“พาณิชย์” เผยวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมาจับกุมดำเนินคดีผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยผิดกฎหมายได้รวม 8 ราย ส่วนใหญ่เจอข้อหาขายเกินราคาควบคุม ส่วนยอดรวมทั้งหมดจับได้แล้ว 115 ราย
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการจับกุมดำเนินคดีผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 สิ้นสุดวันที่ 10 มี.ค. 2563 ที่ผ่านมาว่า ได้จับกุมดำเนินคดีรวม 8 ราย แยกเป็น กรุงเทพฯ จำนวน 3 ราย เป็นการกระทำผิดในข้อหาขายเกินราคาควบคุม 2 ราย และข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่าย 1 ราย และต่างจังหวัด จำนวน 5 ราย ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดขอนแก่น จังหวัดสกลนคร และจังหวัดสมุทรปราการ เป็นการกระทำผิดในข้อหาขายเกินราคาควบคุมทั้ง 5 ราย
ส่วนยอดรวมการจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำความผิดจนถึงวันที่ 10 มี.ค. 2563 มีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 115 ราย แบ่งเป็นการจับกุมในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 80 ราย และในต่างจังหวัด 35 ราย แยกเป็นความผิดขายเกินราคาควบคุม 10 ราย ไม่ปิดป้ายแสดงราคา 29 ราย และขายแพงเกินสมควร 76 ราย ในจำนวนนี้เป็นการกระทำความผิดจากการขายผ่านออนไลน์จำนวน 16 ราย ซึ่งผู้ถูกจับกุมมีทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
สำหรับโทษที่ผู้กระทำความผิดจะได้รับตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 มีดังนี้ ข้อหาขายเกินราคาควบคุม (ชิ้นละ 2.50 บาท) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และข้อหาขายแพงเกินสมควร มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้กำหนดให้ผู้นำเข้า หรือตัวแทนจำหน่าย ต้องแจ้งปริมาณการถือครองสินค้าต่อกรมการค้าภายใน หากฝ่าฝืนจะมีความผิด ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท
“ขอแจ้งถึงประชาชน หากพบเห็นผู้กระทำผิดโปรดแจ้งข้อมูลและหลักฐานมายังสายด่วน 1569 หรือสื่อโซเชียลของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์” นายบุณยฤทธิ์กล่าว