสมบูรณ์แบบ เชื่อมต่อออฟไลน์ และออนไลน์ได้อย่างไร้รอยต่อ ผ่านบริการรูปแบบต่างๆ ที่ลูกค้านิยม เช่น ชอปปิ้งผ่านเว็บไซต์ www.central.co.th ที่เราฟอร์มทีมอย่างแข็งแกร่งมาตั้งแต่ปี 2014 มีช่องทางขายผ่าน Facebook Live ที่เพจเฟซบุ๊กห้างเซ็นทรัล มีบริการ Central Chat & Shop ชอปผ่านแอปพลิเคชัน Line ที่ @CENTRALOFFICIAL, บริการ Central Call & Shop ให้ชอปปิ้งโดย โทร. 0-2793-7555 พร้อมบริการใหม่! Drive Thru บริการรับสินค้า และชำระเงินง่ายๆ โดยไม่ต้องลงจากรถ ซึ่งได้รับความสนใจจากลูกค้าจำนวนมาก รวมถึงบริการ E-Ordering และบริการ Click and Collect บริการสั่งของออนไลน์ที่สามารถมารับได้ที่หน้าร้าน ซึ่งทั้งหมดนี้เรายังคงมีบริการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างเต็มที่”
“นอกจากนี้ ลูกค้าที่มาใช้บริการที่ห้างเซ็นทรัลยังอุ่นใจได้กับมาตรการ ‘Central Clean & Safe’ ในคอนเซ็ปต์ ‘ห้างเซ็นทรัล สะอาด ปลอดภัย อุ่นใจ เสมือนอยู่บ้าน’ ครอบคลุม 5 หัวข้อหลัก 26 มาตรการเข้มด้านสุขอนามัยตามมาตรฐานของภาครัฐ เพื่อให้ลูกค้ามาชอปได้อย่างมั่นใจในความสะอาด ปลอดภัยไร้กังวล เชื่อว่าด้วยความพร้อมทั้งหมดที่กล่าวมา จะช่วยกระตุ้นบรรยากาศการจับจ่าย และหนุนเสริมเศรษฐกิจในย่านนี้ให้มีความคึกคักมากขึ้น”
ปัจจุบันพื้นที่ย่านบางนา-ตราด เป็นทำเลทอง เป็นย่านเศรษฐกิจที่มีศักยภาพสูง เป็นประตูสู่ภาคตะวันออกเชื่อมต่อหลายจังหวัด เป็นหน้าด่านก่อนเข้าสู่กรุงเทพมหานคร อนาคตยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และรถไฟฟ้ารางคู่บางนา-สุวรรณภูมิ ที่จะเป็นแรงเสริมการเติบโตของพื้นที่นี้ ยังมีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่จำนวนมาก มีบ้านจัดสรรมากถึง 18 โครงการ และอยู่ใกล้สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ทั้งจำนวนประชากรในย่านนี้มีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ส่วนแผนขยายสาขาใหม่ยังมีเฉลี่ย 1-2 ปีต่อสาขา ขณะที่ห้างเซ็นทรัลกับโรบินสันที่ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เปิดมากว่า 30 ปี เพิ่งต่อสัญญากับเจ้าของพื้นที่และจะมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ โดยจะยังคงเปิดทั้ง 2 แบรนด์เหมือนเดิม ซึ่งช่วงโควิด-19 ที่ต้องปิดห้างทั้งหมดยอดขายผ่านออนไลน์เติบโตมากกว่า 600% แต่หลังจากที่เปิดห้างแล้วก็ยังเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งจากนี้จะเน้นช่องทางออมนิแชนเนลมากขึ้น
ทั้งสองยังให้ความเห็นด้วยว่า ต้องการให้ภาครัฐบาลมีมาตรการต่างๆ ออกมาช่วยเหลือฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมทั้งช่วยภาคประชาชนเพื่อให้มีกำลังซื้อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม
การดำเนินธุรกิจของเครือกลุ่มเซ็นทรัลรีเทลอยู่บนพื้นฐานการตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป็นสำคัญ การคัดสรรแบรนด์ที่ห้างเซ็นทรัลนำเข้ามาจึงเป็นการตอบโจทย์ทั้งความต้องการสินค้าแบรนด์คุณภาพ และกำลังซื้อที่สูงขึ้น ห้างเซ็นทรัลเป็นแบรนด์ห้างสรรพสินค้าที่แข็งแกร่งครองใจลูกค้าคนไทยมากกว่า 70 ปี และเป็นที่น่าเชื่อถือของนักท่องเที่ยวต่างชาติมายาวนาน การันตีด้วยรางวัลต่างๆ ที่ได้รับทั้งในประเทศไทย และบนเวทีโลก อย่างล่าสุดห้างเซ็นทรัลเป็นห้างเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่คว้ารางวัลอันทรงเกียรติระดับโลก “The 2020 GIA Global Honoree for Excellence in Retail” ความเป็นเลิศด้านการค้าปลีก ในงาน “The 2020 GIA Awards” ที่สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัล Influential Brands สุดยอดแบรนด์ชั้นนำประจำปี 2019 จากงาน 2019 Asia CEO Summit & Award Ceremony ในหมวดห้างสรรพสินค้า ซึ่งห้างเซ็นทรัลได้รับการโหวตให้เป็นห้างสรรพสินค้าแรกที่กลุ่มเจนวาย (Gen Y/อายุ 25-35 ปี) รู้จักมากที่สุด รวมถึงรางวัล Thailand’s Most Admired Brand
