xs
xsm
sm
md
lg

“เมกาบางนา” เร่งเครื่องฟื้นสู้โควิด ยันทราฟฟิกคืน 80% แห่ชอปยอดพุ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - “เมกาบางนา” คาดโควิดกระทบทั้งปีรายได้หด 30% ยันหลังเปิดศูนย์ตั้งแต่วันที่ 17 เทรนด์ออกมาเป็นบวก ลูกค้าแห่กลับมาชอปปิ้งแล้ว 80% แถมกำลังซื้อไม่ตกลง เร่งเครื่องปรับบริการและพื้นที่บริการ ชี้ปลดล็อกเฟส 3 ทุกอย่างฟื้นตัวแน่

นางสาวปพิตชญา สุวรรณดี กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้า เมกาบางนา เปิดเผยว่า ตลอดทั้งปี 2563 นี้คาดว่าผลประกอบการจะตกลง 30% ขณะที่ช่วง 2 เดือน (เมษายน-พฤษภาคม) ได้รับผลกระทบรายได้ตกลงกว่า 15% จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องปิดศูนย์การค้าตามมาตรการของภาครัฐ

อย่างไรก็ตาม จากการที่รัฐบาลได้ปลดล็อกดาวน์เฟสที่ 2 ทำให้ศูนย์การค้าและอีกหลายธุรกิจเริ่มกลับมาเปิดบริการได้อีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา คาดว่าจะเริ่มส่งผลดีมากขึ้น

ทั้งนี้ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่ามีจำนวนลูกค้ากลับเข้ามาที่ศูนย์การค้าเมกาบางนาเกือบ 80% แล้ว จากตัวเลขปรติที่มีลูกค้าเข้าศูนย์ฯ ประมาณวันละ 130,000-150,000 คน ซึ่งทั้งปีที่แล้วมีลูกค้าเข้ารวมประมาณ 50 ล้านคน โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทยและมีกำลังซื้อพอสมควร นักท่องเที่ยวไม่ได้เป็นเป้าหมายหลัก จึงไม่ได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวที่เข้าไทยน้อยลง


ส่วนกำลังซื้อของลูกค้าก็ไม่ได้ลดลงเฉลี่ย 3,000 บาทต่อคน ร้านค้าเปิดบริการแล้วมากกว่า 97% จากทั้งหมดกว่า 652 ร้านค้าจากกว่า 900 ยูนิต จากพื้นที่ 400,000 ตารางเมตร สินค้าที่ขายดีคือ ประเภทของตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ทำงาน เสื้อผ้า รองเท้า เนื่องจากลูกค้าอัดอั้นมา 2 เดือน ส่วนร้านอาหารที่มีมากกว่า 165 ร้านค้าจากร้านค้าทั้งหมด 652 ร้านค้า อาจจะยังได้รับผลกระทบมากอยู่จากข้อจำกัดระยะห่างทำให้พื้นที่บริการจำกัด

ส่วนลูกค้าที่หายไปอีกกว่า 20% นั้น คาดว่าเมื่อคลายล็อกดาวน์เฟสที่ 3 ซึ่งประเมินกันว่าสิ้นเดือนพฤษภาคมหรือต้นเดือนมิถุนายนนี้น่าจะกลับมา พร้อมกับการเปิดธุรกิจอื่นที่เหลืออีก เช่น โรงหนัง คาราโอเกะ สเกต สถาบันกวดวิชา สถาบันความงาม เป็นต้น โดยที่ผ่านมาทางสมาคมศูนย์การค้ามีการประสานงานเพื่อเสนอให้รัฐบาลขยายเวลาการเปิด-ปิดบริการไปถึง 22.00 น. ส่วนการช่วยเหลือร้านค้าหรือลูกห้องก็ยังคงมีต่อเนื่อง โดยลดค่าเช่าให้ตามแต่ละกรณีของแต่ละร้านค้า พิจารณาจากยอดขายเป็นหลัก


สำหรับแนวทางดำเนินการในช่วงโควิดหรือยุคนิวนอร์มัลนี้ เช่น 1. ร่วมมือกับฟูดออนไลน์ดีลิเวอรีทุกแพลตฟอร์มสำหรับร้านค้าผู้เช่าในกลุ่มร้านอาหารและเครื่องดื่ม กว่า 165 ร้าน เปิดบริการจุดสั่งอาหารและกลับบ้าน ทำแคมเปญร่วมกับแกร็บฟู้ด และแคมเปญร่วมกับไลน์แมน และอยู่ระหว่างการเจรจากับกลุ่มฟูดออนไลน์ดีลิเวอรีอื่นๆ อีกเพื่อหาช่องทางช่วยเหลือผู้เช่ากลุ่มนี้ 2. กลยุทธ์ออมนิแชนเนลเชื่อมออนไลน์กับหน้าร้าน เปิดบริการ คลิกแอนด์คอลเลกต์ สั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์แล้วมารับที่ศูนย์ฯ ด้วยระบบไดรฟ์ทรู ให้ร้านค้าประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ของเมกาบางนา เช่น เฟซบุ๊ก เว็บไซต์ เป็นต้น

นางสาวปพิตชญากล่าวต่อว่า ช่วงที่ปิดบริการทางศูนย์การค้าเร่งรีโนเวตพื้นที่เต็มที่ เช่น ปรับปรุงสถาปัตยกรรมในอาคาร แล้วเสร็จเมษายน และเดินหน้าปรับปรุงภูมิทัศน์โซนเมกาฟูดวอล์ก ทำไปแล้วกว่า 50% คาดว่าจะแล้วเสร็จกันยายนนี้ ด้วยงบกว่า 800 ล้านบาท และยังเร่งงานก่อสร้างอาคารจอดรถใหม่ สูง 8 ชั้น จอดได้กว่า 2,000 คัน ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท สร้างถึงชั้นที่ 3 แล้ว คาดแล้วเสร็จต้นปี 2564 จะทำให้เมกาบางนามีที่จอดรถมากที่สุดในประเทศไทย จำนวนกว่า 12,000 คัน


ขณะที่โครงการเมกาซิตี้ ที่จะเป็นเมืองสมบูรณ์แบบ มีทั้งศูนย์การค้า โรงแรม อาคารสำนักงาน ที่พักอาศัย และอื่นๆ อีกมาก พื้นที่รวมกว่า 400 ไร่ ยังเดินหน้าต่อเนื่องหลังจากประกาศโครงการเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา และทยอยเปิดหลายส่วนแล้ว ล่าสุดกับคอนโดมิเนียม ตึกแรกคาดว่าจะแล้วเสร็จสิ้นปีนี้ ส่วนอีกอาคารคาดว่าปีหน้าแล้วเสร็จ



สำหรับแคมเปญ “ห่างกันอย่างโปร” ของศูนย์การค้าเมกาบางนาเป็นการปฏิบัติงาน “Social4Carings” เพื่อรับประกันความสะอาดและสุขอนามัยที่ดีของลูกค้าทุกคนที่มาใช้บริการที่เมกาบางนา ได้แก่

1. Social Distancing มาตรการการรักษาระยะห่างทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นการจำกัดจำนวนของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ซึ่งให้คงระยะห่าง 1 เมตร หรือไม่เกิน 20 คนต่อพื้นที่ 100 ตารางเมตร การกำหนดเพื่อเว้นระยะห่างในพื้นที่ที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น เช่น ลิฟต์ ห้องน้ำ ที่นั่งส่วนกลาง หรือจุดรอรถโดยสาร การกำหนดระยะห่างและวิธีการของลูกค้าในการซื้อสินค้าและรับบริการต่างๆ ภายในศูนย์ เช่น การสร้างระบบนัดหมายบริการ เพื่อลดการนั่งรอหรือคิวภายในศูนย์ เป็นต้น

2. Social Caring for Customers มาตรการร่วมรับผิดชอบต่อสังคมและลูกค้า เพื่อดูแลลูกค้าและผู้ที่เข้ามาใช้บริการที่เมกาบางนาอย่างดีที่สุด อาทิ การตรวจวัดอุณหภูมิคัดกรองลูกค้าทุกจุดทางเข้าหลัก Big cleaning ก่อนการเปิดให้บริการตามประกาศ และทำต่อเนื่องเป็นประจำทุกสัปดาห์ ขั้นตอนอย่างละเอียดการทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางก่อนและหลังเวลาทำการศูนย์เป็นประจำทุกวัน ทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางโดยเน้นจุดสัมผัสของลูกค้าทุกๆ 30 นาที ในระหว่างเวลาทำการของศูนย์ฯ และขอความร่วมมือให้ผู้มาใช้บริการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเข้ามาใช้บริการ เป็นต้น


3. Social Self-Care for Staff มาตรการสำหรับพนักงาน และเจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติงาน เช่น ตรวจวัดอุณหภูมิของพนักงานและเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ทุกคนที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ กำหนดให้เจ้าหน้าที่บริการทุกจุดสวมใส่หน้ากากอนามัยและ Face shield ตลอดเวลาที่ปฏิบัติงาน จัดการอบรม เพื่อสร้างความรู้ถึงวิธีการป้องกันและปฏิบัติให้เจ้าหน้าที่เข้าใจและรับทราบเพื่อปฏิบัติอย่างถูกต้อง เป็นต้น

4. Social Care for Community มาตรการการที่จะร่วมรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนโดยรอบ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาเมกาบางนาได้มีนโยบายที่ดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง และในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้ เมกาบางนาได้เพิ่มมาตรการการแยกขยะ โดยจัดให้แยกขยะหน้ากากออกจากขยะทั่วไป รวมถึงการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการต่างๆ เพื่อให้ชุมชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดการแพร่ระบาดของเชื้อด้วย อีกทั้งเมกาบางนายังได้เตรียมบริการต่างๆ ไว้เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าและส่งเสริมการขายของร้านค้า ด้วยกิจกรรมทางการตลาดและบริการ Delivery ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ พร้อมโปรโมชัน ส่วนลด สิทธิประโยชน์พิเศษให้แก่ลูกค้าในช่วงสถานการณ์ที่ยากลำบากแบบนี้อีกด้วย
















กำลังโหลดความคิดเห็น