xs
xsm
sm
md
lg

นมวัวแดงเร่งพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ๆ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อ.ส.ค.รับมือภาวะวิกฤตเศรษฐกิจทรุด ผนึก ม.เกษตรฯ เร่งศึกษาธุรกิจนมบน “แพลตฟอร์ม” พร้อมเดินหน้าวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คสู่นวัตกรรมและธุรกิจสมัยใหม่ รองรับการเติบโตของ อ.ส.ค.และผลักดันอาชีพโคนมสู่ความยั่งยืน พร้อมหนุนคนไทยสุขภาพดีต้านทานไวรัส “โควิด-19”

ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวว่า อ.ส.ค.จับมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ลงนามทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อร่วมพัฒนางานด้านทุนมนุษย์ (Human Capital Design and Development) นวัตกรรมผลิตภัณฑ์รูปแบบกิจการ และสถาบันการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับนวัตกรรมการวิจัยเพื่อสร้างการกินดีมีสุขภาวะกับ ม.เกษตรศาสตร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างนวัตกรรมเพื่อส่งมอบสุขภาวะให้ประชาชนทุกช่วงวัยและสร้างทรัพยากรมนุษย์มีอาชีพบนกิจการเกี่ยวกับโคนมด้วยแนวทางยั่งยืน


ความร่วมมือในครั้งนี้คาดหวังให้เกิดความสำเร็จใน 5 ด้าน คือ1. การพัฒนาและจัดทำฐานข้อมูลเชิงกลยุทธ์ HR Innovation 4.0 ของ อ.ส.ค. ในการมุ่งสู่การเป็นนมแห่งชาติภายในปี 2564 2. การออกแบบและพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างสุขภาวะผ่านผลิตภัณฑ์และรูปแบบบริการของ อ.ส.ค.ในอนาคต 3. การพัฒนาสถาบันการเรียนรู้ให้เป็นระบบ (Smart Academy) ที่สอดคล้องกับนวัตกรรมสมัยใหม่ 4. การจัดทำ ความร่วมมือการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรม (Innovation center) ของ อ.ส.ค.ร่วมกับ ม.เกษตรศาสตร์และโรงพยาบาลในเครือกระทรวงสาธารณสุขและโรงเรียนแพทย์ และ 5. การพัฒนาต่อยอดและบูรณาการความร่วมมือด้านการเรียนการสอน การวิจัย การสร้างนวัตกรรมร่วมกับการทำธุรกิจยุคใหม่ (Business Platform) เพื่อรองรับการเติบโตของ อ.ส.ค.ในอนาคตอย่างยั่งยืน โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี คือระหว่างปี 2263-2568

ดร.ณรงค์ฤทธิ์กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันสถานการณ์เศรษฐกิจของไทยและทั่วโลกกำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤตจากปัญหาเชื้อไวรัส “โควิด-19” ระบาดอย่างรุนแรง จำเป็นที่ภาคอุตสาหกรรมและองค์กรต่างๆ จะต้องปรับตัวรับภาวะการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะพฤติกรรมของผู้บริโภคและตลาดอุตสาหกรรมด้านต่างๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงไป การลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่าง อ.ส.ค. กับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ภาคีเครือข่ายในครั้งนี้จึงถือเป็นมิติที่ดีในการร่วมกันวิจัยและพัฒนานวัติกรรมผลิตภัณฑ์นมและบุคลากรด้านอุตสาหกรรมนมสู่ความทันสมัยและก้าวทันธุรกิจสมัยใหม่ที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะการปรับตัวเข้าสู่ธุรกิจนมบนแพลตฟอร์มใหม่ๆ เพื่อให้ประชาชนและผู้บริโภคได้รับสุขอนามัยที่ดี มีสุขภาพที่แข็งแรงรวมทั้งผลักดันอาชีพโคนมก้าวสู่ความยั่งยืนยิ่งขึ้นไปอีก ที่สำคัญคือรองรับการเติบโตของ อ.ส.ค.ในอนาคต










กำลังโหลดความคิดเห็น