รายงานข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) แจ้งว่า กทพ.ได้เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ กทพ.แล้ว โดยเปิดให้ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอรับใบสมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ และยื่นเอกสารการสมัครได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม 2563 จนถึงวันศุกร์ที่ 27 มีนาคม 2563 ในวันทำการ ระหว่างเวลา 08.30-12.00 น. และเวลา 13.00-16.30 น. (เว้นวันหยุดราชการ) หรือสามารถสั่งพิมพ์ใบสมัครได้ที่ www.exat.co.th
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ กทพ.มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละไม่เกิน 4 ปี หรือเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ แล้วแต่วาระใดจะถึงก่อน โดยกำหนดคุณสมบัติ ผู้สมัครเข้ารับการสรรหาจะต้องมีสัญชาติไทย มีอายุไม่เกิน 58 ปีบริบูรณ์ ในวันยื่นใบสมัคร สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่าจากสถานศึกษาที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) รับรอง ไม่เป็นข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ไม่ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง เป็นผู้มีความรู้ ความชำนาญในด้านใดด้านหนึ่งหรือหลายด้านเกี่ยวกับการบริหาร วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ การผังเมือง เศรษฐศาสตร์ การคลัง หรือนิติศาสตร์ และมีประสบการณ์ในการบริหารองค์กรขนาดใหญ่ตามกรณีใดกรณีหนึ่ง ดังนี้
1. กรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ จะต้องเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีรายได้ไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาทต่อปี โดยมีเอกสารรับรองการดำรงตำแหน่ง งบการเงิน รายงานประจำปี และแผนผังแสดงตำแหน่งงานของปีที่ดำรงตำแหน่งมาแสดงด้วย
2. กรณีที่เป็นหรือเคยเป็นข้าราชการ จะต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองอธิบดี หรือรองหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่ารองอธิบดี
3. กรณีที่เป็นหรือเคยเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ จะต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับรองผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจนั้น และต้องเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีรายได้ไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาทต่อปี โดยมีเอกสารรับรองการดำรงตำแหน่ง งบการเงิน รายงานประจำปี และแผนผังแสดงตำแหน่งงานของปีที่ดำรงตำแหน่งมาแสดงด้วย
4. กรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารขององค์กรในกำกับของรัฐ จะต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กร ซึ่งต้องเป็นองค์กรที่มีรายได้ไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาทต่อปี โดยมีเอกสารรับรองการดำรงตำแหน่ง งบการเงิน รายงานประจำปี และแผนผังแสดงตำแหน่งงานของปีที่ดำรงตำแหน่งมาแสดงด้วย
5. กรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารของภาคเอกชน จะต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กร ซึ่งต้องเป็นองค์กรเดียวที่มีรายได้ไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาทต่อปี โดยมีเอกสารรับรอง การดำรงตำแหน่ง งบการเงิน รายงานประจำปี และแผนผังแสดงตำแหน่งงานของปีที่ดำรงตำแหน่งมาแสดงด้วย
ทั้งนี้ นายสุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์ ผู้ว่าฯ กทพ.ได้ลาออกเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2563 ต่อมาคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ.ได้มีมติแต่งตั้ง นายวิชาญ เอกรินทรากุล รองผู้ว่าฯ กทพ. ฝ่ายกลยุทธ์และแผนงาน ทำหน้าที่รักษาการผู้ว่าฯ กทพ. และต่อมานายวิชาญได้ขอลาออก บอร์ด กทพ.จึงมีมติแต่งตั้งนายดำเกิง ปานขำ รองผู้ว่าการฝ่ายปฏิบัติการ กทพ. ทำหน้าที่รักษาการผู้ว่าฯ กทพ.คนใหม่ ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา