xs
xsm
sm
md
lg

สมช.ถกทีมเฉพาะกิจ27พ.ค.คลายล็อกเฟส3-ปรับเคอร์ฟิว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ไทยไม่มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เป็นครั้งที่ 4 ไม่มีตายเพิ่ม ผู้ป่วยที่ยังรักษาในรพ.แค่ 63ราย ด้านสมช. นัดถกมาตรการคลายล็อกเฟส 3 พร้อมปรับเวลาเคอร์ฟิว ก่อนชง ศบค.เคาะ คาด 1 มิ.ย. ผ่อนปรนระยะ 3ได้ คลัง ยันจ่ายเงินเกษตรกร

วานนี้ (24 พ.ค.) พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศบค. แถลงข่าวประจำวันว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็น 0 ราย เกิดจากการปฏิบัติตัวดีในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งการสวมหน้ากาก ล้างมือ การรักษาระยะห่าง ท้งนี้เท่ากับเรามีตัวเลขเป็น 0 มาแล้ว 4 ครั้ง คือ วันที่ 13 พ.ค. วันที่ 16 พ.ค. วันที่ 22 พ.ค. และวันที่ 24 พ.ค. ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม หายกลับบ้านเพิ่ม 5 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 3,040 ราย กลับบ้านรวม 2,921 ราย ยังรักษาตัวใน รพ. 63 ราย และเสียชีวิตคงที่ 56 ราย

"ผู้ป่วยกลุ่มใหญ่ยังเป็นกลุ่มคนวัยทำงาน ขอย้ำว่า การออกไปทำงานนอกบ้าน ต้องดูแลตัวเองไม่ให้รับเชื้อเพื่อนำกลับไปสู่คนที่รักที่บ้าน ทั้งพ่อแม่ผู้สูงอายุ เนื่องจากมีความเสี่ยงอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้มากกว่าคนอายุน้อย"

สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก มีผู้ป่วยแล้ว 5.4 ล้านราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่ 9.9 หมื่นราย เสียชีวิต 3.43 แสนราย โดยบราซิลขึ้นมาเป็นอันดับ 2 แทนรัสเซีย ส่วนกลุ่มอาเซียนและเอเชีย อินเดียยังคงมีผู้ป่วยสะสมยืนยันสูงสุด 1.31 แสนราย ส่วนประเทศไทยตกอันดับจาก 73 มาเป็น 75 ของโลก

ประเด็นที่น่าสนใจ คือ จีนแถลงข่าววัคซีนต้านโควิด-19 ตัวแรกที่ผ่านการทดลองทางคลินิกระยะที่ 1 มีความปลอดภัย ตอบสนองการสร้างภูมิคุ้มกันไวรัสได้ โดยทดลองแบบเปิดในผู้ใหญ่สุขภาพดี 108 คน ผลเป็นเชิงบวกช่วง 28 วันที่ผ่านมา แต่จะต้องประเมินอีก 6 เดือนว่า วัคซีนสามารถผลิตภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่

ขณะที่องค์การอนามัยโลกประกาศให้ทางอเมริกาใต้ เป็นศูนย์กลางการระบาดใหม่ของโควิด-19 โดยบราซิล มีผู้ติดเชื้อ 3.5 แสนคน เป็นอันดับ 2 ของโลก ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ยังไม่มีการตรวจโรคอย่างกว้างขวาง ตัวเลขที่แท้จริงน่าจะมากกว่านี้

สมช.ถกคลายล็อกเฟส 3 ปรับเคอร์ฟิว

พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจฯในวันที่ 27พ.ค.นี้ จะมีการพิจารณาผ่อนปรนมาตรการให้กับกิจการและกิจกรรมเพิ่มเติมสามารถดำเนินการได้ แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ว่ากิจการใดบ้าง เพราะต้องรอให้มีการประชุมโดยนำข้อมูลจากหลายส่วนโดยเฉพาะข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข จากแพทย์ ข้อมูลด้านเศรษฐกิจ จากผู้ประกอบการ ปัญหาปากท้องของประชาชน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รวบรวมไว้มาพิจารณาประกอบ โดยยึดหลักการพิจาณาเช่นเดิม คือคำนึงถึงความปลอดภัย ไม่มีการแพร่ระบาดของโรค ควบคู่ไปกับเศรษฐกิจอย่างที่เคยพิจารณาผ่อนปรนไปแล้วในระยะ 2

ทั้งนี้ การพิจารณาผ่อนปรนใน ระยะ 3 และ 4 ซึ่งเป็นประเภทธุรกิจที่มีความเสี่ยงมากกว่า ระยะที่ 1 และ 2 ต้องพิจารณาปัจจัยประกอบหลายอย่าง อาทิ การเตรียมเปิดภาคเรียนของโรงเรียนบางส่วนที่จะเริ่มเรียนในเดือนมิ.ย.และเดือนก.ค. สภาพอากาศที่เข้าสู่ฤดูฝนแล้ว รวมถึงการประกาศเคอร์ฟิว ต้องสอดรับมีความปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคอย่างที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ

