สนามบินดอนเมืองรัดเข็มขัด ปิดพื้นที่ไม่ได้ใช้งาน ลดรายจ่ายอย่างน้อยเดือนละ 20 ล้าน วิกฤตโควิด-19 ไฟลต์ต่างประเทศไม่มี รายได้ค่า PSC หายเกลี้ยง เผยหลังคลายล็อกเฟส 3 เที่ยวบินเริ่มดีด ล่าสุดมีผู้โดยสารกว่า 12,000 คน/วัน
ร.ท.สัมพันธ์ ขุทรานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ขณะนี้ ปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารที่สนามบินดอนเมืองเริ่มเพิ่มขึ้น หลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) หรือ ศบค. ประกาศมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีปริมาณเที่ยวบินเฉลี่ยที่ 140 เที่ยวบิน/วัน ผู้โดยสารเฉลี่ย 12,000 คน/วัน จากเดือน พ.ค.ที่มีปริมาณเที่ยวบินเฉลี่ย 70 เที่ยวบิน/วัน ผู้โดยสาร 5,000 คน/วัน และล่าสุดวันที่ 6 มิ.ย. มีปริมาณเที่ยวบิน 176 เที่ยวบิน/วัน
ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบจากช่วงปกติ ที่มีผู้โดยสารประมาณ กว่า 120,000 คน/วัน ถือว่าปัจจุบันจำนวนผู้โดยสารยังลดลง 10 เท่า
โดยปัจจุบัน สนามบินดอนเมืองมีรายได้จากค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน (Passenger Service Charge : PSC) ที่เรียกเก็บจากผู้โดยสารภายในประเทศ อัตรา 100 บาท/คนเท่านั้น ซึ่งยังมีจำนวนไม่มาก ส่วนรายได้จากค่า PSC ที่เก็บจากผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออกอัตรา 700 บาท/คนนั้นยังไม่มี เนื่องจากยังไม่มีการให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ ทอท.ได้มีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการและสายการบิน เช่น ปรับลดค่าเช่าพื้นที่ ลดค่าบริการในการขึ้นลงของอากาศยาน (Landing Charges) และค่าบริการที่เก็บอากาศยาน (Parking Charges) ส่งผลต่อรายได้ของสนามบินดอนเมืองที่ลดลงไปอย่างมาก
ดังนั้นจึงต้องมีการเพิ่มมาตรการลดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าซึ่งเป็นรายจ่ายประจำประมาณ 43 ล้านบาท/เดือน โดยทำการปิดพื้นที่ในส่วนที่ยังไม่ได้ใช้งาน เช่น อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ซึ่งเบื้องต้นช่วยลดรายจ่ายลงราว 20 ล้านบาท/เดือน ทั้งนี้จะไม่มีการปรับลดค่าใช้จ่าย ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ มาตรฐานความปลอดภัย และการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
“ผู้โดยสารลดลงเพราะการเดินทางน้อยลง และจากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมทำให้สายการบินจะต้องขายตั๋วแบบเว้นที่นั่ง ผู้โดยสารหายไป 1 ใน 3 หรือเหลือที่นั่งได้เพียง 60% ซึ่งไม่คุ้มกับต้นทุนบริการ ทำให้ต้องปรับเพิ่มค่าโดยสารซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อตั๋ว โดยจะเดินทางเฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เรื่องนี้เป็นปัญหาที่กระทบเป็นลูกโซ่ แต่เชื่อว่าเมื่อมีวัคซีนจะทำให้ความวิตกลดลง และความต้องการเดินทางจะกลับมา ดังนั้นตอนนี้ต้องช่วยกันเพื่อให้ทุกคนรอดไปด้วยกัน”