กระทรวงอุตสาหกรรมลุยจัดส่งหน้ากากอนามัยชนิดผ้าฟรีให้คน กทม. 5.4 ล้านชิ้นตามแผนหลังผู้ผลิตจะส่งมอบครบ 7 พ.ค.นี้เพื่อให้ไปรษณีย์ไทยส่งตามทะเบียนบ้านที่เหลือ พร้อมแจงชัด “กระทรวงฯ ผลิตหน้ากากผ้าคุณภาพ ผ่านการตรวจรับรองมีผลห้องทดลองยืนยันใช้งานได้จริง ป้องกันละอองสารคัดหลั่งได้” ให้ประชาชนมั่นใจคุ้มค่างบประมาณ 67 ล้านบาทอย่างแน่นอน
นางวรวรรณ ชิตอรุณ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับ และบริหารโครงการผลิตหน้ากากผ้าเพื่อลดปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัยและป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 ได้มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลภาคอุตสาหกรรม จัดทำหน้ากากผ้า จำนวน 10 ล้านชิ้น เพื่อแจกจ่ายแก่ประชาชน แบ่งออก 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มที่ 1 กรุงเทพมหานคร จำนวน 5,450,000 ชิ้น จัดส่งโดยไปรษณีย์ไทย ตามข้อมูลทะเบียนบ้านครัวเรือนในเขตกรุงเทพมหานคร 1 คนต่อ 1 ชิ้น โดยได้ประสานงานใกล้ชิดกับผู้ผลิตและผู้จัดส่งหน้ากากคือไปรษณีย์ไทยให้เป็นไปตามแผนงาน โดยผู้ผลิตจะส่งหน้ากากทั้งหมดให้กระทรวงอุตสาหกรรมภายในวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 ส่วนการจัดส่งได้มีการหารือกับไปรษณีย์ไทยเพื่อปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานและเร่งจัดส่งให้แก่ผู้ที่มีรายชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านมากกว่า 1 รายอย่างเร่งด่วนเป็นลำดับถัดไป ขอให้ประชาชนมั่นใจได้รับหน้ากากผ้าทันเวลาตามจำนวนในทะเบียนราษฎรแน่นอน
สำหรับกลุ่มที่ 2 ปริมณฑล และพื้นที่เสี่ยง จำนวน 2,500,000 ชิ้น มอบหมายให้อุตสาหกรรมจังหวัด ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดแจกจ่ายประชาชนในพื้นที่ และกลุ่มที่ 3 เจ้าหน้าที่/พนักงานกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ จำนวน 2,050,000 ชิ้น ทั้งนี้ ต้นทุนในการผลิตหน้ากากผ้ากระทรวงอุตสาหกรรมมีต้นทุนของหน้ากากผ้าอยู่ที่ 6.08 บาท/ชิ้น และค่าบริหารจัดการของไปรษณีย์ไทยแบบพัสดุ EMS 7 ล้านบาท ซึ่งทั้งสองส่วนสูงกว่างบประมาณที่ได้รับการจัดสรร โดยต้นทุนในส่วนหน้ากากผ้า (ต่อชิ้น) ประกอบด้วย หมวดวัตถุดิบหลัก ได้แก่ ต้นทุนผ้าที่คุณสมบัติเป็นไปตามเกณฑ์สถาบันสิ่งทอ พร้อมค่ายางยืดหูสองข้าง หมวดการผลิต ได้แก่ ค่าแรงตัด เย็บ และ QC หมวดบรรจุภัณฑ์ ได้แก่ ค่าซอง การพิมพ์และแพกสินค้า หมวดทดสอบ ได้แก่ ค่าตรวจสอบคุณสมบัติของผ้าก่อนผลิต ค่าตรวจสอบหน้ากากผ้าหลังผลิตเสร็จตามจำนวนล็อตที่มีการส่งมอบ และหมวดขนส่งถึงจุดที่กระทรวงอุตสาหกรรมกำหนด
นอกจากนี้ เรื่องของคุณภาพมาตรฐานของหน้ากากผ้าที่ผลิต กระทรวงฯ ได้เน้นการผลิตที่มีความปลอดภัยต่อประชาชนเป็นหลัก โดยคุณลักษณะของผ้าและหน้ากากผ้าเป็นไปตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง ข้อแนะนำคุณลักษณะผ้าที่ใช้ในการผลิตหน้ากากอนามัยสำหรับประชาชนเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ได้กำหนดคุณลักษณะผ้า และคุณลักษณะด้านความปลอดภัยไว้แล้ว ซึ่งผ้าที่นำมาใช้ทำหน้ากากผ้าทุกชิ้นได้ผ่านการตรวจรับรองการทดสอบคุณสมบัติทางกายภาพและคุณลักษณะด้านความปลอดภัยจากสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอทั้งก่อนและหลังผลิตหน้ากากผ้า ซึ่งจะต้องมีลักษณะทั่วไป คือ สะอาด ไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ไม่มีลายพิมพ์ อ่อนนุ่มต่อผิวสัมผัส และไม่เกิดการระคายเคือง มีน้ำหนักต่อหน่วยพื้นที่ไม่น้อยกว่า 80 กรัมต่อตารางเมตร และไม่เกิน 220 กรัมต่อตารางเมตร (หากเกินจะส่งผลให้หายใจได้ลำบาก)
ผ่านการทดสอบคุณลักษณะด้านความปลอดภัย ไม่มีสารพิษตกค้าง โดยการทดสอบสีเอโซ และปริมาณฟอร์มัลดีไฮด์ ซึ่งหน้ากากผ้าจะมีการตัดเย็บแบบ 2 ชั้น มีการทดสอบการผ่านได้ของอากาศ (Air Permeability) (ต้องไม่เกิน 50 ลูกบาศก์เซนติเมตรต่อตารางเซนติเมตรต่อวินาที) และความหนาต้องไม่น้อยกว่า 0.5 มิลลิเมตร จึงขอให้มั่นใจว่า “สามารถใช้เพื่อป้องกันละอองสารคัดหลั่งจากการไอหรือจาม (ขนาด 5 ไมครอน) และใช้ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อในการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไปได้”
ทั้งนี้ หากประชาชนท่านใดได้รับหน้ากากอนามัยไม่ครบถ้วนตามจำนวนรายชื่อในทะเบียนบ้าน หรือมีความประสงค์ตรวจสอบสิทธิ์ และสถานะการจัดส่ง หรือหากมีความจำเป็นต้องการหน้ากากเพิ่มเติม สามารถติดต่อแจ้งเรื่องได้ที่กระทรวงอุตสาหกรรม ผ่านทางเว็บไซต์ www.industry.go.th และ www.หน้ากากไทย ต้านโควิด.com หรือสามารถติดต่อแจ้งปัญหาได้ทางเบอร์โทรศัพท์ 0-2202-3737 หรือติดต่อผ่านช่องทางศูนย์บริการสถานการณ์วิกฤต กระทรวงอุตสาหกรรม