xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” จับมือผู้ผลิต-ห้างลดสินค้า 72 รายการ 5-58% ช่วยผู้บริโภครับมือโควิด-19

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พาณิชย์” จับมือผู้ผลิต ห้าง ลดราคาสินค้าช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนช่วงวิกฤตโควิด-19 นำร่อง 6 กลุ่ม 72 รายการ เผยมีอาหาร อาหารปรุงสำเร็จ ซอสปรุงรส ของใช้ส่วนตัว ของใช้ชำระร่างกาย และซักล้าง ลด 5-58% ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 63 หวังจะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมเพิ่มมากขึ้น

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ของประเทศจำนวน 14 ราย และห้างค้าส่งค้าปลีก 8 ราย วานนี้ (16 เม.ย.) ว่า ผู้ผลิตและห้างได้ตอบรับเข้าร่วมโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน โดยจะลดราคาสินค้าในช่วงเหตุการณ์ไม่ปกติจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จำนวน 6 กลุ่มสินค้า รวม 72 รายการ ปรับลดราคาลงตั้งแต่ 5-58% เป็นราคาที่ลดขายปลีกในราคาปลายทางทั้งหมด เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.-30 มิ.ย. 2563 โดยการลดราคาสินค้าครั้งนี้เป็นโครงการนำร่อง และคาดว่าจะมีผู้ผลิตสินค้ามาเข้าร่วมมากขึ้นเพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน

สำหรับสินค้าทั้ง 6 กลุ่ม ได้แก่ 1. หมวดอาหารและเครื่องดื่ม เช่น ข้าวสารบรรจุถุง น้ำมันปาล์ม ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โจ๊กคัพ นมถั่วเหลือง นมพร้อมดื่มยูเอชที เป็นต้น ลดตั้งแต่ 5-50% 2. อาหารปรุงสำเร็จแช่แข็ง เช่น ข้าวไข่เจียว ข้าวไก่กระเทียม ข้าวผัดหมู ข้าวผัดกะเพรา เป็นต้น ลดตั้งแต่ 31.03-37.50% 3. ซอสปรุงรส ลดตั้งแต่ 7-37% 4. ของใช้ในชีวิตประจำวัน ลดตั้งแต่ 8-50% เช่น กระดาษชำระ แป้ง ยาสีฟัน แปรงสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก ผ้าอนามัย เป็นต้น 5. ของใช้ชำระร่างกาย ลดตั้งแต่ 6-58% เช่น สบู่ก้อน สบู่เหลว แชมพู เป็นต้น และ 6. ผลิตภัณฑ์ซักล้าง ลดตั้งแต่ 10-51% เช่น ผงซักฟอง น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาล้างจาน เป็นต้น

“กระทรวงพาณิชย์ขอขอบคุณผู้ผลิต ห้างค้าส่งค้าปลีก ที่มาร่วมลดราคากับกระทรวงพาณิชย์ และคาดว่าจากนี้ไปจะมีการเพิ่มรายการสินค้า หรือมีผู้ประกอบการรายอื่นเข้ามาร่วมลดราคาเพิ่มเติม ซึ่งจะมีการประสานงานต่อไป และจะแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบว่ามีรายการสินค้าที่จะมาร่วมกันลดราคาเพิ่มเติมอะไรอีกบ้าง แต่ยังไม่ได้ประเมินว่าจะช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชนได้เท่าไร เพราะขึ้นอยู่กับยอดขาย และยอดบริโภค ซึ่งจะติดตามอีกครั้ง แต่วัตถุประสงค์สำคัญคือ การลดราคาในสถานการณ์ไม่ปกติครั้งนี้เป็นการช่วยเหลือประชาชนในการลดค่าครองชีพ แม้จะไม่ได้ทั้งหมด” นายจุรินทร์กล่าว

อย่างไรก็ตาม การลดราคาไม่ได้เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมันขายปลีกที่ปรับลดลง เพราะที่สอบถามจากกรมการค้าภายในพบว่าการผลิตสินค้าไม่ได้ใช้น้ำมันเป็นเกณฑ์ของต้นทุนเพียงอย่างเดียว ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในรูปของต้นทุนค่าขนส่ง โดยต้นทุนผลิตสินค้าจะมีต้นทุนจากค่าแรงและค่าวัตถุดิบเป็นหลัก และที่ผ่านมาในช่วงน้ำมันแพงก็ได้มีการขอความร่วมมือในการตรึงราคาสินค้า ไม่ให้มีการอ้างเหตุผลของราคาน้ำมันในการปรับขึ้นราคา โดยต้นทุนของราคาน้ำมันขายปลีกที่ลดลงมีผลต่อต้นทุนสินค้าแค่ 1-3% เท่านั้น

นายวัฒนศักดิ์ เสือเอี่ยม รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ลดลง ส่วนใหญ่จะเป็นต้นทุนในภาคบริการขนส่งโลจิสติกส์เป็นหลัก ถ้าเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคจะมีต้นทุนค่าขนส่ง 3% และถ้าเป็นเฉพาะน้ำมันที่เป็นต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 1.3% เท่านั้น เพราะฉะนั้น ต้องเรียนว่าที่ผ่านมากรมฯ ไม่ได้อนุญาตให้มีการปรับขึ้นราคาจากเรื่องปัจจัยราคาน้ำมันเลย


กำลังโหลดความคิดเห็น