ธพ.เรียกผู้ผลิต B100 และผู้ค้าน้ำมันหารือดึงระบบบล็อกเชนซื้อขาย CPO เพื่อทำให้ราคาปาล์มทะลายที่เกษตรกรได้รับเป็นธรรม ไม่ถูกกดราคา 2 สัปดาห์รู้ผลจ่อนำร่องทดสอบระบบได้ มิ.ย.นี้ตามนโยบายสนธิรัตน์ หวังหากได้ผลจะนำไปสู่การขอความร่วมมือผู้ค้าซื้อ B100 จากโรงงานที่ใช้บล็อกเชนซื้อขายเท่านั้น
น.ส.นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า วันนี้ (15 พ.ค.) ธพ.ได้เรียกผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 และผู้ผลิตน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 100% หรือ B100 มาหารือถึงแนวทางการนำเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) มาบริหารระบบซื้อขายราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) มาผลิต B100 เพื่อให้สะท้อนราคาผลปาล์มให้เกษตรกรได้รับความเป็นธรรมตามนโยบายของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน โดยผู้ผลิต B100 จะกลับไปคิดระบบมาให้ โดยจะหารือกับกลุ่มผู้ผลิต CPO ว่าจะทำระบบอย่างไร จากนั้นภายใน 2 สัปดาห์จะนำระบบมาเสนอการประชุมร่วมกันอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะทำโครงการนำร่องได้ภายในต้นมิ.ย.นี้
"ระบบบล็อกเชนในการซื้อขายคือ โรงงานไบโอดีเซล โรงสกัด ลานเท และเกษตรกร โดยจะเริ่มทดลองระบบนี้ในเดือนหน้า เริ่มจากผู้ประกอบการ B100 ที่เป็นเจ้าของโรงสกัดก่อน ก่อนที่จะทดลองทั้งระบบ และเมื่อพบว่าระบบสามารถเดินหน้าได้ด้วยดี อนาคตกรมฯ ก็จะขอความร่วมมือจากผู้ค้าน้ำมันซื้อ B100 จากโรงงานที่ใช้บล็อกเชนในการซื้อขายเท่านั้น" น.ส.นันธิกากล่าว
ทั้งนี้ ราคาผลปาล์มดิบในปัจจุบันต่ำกว่าที่ควรจะเป็น โดยอยู่ที่ 2.50-3.20 บาทต่อ กก. ไม่สะท้อนราคา CPO ที่ซื้อขายราว 20.25-20.75 บาทต่อ กก. โดยผลปาล์มดิบควรอยู่ที่ 3.55 บาทต่อ กก.ตามโครงสร้างของอนุกรรมการพิจารณาโครงสร้างราคาผลปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มที่คำนวณไว้ ซึ่งการนำระบบบล็อกเชนมาใช้จะช่วยให้ราคาปาล์มเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ไม่ถูกกดราคาอีกต่อไป เนื่องจากได้กำหนดราคาซื้อขายที่เปลี่ยนแปลงตามช่วงราคา เช่น หากราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวด 1 ลิตรอยู่ที่ 32 บาทต่อขวด ราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ต้องอยู่ที่ 18 บาทต่อกิโลกรัม และราคาผลปาล์มทะลายต้องอยู่ที่ 3.05 บาทต่อกิโลกรัม เป็นต้น
สำหรับราคาน้ำมัน B100 ณ วันที่ 13 พ.ค. 2563 อยู่ที่ 24.87 บาทต่อลิตร, ส่วนราคา CPO อยู่ที่ 20.25-20.75 บาทต่อ กก. และราคาปาล์มทะลายอยู่ที่ 2.50-3.20 บาทต่อ กก.