“บีโอไอ” เตรียมออกแพกเกจพิเศษส่งเสริมการลงทุนเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ รวมถึงหน้ากากอนามัย อัดสิทธิประโยชน์จูงใจเพิ่มหวังเร่งผลิตรับมือโควิด-19 จ่อชงบอร์ดเคาะ 9 เม.ย. เผย 4 โรงงานหน้ากากจ่อยื่น
น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอ) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วันที่ 9 เม.ย. จะเสนอมาตรการส่งเสริมการลงทุนกิจการผลิตหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่เพิ่มสิทธิพิเศษเพื่อจูงใจให้เกิดการลงทุนมากขึ้น รองรับความต้องการในช่วงเกิดวิกฤตไวรัสโควิด-19 แต่จะมีเงื่อนไขในการกำหนดระยะเวลาการลงทุนเพื่อเร่งให้เกิดการลงทุนที่เร็วขึ้น
"สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับเพิ่มนั้นคงจะมองที่ภาษีเงินได้และมีเงื่อนไข เช่น ลงทุนเร็ว ผลิตเร็ว ก็จะได้สิทธิประโยชน์สูงขึ้น เพราะแพกเกจนี้เกิดขึ้นเพื่อเร่งรัดให้ผู้ที่กำลังจะลงทุนมีการเร่งก่อสร้างเพื่อให้เกิดการผลิตหน้ากากที่มีความต้องการสูงขึ้น โดยแพกเกจนี้จะมีการปรับทุกระดับจากสิทธิประโยชน์เดิมที่เคยให้ไว้กับกลุ่มนี้ โดยรายละเอียดคงต้องรอบอร์ดเห็นชอบอีกครั้ง" น.ส.ดวงใจกล่าว
ปัจจุบันไทยมีผู้ผลิตหน้ากากอนามัย 11 แห่ง และ 5 แห่งได้รับส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอและผลิตแล้ว ขณะเดียวกัน ยังมีผู้ผลิตหน้ากากอนามัยอีก 4 รายที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ อยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่องจักรและก่อสร้างโรงงาน มีกำลังผลิตรวมที่ระบุไว้ในบัตรส่งเสริมการลงทุนประมาณ 3 แสนชิ้นต่อวัน และล่าสุดมีผู้มายื่นขอบีโอไอลงทุนกิจการหน้ากากอีก 4 รายที่เตรียมยื่นขอส่งเสริมบีโอไอ มีทั้งรายใหม่ และรายเก่าที่ขยายกำลังผลิต
"สถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด บีโอไอได้ขอความร่วมมือกับโรงงานที่ก่อสร้างอยู่ให้เร่งการผลิตให้เร็วขึ้น ขณะเดียวกันก็เข้าไปช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องใบอนุญาตต่างๆ หรือกฎระเบียบ เพื่อสามารถผลิตหน้ากากฯ ได้เร็วขึ้น มีการเปิดบริการช่องทางพิเศษ (Fast Track Lane) เพื่อความคล่องตัวในการดำเนินการจัดตั้งโรงงาน เช่น โครงการผลิตหน้ากากของกลุ่มซีพี" น.ส.ดวงใจกล่าว
น.ส.ดวงใจกล่าวชี้แจงว่า โรงงานหน้ากากอนามัย 5 แห่งที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอที่มีการผลิตแล้วนั้นส่วนใหญ่เป็นการผลิตเพื่อส่งออกตามคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) มีบางรายเป็นบริษัทต่างชาติที่ใช้ไทยเป็นฐานส่งออก บีโอไอไม่ได้กำหนดเงื่อนไขการส่งออกแต่อย่างใด สิทธิประโยชน์ที่ได้ก็คือยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร ภาษีเงินได้ซึ่งไม่เกี่ยวกับการส่งออกแต่อย่างใด
"จะมีอยู่เรื่องหนึ่ง คือ การยกเว้นอากรขาเข้าวัตถุดิบเป็นสิทธิประโยชน์เพื่อการส่งออกโดยเฉพาะแต่ไม่ได้หมายความว่าจะขายในประเทศไม่ได้เพราะก็แค่อย่าไปขอยกเว้นอากรฯ ก็เท่านั้น และถ้าสมมติเขาไปขอยกเว้นแล้วมีความจำเป็นต้องขายในประเทศก็แค่ต้องไปเสียอากร" น.ส.ดวงใจกล่าว