BCP เร่งปรับลดค่าใช้จ่ายภายใต้โครงการ Rocket ดัน EBITDA เพิ่มราว 800-1,000 ล้านบาทในปี 63 เพื่อรับมือเศรษฐกิจหดจากไวรัสโควิด-19 ฉุดยอดขายผ่านปั๊มชะลอตัว
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BCP) เปิดเผยว่า ในปี 2563 บริษัทตั้งเป้าหมายเพิ่มกำไรก่อนดอกเบี้ย, ภาษี, ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จำนวน 800-1,000 ล้านบาท จากแผนลดค่าใช้จ่ายจากการปรับปรุงการดำเนินงานจองโรงกลั่นตามโครงการ Rocket และในปี 64 EBITDA ก็จะเพิ่มอีกราว 500 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีผลต่อเศรษฐกิจ ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัว กระทบต่อยอดขายน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมันให้อยู่ในภาวะทรงตัวในเดือน ก.พ. จากปกติเติบโตราว 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
“ผลกระทบโควิดในไตรมาสแรกก็คงกระทบเพราะดีมานด์หายไป ยอดขายผ่านปั๊มเราก็ทรงๆ จากปกติจะเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะเป็น seasonal เดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์เป็นช่วงไฮซีซัน แต่ตอนนี้ทรงตัว ปกติภาพรวมในประเทศจะเติบโต 2-3% และของเราโต 3% แต่ปีนี้ flat เดือนมกราคมเราโต 1-2% และเดือนกุมภาพันธ์เราทรงตัว” นายชัยวัฒน์กล่าว
ขณะนี้ภาพตลาดน้ำมันรวมก็ชะลอตัวลงไปมากเช่นเดียวกันจากภาคการท่องเที่ยวที่ชะลอตัวลง ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง ส่งผลให้เกิดการขาดทุนสต๊อกน้ำมันในช่วงไตรมาส 1/63 ด้วย
ทั้งนี้ เห็นว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นรัฐบาลควรจะมีมาตรการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเข้ามาช่วยประคองสถานการณ์ ทั้งในส่วนของการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2563 ตลอดจนการลดภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างการชะลอการจ่ายภาษีที่ดิน เพื่อให้มีเงินเติมเข้าในระบบนำไปใช้จ่ายเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
สำหรับในส่วนของบริษัท นอกจากการปรับปรุงการดำเนินงานเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รวมถึงการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นเพื่อเพิ่ม EBITDA แล้ว ในส่วนของการลงทุนก็จะพิจารณาให้มีความเหมาะสมโดยไม่เร่งรีบ จากแผนเดิมที่จะใช้เงินลงทุนในช่วง 5 ปี (ปี 63-67) ที่ราว 5 หมื่นล้านบาท โดยเป็นเงินลงทุนในปีนี้ 2.98 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการลงทุนปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมันเพื่อให้ตามมาตรฐานยูโร 5 นั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกแบบและคาดว่าจะสามารถจัดหาผู้รับเหมาได้ในช่วงปลายปีนี้ซึ่งจะทำให้รู้มูลค่าลงทุนที่แท้จริงได้ หลังจากนั้นจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 64 ซึ่งเบื้องต้นจากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ลดต่ำลงในขณะนี้ก็คาดว่าราคาค่ารับเหมาก่อสร้างจะต่ำลงได้ในช่วงนั้น
ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิด ว่าจะมีความรุนแรงมากขึ้น กระทบต่อเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมันภาพรวม จนส่งผลให้บริษัทต้องลดอัตราการใช้กำลังการกลั่นหรือไม่ ซึ่งยังเป็นออปชันที่เปิดกว้างไว้ว่าสิ่งใดที่จำเป็นต้องทำก็ต้องดำเนินการ ทั้งนี้ น้ำมันที่ได้จากโรงกลั่นบางจากเกือบทั้งหมดจำหน่ายภายในประเทศ ดังนั้น การปรับลดกำลังผลิตยังขึ้นกับยอดขายน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมัน หากเห็นการปรับตัวลงอย่างชัดเจนก็ต้องมาพิจารณาเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง