ORคาดยอดขายน้ำมันผ่านปั๊มช่วงเม.ย.ดิ่ง30-40% เตรียมทบทวนแผนขยายปั้มหลังรับผลกระทบโควิด-19 แจงขายแอลกอฮอล์ผ่านปั๊มพรุ่งนี้ มีต้นทุนสูงกว่าแอลกอฮอล์ชนิดที่นำไปผสมในน้ำมัน E85
นายบุญมา พนธนกรกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ในฐานะที่กำกับดูแลสถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น เปิดเผยว่า ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้นต้องยอมรับว่าส่งผลให้ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ของ OR ในปัจจุบันลดลงประมาณ 20-30% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนในช่วงเดือน เม.ย.นี้ คาดว่ายอดขายจะปรับตัวลดลงอีกในระดับ 30-40% เนื่องจากเป็นช่วงที่มาตรการของภาครัฐเริ่มเข้มข้น ประชาชนส่วนใหญ่อยู่บ้าน จำนวนรถบนท้องถนนลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ซึ่งในช่วงภาวะปกตินั้น OR จะมียอดขายน้ำมันผ่านสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น เฉลี่ยอยู่ในระดับ 800-900 ล้านลิตรต่อเดือน
ดังนั้นแผนขยายสถานีบริการน้ำมันของ OR นั้นก็คงต้องทบทวนปรับแผนใหม่ว่าจะลดจำนวนการขยายสถานีบริการ หรือชะลอแผนการขยายออกไปอย่างไร จากแผนเดิมจะขยาย 165 สาขาในปีนี้
ส่วนกรณีที่มีนักวิชาการมาท้วงติงเรื่องการจำหน่ายแอลกอฮอล์ความเข้มข้น 70% จำนวน 100,000 ขวดในวันที่ 4 เม.ย.นี้ ในราคา 110 บาทต่อบรรจุขวด 1 ลิตรที่มองว่าแพงเกินไปนั้นเมื่อเทียบกับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ที่จำหน่ายลิตรละ 15.30 บาท ขอชี้แจงว่า แอลกอฮอล์ความเข้มข้นสำหรับใช้ทางการแพทย์นั้นไม่ใช่ชนิดเดียวกันกับแอลกอฮอล์ที่นำมาผสมน้ำมันเบนซินเป็นน้ำมัน E85 โดยต้นทุนการผลิตแอลกอฮอล์สำหรับใช้ทางการแพทย์ก็สูงกว่า ทั้งค่าขนส่ง ขบวนการผลิต บรรจุภัณฑ์ ดังนั้นจึงนับว่าเป็นราคาที่ถูกเมื่อเทียบกับแอลกอฮอล์ทางการแพทย์ตามท้องตลาดที่ส่วนใหญ่จำหน่ายกว่า 300 บาทต่อลิตร
อย่างไรก็ตามในช่วงวิกฤตของการแพร่ระบาดของไวรัสโค-19 นั้น OR ได้มีมาตรการต่างๆ ออกมาช่วยเหลือประชาชนและหน่วยงานภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการแจกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ สนับสนุนเงินให้กับโรงพยาบาล เพื่อใช้ทางการแพทย์ นอกจากนี้ยังได้ช่วยเหลือคู่ค้าที่เป็นร้านเช่าในพื้นที่สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น โดยการลดค่าเช่า พร้อมกันนี้ OR ยังมีมาตรการลดค่าใช้จ่ายในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโค-19 อีกด้วย เช่น ลดงบทางการตลาด ยกเลิกการจัดสัมมนาให้กับตัวแทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) เพื่อนำเงินในส่วนนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบไวรัสโควิด-19
