นายกรัฐมนตรีรับมอบ 6 นวัตกรรมทางการแพทย์จากกระทรวงพลังงาน โดย กฟผ.ได้นำความเชี่ยวชาญด้านการผลิตไฟฟ้ามาคิดค้นและประดิษฐ์นวัตกรรม เพื่อช่วยลดเสี่ยงภัย COVID-19 ซึ่ง กฟผ.ได้ส่งมอบให้กับโรงพยาบาลต่างๆ แล้วกว่า 200 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 50 จังหวัด ทั้งนี้หลังจบเหตุการณ์ COVID-19 ยังสามารถนำนวัตกรรมเหล่านี้มาใช้ตรวจโรคติดเชื้อทางเดินหายใจอื่นๆ ได้ด้วย
วันนี้ (9 มิถุนายน 2563) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับมอบนวัตกรรม กฟผ.สู้ภัย COVID-19 จากนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงานและประธานกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ. และผู้บริหาร กฟผ. ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ.เปิดเผยว่า กฟผ.ในฐานะหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพลังงาน สนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์ COVID-19 โดยได้ระดมจิตอาสาพนักงาน กฟผ.ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมการผลิตไฟฟ้า คิดค้นและประดิษฐ์นวัตกรรมทางการแพทย์ ส่งมอบให้แก่โรงพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ พร้อมเสริมศักยภาพในการตรวจรักษาผู้ป่วยทุกขั้นตอนตั้งแต่กระบวนการตรวจคัดกรอง ประกอบด้วย 1. ฉากกั้นอะคริลิกป้องกันเชื้อ 185 ชิ้น 2. ตู้เก็บสิ่งส่งตรวจระบบความดันลบ 170 ตู้ 3.ตู้เก็บสิ่งส่งตรวจระบบความดันบวก 80 ตู้ 4. เตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยระบบความดันลบ 30 ตู้ 5. หน้ากากความดันบวกชนิดพกพา 50 ชิ้น 6. เสากดแอลกอฮอล์เจลแบบเท้าเหยียบ 4,000 ชิ้น ทั้งนี้ นวัตกรรมทางการแพทย์ที่ กฟผ.พัฒนาขึ้นนี้เน้นรูปแบบการใช้งานที่ถูกหลักการทางการแพทย์และสะดวกต่อการเคลื่อนย้าย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแม้ว่าจะผ่านพ้นสถานการณ์ COVID-19 ไปแล้ว นวัตกรรมเหล่านี้ก็ยังสามารถนำมาใช้ในการตรวจโรคติดเชื้อทางเดินหายใจอื่นๆ ได้ด้วย โดยที่ผ่านมา กฟผ.ได้ส่งมอบนวัตกรรมให้กับโรงพยาบาลต่างๆ รวมกว่า 200 แห่งในพื้นที่กว่า 50 จังหวัดทั่วประเทศแล้ว
นอกจากนี้ กฟผ.ยังได้ผลิตเจลอนามัยน้ำใจ กฟผ. สำหรับล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ไม่ต่ำกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ตามมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยแจกจ่ายให้โรงพยาบาลและประชาชนทั่วประเทศแล้วกว่า 40,000 ลิตร รวมถึงมอบเงินสนับสนุนจำนวน 30 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลและจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ อีกทั้งจัดหาแอลกอฮอล์มูลค่า 60 ล้านบาท โดยร่วมกับกระทรวงพลังงาน เพื่อแจกจ่ายให้แก่โรงพยาบาลสุขภาพตำบลทั่วประเทศ และยังได้มอบสิ่งของจำเป็นสำหรับการดำรงชีพให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ ได้แก่ การจัดตั้งโรงทานแจกข้าวกล้องไข่เจียวและน้ำดื่ม การแจกจ่ายถุงยังชีพ และการจัดตั้งตู้ปันสุข กฟผ. พร้อมกันนี้ กฟผ.ยังได้เดินหน้าแคมเปญ “Stop COVID Fast Restart Faster : หยุดได้ไว เริ่มใหม่ได้เร็ว” โดยกำหนดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอย่างเคร่งครัด และร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการ Restart เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย อาทิ จัดทำตลาดนัดออนไลน์ “เอนจี้” เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างรายได้เพิ่มให้กับชุมชนรอบพื้นที่ เขต เขื่อน และโรงไฟฟ้าของ กฟผ.ทั่วประเทศอีกด้วย
“นวัตกรรม กฟผ.สู้ภัย COVID-19 เป็นผลงานด้านจิตอาสาของ กฟผ.ทั่วประเทศ ที่ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมไทย และพร้อมจะเคียงข้างคนไทยในทุกวิกฤต” ผู้ว่าการ กฟผ.กล่าวในตอนท้าย