“สนธิรัตน์” เร่งรับมือไฟฟ้าล้นระบบ หลัง “ศรีสุวรรณ” ร้องผู้ตรวจการแผ่นดินให้แก้ไข ทั้งผลักดันให้ไทยก้าวสู่ซื้อขายไฟฟ้าในภูมิภาค การเดินหน้ายานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) พร้อมเปิดทางให้เจรจาเลื่อนโรงไฟฟ้าได้หากจำเป็น ยอมรับมาตรการลดค่าครองชีพด้านไฟฟ้ายังไม่ได้พิจารณาขยายต่อหลังคลายล็อกดาวน์มากขึ้น
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอขอให้เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี จากกรณีที่ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าต้องร่วมกันแบกรับภาระค่าไฟฟ้าจากการที่รัฐกำหนดผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการว่า ยอมรับว่าการผลิตไฟฟ้าปัจจุบันเกินความต้องการ เพราะการเติบโตของภาคเศรษฐกิจที่ผ่านมาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิดและพร้อมจะเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะการผลักดันให้ไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางซื้อขายไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน
นอกจากนี้แล้ว ตามแนวทางการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) และเทคโนโลยีดังกล่าวที่กำลังมาเร็วขึ้นก็จะมีส่วนสำคัญต่อการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ โดยเมื่อถึงเวลานั้นที่เกิดการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว หรือ Disruptive Technology จะทำให้การใช้ไฟโตก้าวกระโดด และหากเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว ถึงเวลานั้นไฟฟ้าที่มากขณะนี้อาจไม่เพียงพอก็เป็นไปได้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการปรับปรุงแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP 2018) นั้นได้มีการพิจารณาให้สอดรับกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น โรงไฟฟ้าต่างๆ จะยังเกิดขึ้นภายใต้แผนที่กำหนดไว้โดยไม่ได้ไปเปลี่ยนแปลง มีเพียงโรงไฟฟ้าชุมชน และโรงไฟฟ้าจากพลังงานลมที่ปรับให้เร็วขึ้น เพราะอีกส่วนหนึ่งนั้นจะต้องคำนึงถึงพลังงานสะอาด หรือ Green Energy ด้วย
“ระยะสั้นหากมีการพิจารณาแล้วว่าจำเป็นต้องเจรจาเลื่อนโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก หรือเอสพีพี ออกไปเพื่อบริหารไฟฟ้าให้สมดุลกับความต้องการก็ทำได้ โดยสามารถเลื่อนเข้าเลื่อนออกให้เหมาะสมได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องไปดู” นายสนธิรัตน์กล่าว
สำหรับมาตรการค่าไฟฟรีไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน ส่วนลดค่าไฟฟ้า 3 เดือน (มี.ค.-พ.ค. 63) เพื่อลดผลกระทบโควิด-19 ซึ่งจะสิ้นสุดเดือน พ.ค.ว่าภายในสิ้นเดือนมาตรการดังกล่าวก็จะสิ้นสุดลงนั้นก็ยังไม่ได้มีการหารือว่าจะต่ออายุมาตรการดังกล่าวแต่อย่างใด เนื่องจากเห็นว่ามาตรการคลายล็อกดาวน์ได้ผ่อนคลายมากขึ้น ดังนั้น ผลกระทบจะไม่มากเช่นที่ผ่านมาที่คนส่วนใหญ่ต้องทำงานที่บ้าน (Work From Home) 100%
“คงจะต้องขอดูว่าผลกระทบจะมากน้อยเพียงใดหลังจากนี้ ยอมรับว่าสิ้นเดือนนี้มาตรการค่าไฟต่างๆ ก็จะหมดลง แต่ยังมีส่วนลดค่าไฟ 3% ที่จะสิ้นสุด มิ.ย.นี้” นายสนธิรัตน์กล่าว