ที่ห้างเซ็นทรัลได้รับการโหวตให้เป็นห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าปลีกสมัยใหม่ที่น่าเชื่อถือที่สุด อันดับ 1 ของประเทศไทย ติดต่อกันเป็นปีที่ 14 (พ.ศ. 2550-2563) ซึ่งเป็นผลการสำรวจความนิยมของผู้บริโภคทั่วประเทศของนิตยสาร BrandAge ร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศ
ห้างเซ็นทรัลเมกาบางนา พร้อมแล้วที่จะเปิดประสบการณ์ใหม่ในการชอปปิ้ง ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคน ทุกครอบครัว ให้มาใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เสมือนบ้านหลังที่ 2 และเพื่อแทนคำขอบคุณลูกค้า ต้อนรับการเปิดบริการ “ห้างเซ็นทรัลเมกาบางนา” ในวันพฤหัสบดีที่ 2 ก.ค. 63 พบกับสินค้าคอลเลกชันใหม่ลดสูงสุด 30%, ลด/รับเพิ่มสูงสุด 30% จากเดอะวัน และบัตรเครดิตชั้นนำที่ร่วมรายการ พร้อมรับฟรีคูปองส่วนลดแทนเงินสด และบัตรของขวัญเซ็นทรัล จากบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน หรือเครดิตเงินคืนจากบัตรเครดิตกสิกรไทย รวมสูงสุด 12% พิเศษ!! สำหรับลูกค้าบัตรมาสเตอร์การ์ด รับบัตรของขวัญเซ็นทรัล มูลค่า 1,000 บาท เมื่อชอป 2,000 บาทขึ้นไป/เซลสลิป (วันที่ 4-6 ก.ค. 63 จำกัด 200 สิทธิ์/วัน, 1 สิทธิ์/ท่าน ตลอดรายการ) ตั้งแต่วันที่ 2-15 ก.ค. 63
พร้อมกันนี้ ยังได้จัดกิจกรรมต่อเนื่องตลอด 1 เดือนเต็ม เช่น ร่วมสนุกที่บูทเกมบริเวณถุงชอปปิ้งยักษ์ รับฟรี! คูปองส่วนลดแทนเงินสดสูงสุด 200 บาท (วันที่ 2-6 ก.ค. 63 และทุกเสาร์-อาทิตย์ ตลอดเดือน ก.ค. 63), แชะแอนด์แชร์ กิจกรรมร่วมสนุกถ่ายรูปที่บูทถ่ายรูปสุดเก๋ ชวนแชร์ภาพผ่านเฟซบุ๊กพร้อมใส่แฮชแท็ก #Centralmegabangna รับฟรี! คูปองส่วนลดแทนเงินสด 100 บาท (วันที่ 2-6 ก.ค. 63), Performance Show ขบวนแดนซ์สร้างบรรยากาศที่จะยกขบวนไปมอบความสนุกสุดคึกคักในแต่ละชั้น (วันที่ 3-6 ก.ค. 63 เวลา 12.00/ 14.00/ 16.00/ 18.00 น.) พร้อมมีขบวนทรูป Promotion ที่จะช่วยสร้างสีสันในการชอปปิ้งให้ลูกค้าได้อย่างเพลิดเพลิน ตลอดจนความสนุกอื่นๆ อัดแน่นตลอดเดือน
*** เมกาบางนา มีลูกค้าเข้า 50 ล้านคนปีที่แล้ว
นางสาวปพิตชญา สุวรรณดี กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าเมกาบางนา กล่าวว่า “ศูนย์การค้าเมกาบางนามีความยินดีอย่างมาก พร้อมต้อนรับและสนับสนุนกิจกรรมของห้างเซ็นทรัลในทุกๆ ด้านอย่างเต็มที่ โดยห้างเซ็นทรัลจะเป็นผู้เช่ารายใหญ่ที่เป็น Magnet สำคัญของเมกาบางนา เพื่อร่วมกันสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ ตอกย้ำความเป็น ‘มีตติ้ง เพลส’ (Meeting Place) ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งกรุงเทพฯ ตะวันออก ร่วมเติมเต็มความสุข สนุกสนาน และยกระดับประสบการณ์การชอปปิ้งที่ครบครันทุกไลฟ์สไตล์ให้กับลูกค้าของเมกาบางนา จากข้อมูลในปี 2562 นั้น เมกาบางนามีจำนวนลูกค้าใช้บริการกว่า 50 ล้านคน และเป็นกลุ่มที่มีกำลังการซื้อสูง โดยลูกค้ากลุ่มนี้จะเป็นฐานลูกค้าที่มีศักยภาพ ช่วยต่อยอดเป้าหมายทางธุรกิจให้กับห้างเซ็นทรัลได้อย่างดี รวมไปถึงกลุ่มลูกค้าของห้างเซ็นทรัลก็จะได้สัมผัสประสบการณ์แห่งการชอปปิ้งใหม่ๆ บริการที่สะดวกสบาย และปลอดภัย ภายในศูนย์การค้าเมกาบางนาเช่นเดียวกัน”
