“บีโอไอ” เผยสัญญาณการลงทุนปีนี้มีทิศทางดี ยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนไตรมาสแรกปี 2561 มูลค่าเงินลงทุนกว่า 2 แสนล้านบาท พร้อมชูมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพกระตุ้นการลงทุนเพิ่ม
น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงสถิติขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 (มกราคม-มีนาคม 2561) ว่ามีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนรวม 333 โครงการ เงินลงทุนรวม 203,630 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อบรรยากาศการลงทุนในปีนี้ โดยมูลค่าดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 28 ของเป้าหมายขอรับส่งเสริมการลงทุนตลอดทั้งปีที่ 720,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ มูลค่าเงินลงทุนในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมากว่า 1 แสนล้านบาท โดยเป็นการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจากกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายต่างๆ ได้แก่ อุตสาหกรรม ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน และกลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร
ชูมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพกระตุ้นลงทุนเพิ่ม
น.ส.ดวงใจกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากการลงทุนโครงการใหม่ และโครงการขยายของรายเดิมในปีนี้น่าจะเห็นทิศทางการลงทุนของภาคเอกชนในอีกมิติหนึ่ง ซึ่งก็คือมีการลงทุนตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตเพิ่มมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากเฉพาะช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-มีนาคม2561) มีผู้ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตแล้ว 33 โครงการ มีมูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 1,500 ล้านบาท
“ภาคเอกชนจำนวนมากยื่นขอลงทุนปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต โดยในปี 2560 มีมูลค่าสูงกว่า 17,000 ล้านบาท ทำให้บีโอไอมั่นใจว่าในปีนี้ จะมีความสนใจลงทุนปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตสูงกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยผลักดันให้เกิดการพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมการผลิตและของประเทศไทยไปพร้อมกันด้วย” น.ส.ดวงใจกล่าว
บีโอไอได้ออกมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ซึ่งเป็นนโยบายที่สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องการให้เกิดการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันแก่ภาคอุตสาหกรรม และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี นวัตกรรม โดยมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ได้แก่ การส่งเสริมให้เกิดการลงทุนเพื่อประหยัดพลังงาน ใช้พลังงานทดแทนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การนําหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ หรือระบบดิจิตอลมาใช้