xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.สั่งบริษัทลูกทบทวนแผนใน 1 เดือนรับมือโควิด-19

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ชาญศิลป์” สั่งบริษัทในกลุ่ม ปตท.ทบทวนแผนใน 1 เดือนรับมือผลกระทบจากโควิด-19 โดยตัดลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ส่วนน้ำมันเจ็ตนำมาผลิตเป็นดีเซลขาย สำหรับโครงการที่ลงทุนแล้วก็ให้เดินหน้าเต็มที่

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง มีการใช้น้ำมันดิบโลกลดลง 25-30 ล้านบาร์เรล/วัน ดังนั้น ปตท.ได้สั่งการให้บริษัทในเครือรับมือ ทบทวนแผนงานโดยเสนอแผนกลับมาภายใน 1 เดือน จากเดิมที่จะมีการทบทวนแผนทุกกลางปี ซึ่งเบื้องต้นได้ให้ตัดงบค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น แต่ไม่มีการลดเงินเดือนหรือลดพนักงาน

สำหรับงบลงทุนระยะยาวยังเดินหน้าเช่นเดิม เช่น โครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project) ของ บมจ.ไทยออยล์, โครงการ Ultra Clean Fuel Project (UCF) รองรับการผลิตน้ำมันตามมาตรฐานยูโร 5 ของ บมจ.ไออาร์อีซี และโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของโรงงานที่มาบตาพุด (มาบตาพุด เรโทรฟิต) ของ บมจ.พีทีทีโกลบอลเคมิคอล เป็นต้น

นายชาญศิลป์กล่าวว่า จากความต้องการใช้น้ำมันที่ปรับลดลงโดยเฉพาะน้ำมันอากาศยาน (เจ็ต) ที่ได้รับผลกระทบจากการบินเชิงพาณิชย์หยุดบินส่วนใหญ่ คงมีแต่การบินเชิงความมั่นคงและมนุษยธรรม ทำให้มีน้ำมันค้างสต๊อก ดังนั้น โรงกลั่นฯ ในกลุ่ม ปตท.ได้ปรับเปลี่ยนการผลิต จากที่มีกำลังกลั่นเจ็ตประมาณร้อยละ 12-15 ก็นำมาผลิตเป็นน้ำมันกลุ่มดีเซลทดแทน แม้จะมีการล็อกดาวน์หลายพื้นที่ แต่การขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคยังคงมีขนส่งต่อเนื่อง ยอดขายดีเซลจึงไม่กระทบมากนัก ในขณะที่กลุ่มเบนซินมียอดการใช้ลดลงมา

“ยอมรับว่าไตรมาส 1/63 กลุ่ม ปตท.ได้รับผลกระทบหนัก แต่มองว่าภาวะการระบาดของโควิด-19 นั้น สุดท้ายแล้ววิทยาการทางการแพทย์จะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงได้ ซึ่งจะเห็นได้จากจีนเริ่มกลับมาเปิดเมืองเดินหน้าผลิตสินค้า เริ่มสต๊อกน้ำมัน ราคาปิโตรเคมีเริ่มขยับขึ้น รัฐบาลทั่วโลก รวมทั้งไทย มีการอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็คาดว่าใน 3-6 เดือนข้างหน้าราคาน้ำมันดิบจะอยู่ในระดับ 35-45 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล จากที่ขณะนี้ราคาน้ำมันดิบดูไบลดลงอยู่ที่ระดับ 24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และต้องจับตาดูการประชุมโอเปกใน 9 เม.ย.นี้ รวมทั้งการหารือกับรัสเซียด้วยว่าจะมีข้อตกลงประกาศปรับลดกำลังผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมันปริมาณเท่าใด” นายชาญศิลป์กล่าว

การที่รัฐบาลไทยดำเนินการหลากหลายมาตรการในการดูแลผลกระทบจากโควิด-19 นั้นเป็นเรื่องที่ดี และจะเห็นได้ว่าเอกชนและรัฐวิสาหกิจก็ร่วมกันเข้ามาช่วยในด้านต่างๆ ทั้งการร่วมผลิตพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยในส่วนของบริษัทในกลุ่ม ปตท.ก็เข้าร่วมในหลายมิติ ทั้งพัฒนาเครื่องมือแพทย์ ร่วมบริจาคแอลกอฮอล์ เจล และอื่นๆ ซึ่งกลุ่ม ปตท.ขอเป็นกำลังใจแก่ทีมแพทย์ รวมทั้งประชาชนในการฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ ล่าสุด ปตท.ก็ได้ร่วมมือกับกระทรวงพลังงานในการจัดหาแอลกฮอล์เพิ่มเติมส่งไปให้ระดับหมู่บ้านทั่วประเทศเพื่อให้เกิดการกระจายอย่างทั่วถึง ซึ่งเป็นโครงการใหม่เพิ่มเติมจากเดิมที่ ปตท.ตั้งเป้าจัดหาแอลกอฮอล์กว่า 160,000 ลิตร เพื่อช่วยเหลือด้านการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศ

นายชาญศิลป์กล่าวถึงการจัดตั้งบริษัท PTT International Trading USA Inc. (PTTT USA) ในสหรัฐฯ โดย ปตท.ถือหุ้นทั้งหมดด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 5,000 เหรียญสหรัฐ นั้น ก็เนื่องจากว่าสหรัฐฯ เป็นผู้ส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) รายใหญ่ของโลก ในขณะที่ประเทศไทยมีความต้องการใช้แอลเอ็นจีนำเข้าเพิ่มขึ้น และนำเข้าน้ำมันถึงร้อยละ 80 ดังนั้น การมีสำนักงานตัวแทนในสหรัฐฯ ก็เพื่อติดต่อการค้าได้ทันท่วงที เสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ และขยายเครือข่ายการค้าให้ครอบคลุมทั่วโลก ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งการสร้างรายได้ สร้างมูลค่าเพิ่ม และสนับสนุนการทำธุรกรรมของกลุ่ม ปตท. และบริษัทในเครือ

ปัจจุบัน ปตท.มีการจัดตั้งบริษัทการค้าระหว่างประเทศในสิงคโปร์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, อังกฤษ และมีสำนักงานตัวแทนที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย


กำลังโหลดความคิดเห็น