xs
xsm
sm
md
lg

“ศรีสุวรรณ”เตรียมร้องผู้ตรวจการฯ สอบ กกพ.ปล่อยให้มีไฟฟ้าล้นประเทศ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้ศึกษาต้นเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ผู้ใช้ไฟฟ้าแต่ละครัวเรือนต้องจ่ายค่าไฟฟ้าแพงในแต่ละเดือน หรือทุกรอบบิลเรียกเก็บค่าไฟฟ้านั้น มีต้นเหตุหลักมาจากการคำนวณ และการกำหนดการใช้ไฟฟ้าที่ผิดพลาดของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ซึ่งเรียกว่าแผนการใช้ไฟฟ้า (PDP 2015 และ PDP 2018) โดยมีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็นกลไกเครื่องมือนั่นเอง

ทั้งนี้ ปัจจุบันการใช้ไฟฟ้าของคนไทยทั้งประเทศมีประมาณ 28,636 เมกะวัตต์/วันเท่านั้น แต่กลับปล่อยให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ๆ ขึ้นมาตลอดเวลา โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าของเอกชน และซื้อไฟฟ้ามาจากต่างประเทศสะสมมากถึง 45,595 เมกะวัตต์ (ไม่รวมโรงไฟฟ้าที่ผู้ประกอบการผลิตเอง ใช้เอง และไฟฟ้าบนหลังคาเรือนของชาวบ้าน รวมทั้งหมดอาจมีมากกว่า 55,000 เมกะวัตต์) โดยที่เป็นสัดส่วนที่ กฟผ. ผลิตได้เพียง 15,424 เมกะวัตต์ หรือประมาณ 33.83 % เท่านั้น

ส่วนเอกชนมีปริมาณการผลิตมากถึง 30,171 เมกะวัตต์ หรือ 66.17 % ซึ่งทำให้มีปริมาณไฟฟ้าสำรองล้นประเทศ มีมากถึง 16,595 เมกะวัตต์ หรือ 59% เกินกว่ามาตรฐานสากลที่กำหนดไว้ประมาณ 15% เท่านั้น ซึ่งไฟฟ้าที่ผลิตได้ภาครัฐต้องจ่ายให้เอกชนทุกหน่วยที่ผลิตได้ตามเงื่อนไขสัญญาที่ผูกมัดกันมาทุกยุคทุกสมัย ซึ่งจะใช้ไฟฟ้าหรือไม่รัฐก็จ้องจ่ายให้เอกชนตลอดเวลา หรือเรียกว่าค่าพร้อมจ่ายนั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าเงินที่ภาครัฐจ่ายก็คือเงินที่ซ่อนเก็บมาจากบิลค่าไฟฟ้าทุกครัวเรือนทั่วประเทศเฉลี่ยเดือนละประมาณ 200,000 ล้านบาทเลยทีเดียว

ดังนั้น กกพ.และกระทรวงพลังงาน จะต้องรีบแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นการเร่งด่วน โดย 1) ยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้าหรือสัญญาที่ยังไม่สมบูรณ์ 6,149 MW เช่น โรงไฟฟ้า IPP ใหม่(ภาคตะวันตก) 1,400 MW (ทั้งของ กฟผ. ซื้อไฟฟ้าจากลาว และของเอกชนทุกโครงการ) โรงไฟฟ้าเชิงนโยบายหรือโรงไฟฟ้าชุมชน (โรงไฟฟ้าชีวมวลประชารัฐ โรงไฟฟ้าขยะภาคนโยบาย โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ และผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนขนาดเล็กมาก)รวม 2,099 MW โรงไฟฟ้า กฟผ.(ปี 2568-2569) 1,950 MW โรงไฟฟ้าต่างประเทศพลังน้ำ(ลาว) 700 MW 2)เลื่อนการซื้อไฟจากโรงไฟฟ้าที่มีสัญญาแล้วไปอีก 2-3 ปี(เดิมจ่ายไฟปี 2564-2569) เช่น โรงไฟฟ้า SPP รวม 974.4 MW 3)ชะลอการสร้างโรงไฟฟ้า(เดิมจ่ายไฟปี 2570-2571) รวม 5,588 MW

การผลักดันให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมากมายทั้งๆ ที่มีไฟฟ้าล้นประเทศแล้วในขณะนี้ เชื่อว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชน เพราะผู้กำหนดนโยบายไม่ต้องรับผิดชอบอะไร แต่ภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามสัญญา กลับเป็นการผลักภาระให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าทุกมิเตอร์ ทุกหม้อแปลง ทุกครัวเรือนทั่วประเทศ โดยไม่เคยพูดความจริงกับประชาชน เพื่อระงับปัญหาดังกล่าวสมาคมฯ จำต้องนำความไปร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้สอบหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้สั่งยกเลิก เลื่อน หรือชะลอ การสร้างและซื้อขายไฟฟ้าดังกล่าวเสีย โดยจะไปยื่นเรื่องในวันพุธที่ 27 พ.ค.63 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ศูนย์ราชการ อาคาร B ห้อง 903