ผู้โดยสารรถไฟฟ้าลด40% พิษ "โควิด-19" เลี่ยงเดินทาง ด้าน บีทีเอส ให้บริการเต็มระบบด้วยความถี่สูงสุด เพื่อแก้แออัดภายในขบวนรถ "อธิบดีกรมราง"สั่งเพิ่มจุดวัดไข้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งมีตัวเลขผู้ติดชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน และล่าสุด พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชกากรุงเทพมหานคร (กทม.) ไดแจ้งถึงประกาศกทม. เรื่องปิดห้างสรรพสินค้า และขอความร่วมมือ ในการใช้ระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภท ทั้งล้อ เรือ ราง และรถไฟฟ้า บีทีเอส บีอาร์ที ที่จะต้องลดจำนวนผู้โดยสารในแต่ละเที่ยว ให้น้อยลงเพื่อเพิ่มพื้นที่ระยะห่างให้ผู้โดยสารภายในขบวนรถ ซึ่งอาจจะทำให้ต้องใช้เวลาในการรอรถนานขึ้นนั้น
บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส แจ้งว่า รถไฟฟ้าบีทีเอสยังเปิดให้บริการตามปกติ โดยยังคงความถี่ในการเดินรถสูงสุด ท่ามกลางสถานการณ์ที่ผู้โดยสารลดลง เพื่อให้ผู้โดยสารมีระยะห่างกันมากขึ้น
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้โดยสารรถไฟฟ้าสีน้ำเงินในวันธรรมดาเฉลี่ย ต่ำกว่า 3 แสนคน/วัน จากปกติที่มี 3.8แสนคน/วัน ซึ่งช่วยลดความหนาแน่นในระบบลงไประดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม รฟม. และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ได้ยกระดับการคัดกรองผู้โดยสารก่อนเข้าระบบตามประกาศกรมการขนส่งทางราง
ได้แก่ การขอความร่วมมือ ผู้โดยสาร ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ซึ่งพบว่า มีผู้โดยสารมากกว่า 98% ที่ใส่ มีส่วนน้อย ที่ไม่ใส่ ซึ่งหลังจากนี้ จะมีการหารือกันต่อเนื่องเพื่อกำหนดมาตรการให้ทันและสอดคล้องกับสถานการณ์
ด้านนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) กล่าวว่า กรมรางฯ ได้ประชุมร่วมกับผู้ให้บริการระบบรางทั้งหมด ได่แก่ รถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) บริษัท บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTS) เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ที่เข้มข้นขึ้น
ซึ่งปัจจุบัน ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าลดลงประมาณ 40% โดยรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน มีผู้โดยสาร ประมาณ 2.5 แสนคน/วัน จากปกติ 3.8 แสนคน/วัน ส่วน รถไฟฟ้าบีทีเอส มีผู้โดยสาร เฉลี่ย 5.5 แสนคน/วัน จากปกติ มีผู้โดยสาร 8.5 แสนคน/วัน ซึ่งทำให้ความหนาแน่ในระบบลดลง แต่ทั้งนี้ ในช่วงเวลาเร่งด่วน ยังคงมีผู้โดยสารหนาแน่นบ้าง ซึ่งต้องขอความร่วมมือผู้โดยสารในการใส่หน้ากากอนามัยไว้ตลอดเวลา เพื่อป้องกันตัวเอง หากไม่จำเป็นให้ทำงานที่บ้าน เพื่อลดการเดินทาง
ทั้งนี้ ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าทุกรายจะเพิ่มมาตรการคัดกรองผู้โดยสาร และสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาให้เข้าระบบหากไม่ให้ความร่วมมือ เช่น ต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ซึ่งกรณีผู้โดยสารไม่มีหน้ากากอนามัย ให้ผู้ให้บริการเตรียมจัดหาสำรอง รวมถึงตั้งจุดวัดอุณหภูมิก่อนเข้าระบบ โดยทยอยเพิ่ม เนื่องจากอยู่ระหว่างจัดหา เครื่องมือสำหรับตรวจอุณหภูมิ (Thermoscan) ให้เพียงพอ