“สนธิรัตน์” หวังเกิดโครงการนำร่อง Blockchain ซื้อขายน้ำมันปาล์มแล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ หลังถกผู้ผลิต B100 เตรียมเบื้องต้น ก่อนลุยถก ปตท.ต่อวันนี้ (29 พ.ค.) ตั้งเป้าขยายผลดึงผู้ผลิต B100 ทั้งหมดและผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมยกระดับราคาปาล์มด้วย Blockchain ในปีนี้
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับผู้ผลิตน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 100% (B100) ว่า ได้หารือเพื่อเตรียมความพร้อมในการนำเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) มาปรับใช้การซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) เพื่ออ้างอิงราคาผลปาล์มของเกษตรกรให้ได้รับความเป็นธรรมที่เบื้องต้นกำหนดจะทำโครงการนำร่อง (Pilot Project) ภายใน 2 สัปดาห์นี้ โดยในวันที่ 29 พ.ค.จะหารือกับ บมจ.ปตท.ในฐานะที่มีโรงกลั่นในเครือคิดเป็นสัดส่วน 50% ของกำลังการกลั่นในประเทศ เพื่อหารือถึงปัญหาและอุปสรรคเพื่อเตรียมพร้อมในการร่วมมือโครงการนำร่องดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ หากการดำเนินงานประสบผลสำเร็จจะผลักดันให้ผู้ผลิต B100 และผู้ค้าน้ำมันปาล์มตลอดห่วงโซ่ทั้งหมดเข้าสู่ระบบ Blockchain ภายในปีนี้ เพื่อยกระดับราคาปาล์มของประเทศ
“ทางกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ได้ดูระบบ Blockchain ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เบื้องต้นแล้ว ระบบนี้จะเข้ามาจับราคา CPO ที่ผู้ผลิต B100 รับซื้อ ตัวอย่างเช่น CPO 21 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ราคาปาล์มที่เกษตรจะได้รับคุณภาพ 18% จะอยู่ที่ 3.50 บาทต่อ กก. ซึ่งจะตัดพ่อค้าคนกลางออก จะนำร่องเริ่มจากผู้ผลิต B100 ที่มีโรงสสกัดเป็นของตนเองก่อน โดยหลักการจะขอให้โรงกลั่นหรือผู้ค้าน้ำมันรับซื้อ B100 ที่ผ่านระบบ Blockchain เท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะทำให้ผู้ผลิต B100 ต้องเข้าสู่ Blockchain ทุกราย และการซื้อขายจะครอบคลุมได้ทั้งระบบและนี่ถือเป็นการปฏิรูปสินค้าเกษตรนำร่องที่สำคัญ” นายสนธิรัตน์กล่าว
สำหรับการหารือกับ ปตท.เพื่อเตรียมความพร้อมในเรื่องของการนำร่องระบ Blockchain และจากนั้นจะขยายความร่วมมือไปยังโรงกลั่นอื่นๆ เช่น บางจาก เอสโซ่ ขณะเดียวกันจะหารือความคืบหน้าถึงความเป็นไปได้ในการสต๊อก B100 เพิ่มขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ราคาปาล์มได้มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากผลผลิตปาล์มตามช่วงฤดูกาลที่ลดลง ส่วนกรณีที่ได้มอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับซื้อ CPO ที่เหลืออีก 37,550 ตันเพื่อนำไปผลิตไฟฟ้าตามมติ ครม.เดิมที่กำหนดไว้ ยืนยันว่าเงินที่รับซื้อจะนำมาจากงบประมาณไม่มีการผลักภาระไปคิดคำนวณในค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) แต่อย่างใด
นายศาณินทร์ ตริยานนท์ นายกสมาคมผู้ผลิตไบโอดีเซลไทย กล่าวว่า ปัจจุบันราคาผลปาล์มทะลายอยู่ที่ 3.90-4 บาทต่อ กก. น้ำมันปาล์มดิบ (CPO)อยู่ที่ 22 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งราคาปาล์ทะลายขยับขึ้นจากกว่า 2 บาทต่อกิโลกรัมในช่วงต้นเดือน พ.ค. 2563 เนื่องจากเดือน พ.ค. 2563 ผลผลิตปาล์มที่ออกสู่ตลาดตามฤดูกาลเริ่มมีปริมาณลดลง ประกอบกับความต้องการใช้น้ำมันของประชาชนปรับตัวสูงขึ้นหลังรัฐบาลประกาศคลายล็อกดาวน์
“ทางผู้ประกอบการอยู่ระหว่างทดสอบ Blockchain มาใช้ควบคุมการซื้อขายปาล์มน้ำมันทั้งระบบของภาครัฐว่ามีความพร้อมมากแค่ไหน และข้อมูลที่ได้จะเป็นจริงเพียงใด เนื่องจากในต่างประเทศ เช่น ประเทศมาเลเซีย ซึ่งผู้ผลิตปาล์มรายใหญ่ของโลกยังไม่มีการใช้ Blockchain ซื้อขายปาล์มน้ำมัน แต่มีการเก็บข้อมูลระบบการซื้อขายทั้งระบบไว้แล้ว ก็คงต้องติดตามผลการทดสอบก่อน” นายศาณินทร์กล่าว