xs
xsm
sm
md
lg

เจาะ 4 ธุรกิจบุก Work From Home รับอานิสงส์ขยายตลาดช่วง COVID–19

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การตลาด – เจาะตลาด 4 ธุรกิจที่หลายคนคาดไม่ถึง รับอานิสงส์เติบโตดีรับ Work From Home ท่ามกลางสถานการณ์ที่ โควิด-19 ระบาดหนัก ตลาดนี้คึกคักไม่แพ้ฟู้ดดีลิเวอรี่เลยทีเดียว

จากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาดอย่างหนักมีแนวโน้มเข้าสู่ระยะที่ 3 ล่าสุดรัฐบาลได้ประกาศพรก.ฉุกเฉินเพื่อสกัดการแพร่ระบาด พร้อมมุ่งเน้นแนวทาง “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ส่งผลให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนหลายแห่ง หาวิธีการในการป้องกันความเสี่ยงการติดเชื้อและการแพร่เชื้อให้กับบุคลากรในองค์กร
หลายหน่วยงานมีนโยบายปรับรูปแบบการทำงานที่บ้าน (Work from Home) นำเทคโนโลยีสื่อสารในปัจจุบันมาเป็นเครื่องมือในการสื่อสาร เพื่อให้ธุรกิจยังดำเนินต่อไป รวมทั้งรูปแบบการศึกษา การเรียนการสอน ที่มุ่งเน้นการเรียนออนไลน์จากที่บ้าน
“ทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส” หลายธุรกิจปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับสถานการณ์และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างเฉียบพลันในเวลานี้





*** เฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านเติบโตดี

นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) ผู้ผลิตและจำหน่าย เฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา เปิดเผยว่า วิกฤติภายใต้การระบาดของโควิด-19 จะเป็นโอกาสอย่างหนึ่งให้กับผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ เนื่องจากประชาชนจะใช้เวลาอยู่กับบ้านและที่อยู่อาศัยมากขึ้น ซึ่งอาจจะเกิดความคิดที่ต้องการจะปรับปรุงการตกแต่งบ้านให้มีความเป็นอยู่ที่สะดวกสบายและน่าอยู่มากขึ้น จากแนวโน้มการทำงานจากที่บ้าน (Work from home) ที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นจากนี้ จะเป็นโอกาสให้ผลิตภัณฑ์ ประเภท โต๊ะทำงาน โต๊ะประชุม ชั้นวางของ รวมถึงชั้นวางเอกสาร จะมีโอกาสจำหน่ายได้มากขึ้น

การปรับตัวของบริษัทในขณะนี้ คือ การพัฒนารูปแบบของสินค้าเฟอร์นิเจอร์เพื่อเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานให้มากขึ้น อาทิ การเพิ่มปลั๊กไฟ หรือช่องเสียบ USB สำหรับโต๊ะรับประทานอาหาร โต๊ะประชุม ชั้นวางของแบบฝังลำโพง เป็นต้น รวมถึงการเพิ่มจำนวนสินค้าเพื่อเสนอขายผ่อนช่องทางออนไลน์ www.elegathai.com ให้มากขึ้นจากเดิม ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ประชาชนจะใช้เวลาอยู่กับบ้านเพื่อช้อปปิ้งสินค้าออนไลน์แทนการออกไปจับจ่ายใช้สอยนอกบ้าน ซึ่งช่วงที่ผ่านมา แนวโน้มยอดจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ผู้คนใช้เวลากับการช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น




สำหรับตลาดการส่งออก พบว่า หากเป็นกลุ่มลูกค้าในประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่อย่างใด และยังนับเป็นโอกาสที่กลุ่มลูกค้าในต่างประเทศ เริ่มตระหนักถึงการลดการพึ่งพาโรงงานผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์เพียงรายใดรายหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมา ประเทศมาเลเซีย เวียดนาม ถือเป็นคู่แข่งที่สำคัญของไทย แต่ขณะนี้บริษัทเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากนโยบายลดการพึ่งพาโรงงานดังกล่าว ซึ่งสังเกตได้จาก เริ่มมีการติดต่อเข้ามาเพื่อขอให้เสนอราคาสินค้าจากกลุ่ม Buyer รายใหม่ ๆ จากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เริ่มระบาด ซึ่งหากการเจรจาซื้อขายเป็นผลสำเร็จ ก็จะช่วยเปิดโอกาสให้บริษัทมีลูกค้ารายใหม่จากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น

ที่ผ่านมาบริษัทเริ่มเปิดตลาดกับลูกค้าที่ทำธุรกิจผู้ให้บริการช้อปปิ้งออนไลน์อันดับต้น ๆ ของอินเดีย แต่ขณะนี้จากการปิดประเทศของอินเดีย ส่งผลให้การนำเข้าสินค้าอาจมีสะดุดบ้าง แต่บริษัทเชื่อว่า ผลกระทบจากโควิด-19 จะเกิดขึ้นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งหากอินเดียเริ่มเปิดประเทศได้อีกครั้ง โอกาสในการสั่งซื้อสินค้าก็จะเริ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน


*** ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคึกคัก

ด้าน ศ.ดร. พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์ไวรัสโควิด - 19 ในประเทศไทยคาดว่าจะมีแนวโน้มการแพร่กระจายมากขึ้น เนื่องจากประชาชนมีความเข้าใจในไวรัสตัวนี้ไม่เพียงพอ ทั้งการดูแลตัวเองไม่ให้ติดเชื้อ หรือควบคุมการแพร่เชื้อให้ผู้อื่น เห็นได้จากสถิติคนติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และถึงแม้ว่าจะมีมาตรการ Work from home แต่ยังคงมีประชาชนอีกหลายกลุ่มที่ยังคงต้องทำงานเพื่อเลี้ยงชีพต่อไป ดังนั้นเมื่อควบคุมสถานการณ์จากภายนอกไม่ได้ ประชาชนทั่วไปก็ควรต้องดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองให้แข็งแรง
APCO ผู้พัฒนานวัตกรรมธรรมชาติเพื่อสุขภาพและความงามด้วยการวิจัย พัฒนา ผลิตและจำหน่ายครบวงจร จึงได้พัฒนาอาหารเสริมนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัด ที่เพิ่มภูมิคุ้มกันด้วยการใช้สารสกัดเสริมฤทธิ์ของมังคุด ร่วมกับสารสกัดอื่นอีก 4 ชนิดคือ ถั่วเหลือง ฝรั่ง งาดำ ใบบัวบก จากการวิจัยอย่างต่อเนื่อง พบว่ามีการเพิ่มขึ้นของสาร 2 ตัว คือ Interferon-γ และ TNF - α อีกทั้งสามารถเพิ่มเม็ดเลือดขาว Th 17 ซึ่งเป็นสารที่ต่อต้านไวรัส นวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการป้องกันและกำจัดเชื้อไวรัสที่มีประสิทธิภาพสูง

โดยที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากพันธมิตรประเทศจีน ที่มีความพอใจในประสิทธิภาพ และต้องการเป็นตัวแทนจำหน่ายเพียงรายเดียวในประเทศจีน ฮ่องกง และไต้หวัน เพื่อช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันแก่ชาวจีนในการต่อสู้กับไวรัสโควิด -19 และยังมีพันธมิตรอีกหลายรายที่สนใจนำผลิตภัณฑ์นวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดเข้าไปจำหน่าย อาทิ ประเทศไนจีเรีย, เอธิโอเปีย




ขณะที่การดำเนินธุรกิจในประเทศ บริษัทเน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด - 19 และทำการตลาดผ่าน Social Media มากขึ้น ทั้งการขายผ่านศูนย์ BIM Health Center และตัวแทนจำหน่าย เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในวงกว้าง คาดว่าจะส่งผลให้ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดในประเทศเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ยอดขายโดยรวมทุกผลิตภัณฑ์ทั้งหมดในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 50% จากช่องทางออนไลน์ และ รายการทีวี เช่น HotLine สายสุขภาพ ส่วนตลาดต่างประเทศมียอดขายเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 20% โดยบริษัทมีแผนเพิ่มกำลังการผลิต 2 เท่าจากเดิม พร้อมประเมินว่าสถานการณ์โควิด-19 ในไทย คาดว่าจะยืดเยื้อไปอีก 2-3 เดือน ขณะที่ในต่างประเทศ เช่น แอฟริกา อาจจะยาวไปอีก 6 เดือน


*** สินค้าสุขอนามัยในบ้านบูม

ดร.พีระพงษ์ กิติเวชโภคาวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) (BEAUTY) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิวภายใต้แนวคิด Live a Beautiful Life เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ส่งผลให้บริษัทฯปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมุ่งเน้นเพิ่มช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ที่หลากหลาย

เสริมสร้างขีดความสามารถการนำเสนอสินค้าและบริการจัดส่งถึงบ้านเพื่อเพิ่มยอดขาย อีกทั้งพนักงานประจำสาขาที่เคยอยู่ในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าชั้นนำต่างๆ จะสามารถขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้ด้วยตัวเอง พร้อมบริการจัดส่งสินค้า และมีจัดโปรโมชั่นพิเศษ โดยสามารถซื้อ-ขายผ่านเว็บไซต์ของบริษัท และผ่านระบบแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ชั้นนำต่างๆ อาทิ https://www.beautybuffet.co.th/ https://www.facebook.com/beautybuffetfanpage/ Line@ >> https://lin.ee/e6atWuG Lazada >> http://bit.ly/2JKADyJ Shopee >> http://bit.ly/2Nu0Phr Zilingo >> http://bit.ly/2BZ038j JD >> http://bit.ly/2P9rKzJ Konvy >> http://bit.ly/2WtT2py ซึ่งคาดว่าช่องทางดังกล่าวจะมียอดขายที่เติบโตขึ้น




