การเคหะแห่งชาติผนึกกำลังบูรณาการข้ามกระทรวง จับมือกรมพัฒนาฝืมือแรงงานจัดอบรมทีมช่างประจำชุมชน สร้างเสริมต่อยอดเศรษฐกิจชุมชน พร้อมจับมือกรมการจัดหางานให้บริการเชื่อมโครงการเช่าทั่วไทยของการเคหะแห่งชาติสำหรับคนได้งานใหม่เช่าในราคาถูก 999 บาท/เดือน
วิกฤติการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาดทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ด้านหนึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้คนจำนวนมาก อีกด้านหนึ่งก็พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสได้เช่นกัน โดยเฉพาะการเคหะแห่งชาติ ภายใต้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน
นายวิญญา สิงห์อินทร์ รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ รักษาการผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติกล่าวว่า การเคหะแห่งชาติมีชุมชนที่อยู่ในความดูแลกว่า 800 แห่งทั่วประเทศ กว่า 4 แสนครัวเรือน มีผู้อยู่อาศัยประมาณ 2 ล้านคน ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาด ซึ่งการเคหะแห่งชาติได้ดำเนินการช่วยเหลือเฉพาะหน้าด้วยมาตรการทางการเงิน/มาตรการพักชำระหนี้ และมาตรการด้านสังคมไปก่อนแล้ว ขณะเดียวกันก็ได้พยายามฟื้นฟูอาชีพและรายได้ของคนในชุมชนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนควบคู่ไปด้วย
การเคหะแห่งชาติจับมือกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน จัดอบรมช่างชุมชนเริ่มต้นที่จำนวน 80 คน 4 สาขาอาชีพ ประกอบด้วย ช่างก่ออิฐ ช่างฉาบปูน ช่างปูกระเบื้อง และช่างผนังและฝ้าเพดาน โดยลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการขับเคลี่อนเป็นเวลา 3 ปี นอกจากอบรมฝีมือแรงงานแล้ว ยังทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานและมอบวุฒิบัตรให้อีกด้วย
“เป็นการเพิ่มทักษะ เพิ่มช่องทางอาชีพ เพิ่มรายได้ และยกระดับฝีมือแรงงานในชุมชนให้มีมาตรฐานมากขึ้น อีกทั้งเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ใช้บริการ สร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันเพราะเป็นคนในชุมชนด้วยกัน เท่ากับเป็นการตอบโจทย์เศรษฐกิจชุมชนไปในตัว”
นายวิญญา กล่าวต่อว่า การบูรณาการกับกระทรวงแรงงานจะขยายไปสู่กรมการจัดหางาน ซึ่งจัดหางานให้ผู้ตกงานหรือต้องการเปลี่ยนงานจากพิษวิกฤติโควิด ซึ่งตนมีแนวความคิดว่า กรมการจัดหางานมีข้อมูลของผู้ได้รับงานทำแล้ว สามารถเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลที่อยู่อาศัยโครงการเช่าทั่วไทยของการเคหะแห่งชาติในการจัดหาสถานที่เช่าพักอาศัยราคาถูกให้ผู้ได้งานทำใหม่เหล่านี้ด้วย
“การเคหะแห่งชาติมีโครงการเช่าทั่วไทย 999 บาทต่อเดือน จำนวน 10,000 หน่วยในหลายพื้นที่อยู่แล้ว กรมการจัดหางานก็มีข้อมูลผู้ได้งานทำใหม่ สามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยโครงการเช่าทั่วไทย เท่ากับประหยัดค่าเช่าและค่าเดินทางไปในตัว”
ทางด้าน นายธวัช เบญจาทิกุล อธิบดีกรมพัฒนามือแรงงาน กล่าวว่า การบูรณาการระหว่างสองหน่วยงานจะเป็นการพัฒนาช่างฝีมือแรงงานเข้าสู่ระบบเพิ่มขึ้นตามนโยบายของกระทรวงแรงงาน และจะขยายการอบรมมากกว่า 4 สาขาอาชีพ เช่น ไฟฟ้า ประปา เครื่องปรับอากาศ มากกว่าช่างพื้นฐานเพียงอย่างเดียว
“การอบรมจะเน้นการปฏิบัติ เพื่อให้เป็นช่างที่พัฒนายกระดับฝีมือแรงงาน และออกไปประกอบอาชีพสร้างรายได้จริงจัง โดยอบรมรุ่นหนึ่งไม่เกิน 20 - 24 คน เพื่อให้ได้มาตรฐานฝีมือแรงงานจริงๆ และก็หวังว่าจะจับมือกับการเคหะแห่งชาติในระยะยาวต่อไป”
นายธวัช กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมพัฒนาฝีมือแรงงานยังจัดทำแอปพลิเคชันรวมช่าง สำหรับให้บริการประชาชนในการเข้ามาใช้บริการช่างจากแอปพลิเคชันดังกล่าว ซึ่งขณะนี้มีช่างฝีมือขี้นทะเบียนแล้วร่วม 5,000 คน ในอนาคตข้างหน้าช่างชุมชนของการเคหะแห่งชาติที่ผ่านการอบรมพัฒนาฝีมือแรงงานแล้ว ก็สามารถขึ้นทะเบียนในแอปพลิเคชันนี้ได้เช่นกัน เท่ากับเป็นการเพิ่มช่องทางให้บริการสำหรับตนเองได้อีกทางหนึ่งด้วย