นอกจากนี้ ในที่ประชุมจะพิจารณาระยะเวลาในการประกาศเคอร์ฟิวว่า จะยังคงไว้ที่ 23.00 น.-04.00 น.ต่อไปหรือไม่ หรือหากมีการปรับลดเวลาลงควรจะขยับจากเวลา 23.00 น. เป็น 24.00 น.- 04.00 น. หรือ เริ่มที่ 23.00 น.-03.00 น. โดยทุกอย่างต้องสอดคล้องกัน ทั้งนี้สรุปผลการประชุมในวันที่ 27 พ.ค. จะนำเสนอต่อที่ประชุมศบค. ในวันที่ 29 พ.ค. เพื่อให้มีการผ่อนปรนระยะที่ 3 มีผลใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้

ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า กลุ่มธุรกิจที่รอลุ้นการคลายล็อกเฟส 3 อาทิ สนามมวย อาบอบนวด สปา โรงหนัง ศูนย์ประชุม สถาบันกวดวิชา เป็นต้น

ขรก.ที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรจะไม่ได้เงิน

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรมว.คลัง เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก กรณีนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการพิจารณารายชื่อข้าราชการที่เป็นเกษตรกรว่า ก.คลังดำเนินการถูกต้อง มีเอกสารหลักฐานชัดเจน และคงมีการเข้าใจคลาดเคลื่อนเกิดขึ้นกับนายอลงกรณ์ โดยมีหนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด เมื่อวันที่ 8 พ.ค.63 ถึงรมว.เกษตรและสหกรณ์ เพื่อแจ้งผลการดำเนินงานของก.คลัง เป็นเอกสารอ้างอิง

ทั้งนี้ สามารถสรุปใจความสำคัญ ดังนี้ 1. ได้ตรวจสอบความซ้ำซ้อนของข้อมูลที่กระทรวงเกษตรฯ กับฐานข้อมูลที่ก.คลังรับผิดชอบ 2 ฐานข้อมูล คือ ฐานข้อมูลผู้ที่ได้รับสิทธิ์ตามโครงการเยียวยาฯ 5,000 บาท และฐานข้อมูลขรก.ที่รับราชการปัจจุบัน และขรก.บำนาญ โดยได้แจ้งให้กระทรวงเกษตรฯ พึงระมัดระวังไม่ให้มีการจ่ายเงินให้กับเกษตรกรที่เป็นเจ้าหน้าที่ หรือพนักงานในหน่วยงานของรัฐ เนื่องจากกลุ่มคนดังกล่าว ยังมีงานประจำและได้รับเงินเดือนเป็นปกติ

2. การตรวจสอบความถูกต้องและครบถ้วนของข้อมูลเกษตรกรผู้มีสิทธิได้รับเงินเยียวยา ตามโครงการของกระทรวงเกษตรฯ เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบโดยตรงของกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรต้องดำเนินการให้เป็นไปตามมติครม. เมื่อวันที่ 28 เม.ย.63

3. การโอนเงินของธ.ก.ส. จะโอนเงินให้กับเกษตรก รตามข้อมูลที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้ตรวจสอบยืนยันตัวตนของเกษตรกร ที่จะได้รับความช่วยเหลืออย่างถูกต้อง และครบถ้วนแล้วเท่านั้น

สำหรับความคืบหน้าการเยียวยา 5,000 บาท ตามโครงการเราไม่ทิ้งกัน ขณะนี้สำเร็จเรียบร้อยแล้ว 99 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 1 เปอร์เซ็นต์ คือส่วนที่ตกค้างจากการทบทวนสิทธิ ทั้งนี้ มีผู้ผ่านเกณฑ์รับเงินเยียวยา จำนวน 15 ล้านคน ซึ่งก.คลังจ่ายเงินเยียวยาครบแล้วทั้ง15 ล้านคน

ส่วนอีก 2.4 แสนคน อยู่ระหว่างทบทวนสิทธิ เนื่องบางส่วนติดต่อได้แต่ไม่สามารถนัดพบได้ หรือที่อยู่จริงในปัจจุบันไม่ตรงกับที่ได้ลงทะเบียนทบทวนสิทธิไว้ และบางส่วนผู้พิทักษ์สิทธิพยายามติดต่อไปหลายครั้ง ก็ไม่สามารถติดต่อได้

อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่ไม่สามารถนัดพบได้หรือติดต่อไม่ได้นั้น ก.คลังจะส่ง smsแจ้งให้ทราบอีกครั้ง และให้ไปติดต่อที่สาขาธนาคารกรุงไทย เพื่อยืนยันตัวตน และการประกอบอาชีพได้จนถึงวันที่ 29 พ.ค.นี้

ทั้งนี้ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ได้เรียกประชุมติดตามเรื่องนี้ และเตรียมที่จะปิดโครงการภายในสิ้นเดือนพ.ค.นี้ โดยนายอุตตม พอใจผลการดำเนินงาน ที่สามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มที่ นอกจากนั้น นายอุตตม ได้สั่งการให้เข้าไปดูแลประชาชนที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จอีก 1.7 ล้านคนด้วย



กำลังโหลดความคิดเห็น