อย่างไรก็ดี การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ทำให้คนออกจากบ้านน้อยลง เพราะมีความกังวลระมัดระวัง และรักษาสุขภาพและสุขอนามัยมากขึ้น เพราะฉะนั้นการทำธุรกิจออนไลน์จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี เพราะจะได้ทั้งเรื่องของความหลากหลายของสินค้า และไม่ต้องเดินทางไปซื้อเอง ทำให้รู้สึกมั่นใจและปลอดภัย

อีกทั้งแนวโน้มการทำงานจากที่บ้าน ที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นจากนี้ จะเป็นโอกาสให้กลุ่มสินค้าที่มีความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน อาทิ แอลกอฮอล์เจล สบู่ล้างมือ สบู่เหลว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกาย และสินค้าสุขภาพ สามารถจำหน่ายได้เพิ่มขึ้น โดยบริษัทมีแผนจะเร่งพัฒนาสินค้าในกลุ่มนี้เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค


*** คาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยอดพุ่ง

นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER ผู้นำธุรกิจสินเชื่อเงินผ่อน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้กรุงเทพฯ –ปริมณฑล จังหวัดที่เกี่ยวข้อง ได้ประกาศให้มีการปิดศูนย์การค้าระหว่างวันที่ 22 มี.ค. - 12 เม.ย. 63 เพื่อป้องกันนั้น บริษัทไม่ได้รับผลกระทบทางตรง

เนื่องจากปัจจุบันซิงเกอร์มีฐานลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัด และการขายแบบ Direct Sale มีร้านสาขาทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กรวมกันกว่า 1,115 สาขา ครอบคลุม 763 ตำบล จาก 475 อำเภอทั่วประเทศ อีกทั้งบริษัทมีการนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงานและการอนุมัติสินเชื่อ ทำให้ซิงเกอร์ยังสามารถทำงานได้ตามปกติอย่างมีประสิทธิภาพ

โดยประเมินยอดขายแอร์ปีนี้จะทุบสถิติ จากอากาศร้อนในช่วงเดือนเมษายน และการรักษาระยะห่างทางสังคม หรือมาตรการ Work from home ทำให้ประชาชนเก็บตัวอยู่บ้านมากขึ้น เสริมความต้องการสินค้าแอร์มีแนวโน้มการเติบโตที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับสินค้าในกลุ่ม




ขณะที่ส่วนของสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ "รถทำเงิน" นั้น บริษัทมีความมั่นใจว่าจะสามารถเพิ่มฐานลูกค้าได้จำนวนมากจากผลกระทบของสถานการณ์ หากลูกค้ามีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินสามารถติดต่อเข้ามายังพนักงานขายสินเชื่อของซิงเกอร์ได้ตามปกติ ไม่มีการหยุดชะงัก รวมถึงลูกค้าหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศมาตรการต่างๆ ทำให้ต้องหยุดงานไม่มีรายได้ สามารถมีอาชีพทดแทน หารายได้ให้กับตนเองและดูแลครอบครัวได้ ด้วยการสมัครเข้าเป็นเครือข่ายขายสินค้าซิงเกอร์โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนแม้แต่บาทเดียวได้อีกด้วย

นอกจากนี้การผนึกกำลัง SYNERGY ร่วมกันภายในกลุ่มเจมาร์ท นำเสนอสินค้าโทรศัพท์มือถือ สินค้าไอที และเทคโนโลยีของเจมาร์ท โมบาย พร้อมด้วยการจับมือกับ เจพี ประกันภัยนำแผนประกันภัยใหม่ล่าสุด ประกันโควิด-19 เสนอต่อลูกค้าในช่วงเวลาที่มีความต้องการประกันจำนวนมากในสถานการณ์เช่นนี้ จึงสร้างความมั่นใจได้อย่างดีว่าบริษัทฯ จะสามารถยืนหยัดและเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง

อย่างไรก็ตาม บริษัทห่วงใยความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงานในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 จึงออกมาตรการการป้องกันความเสี่ยง คุมเข้มพนักงานและตัวแทนขายก่อนไปพบลูกค้า และเนื่องจากแนวทางการขายของซิงเกอร์แข็งแกร่งในตลาดต่างจังหวัด ทำให้ยังรับมือในยามวิกฤติครั้งนี้ได้ดี เพิ่มความอุ่นใจให้ลูกค้าหากต้องการรับการบริการที่ดีที่สุดจากซิงเกอร์.


กำลังโหลดความคิดเห็น