xs
xsm
sm
md
lg

ชนสนั่น! รถไฟสินค้า-โดยสารที่ปากท่อ “ศักดิ์สยาม” สั่งเร่งดูแลผู้บาดเจ็บ และตกค้าง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รถไฟสินค้าคอนเทนเนอร์ชนกับขบวนรถด่วนพิเศษ ตกรางที่สถานีปากท่อ กีดขวางการเดินรถสายใต้ ผู้โดยสารบาดเจ็บ 28 ราย “ศักดิ์สยาม” สั่งเร่งช่วยเหลือเต็มที่

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 18.40 น. วันที่ 24 ก.พ. 63 เกิดเหตุรถไฟขบวนรถสินค้าคอนเทนเนอร์ที่ 722 ชนกับรถไฟขบวนรถด่วนพิเศษที่ 37 กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก ที่จอดอยู่ในทางหลีกที่สถานีปากท่อ จังหวัดราชบุรี ทำให้รถจักรของขบวนรถคอนเทนเนอร์และตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ตกราง กีดขวางการเดินรถสายใต้ มีผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจำนวน 28 ราย กู้ภัยเร่งนำส่งโรงพยาบาลต่างๆ บริเวณใกล้เคียง ทั้งนี้ ได้สั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เร่งช่วยเหลือและเร่งกู้ขบวนรถโดยเร็ว

มีผู้บาดเจ็บ เป็นผู้โดยสารจำนวน 28 คน ทั้งหมดบาดเจ็บเล็กน้อย

พนักงาน ร.ฟ.ท.บาดเจ็บ 4 คน สาหัส 2 คน คนที่อาการหนักที่สุดส่งตรงไปยังโรงพยาบาลที่ จ.เพชรบุรี

ร.ฟ.ท.จะรับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล โดยออกหนังสือรับรองให้กับทางโรงพยาบาลเพื่อเรียกเก็บเงินจาก ร.ฟ.ท.

กรณีผู้บาดเจ็บต้องไปรับการรักษาพยาบาลต่อเนื่องในพื้นที่อื่น ร.ฟ.ท.รับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลต่อเนื่อง

กรณีผู้บาดเจ็บต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา สามารถเลือกเดินทางโดยรถไฟ หรือพาหนะอื่น ร.ฟ.ท.รับผิดชอบค่าใช้จ่ายดังกล่าว

กรณีทรัพย์สินเสียหาย จะมีคณะกรรมการพิจารณาเยียวยาค่าเสียหาย

มีผู้โดยสารติดค้างขบวนที่ 37 กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก จำนวน 258 คน เบื้องต้นจัดให้พักรอที่สถานีตำรวจ และจัดอาหารเลี้ยง มีทหารช่วยดูแล และขนส่งจังหวัดกำลังช่วยดูแลหารถ พร้อมส่งในจังหวัดใกล้เคียง

ส่วนคนที่ต้องการเดินทางด้วยรถไฟ จะต้องนั่งรถไฟขบวนที่ 40 (สุราษฎร์ธานี-กรุงเทพฯ) กลับหัวลำโพงก่อนในคืนนี้ (24 ก.พ.) โดย ร.ฟ.ท.จะหาตู้รถไฟให้นอนพัก เพื่อเดินทางไปใต้ในวันรุ่งขึ้น เมื่อเส้นทางรถไฟเปิดใช้บริการได้

ปรับเดินทางสายใต้ชั่วคราว

ร.ฟ.ท.ได้ทำการปรับเปลี่ยนการเดินรถในเส้นทางสายใต้ โดยขบวนรถด่วนพิเศษที่ 40 (สุราษฎร์ธานี-กรุงเทพฯ) ขนถ่ายผู้โดยสารที่สถานีเพชรบุรี

ขบวนรถที่มีต้นทางจากสถานีกรุงเทพฯ ในช่วงเย็น (24 ก.พ. 63) ให้เดินกลับเข้าสถานีกรุงเทพฯ ได้แก่ ขบวนรถด่วนที่ 37 (กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก), ขบวนรถเร็วที่ 169 (กรุงเทพฯ-ยะลา), ขบวนรถด่วนที่ 83 (กรุงเทพฯ-ตรัง), ขบวนรถเร็วที่ 173 (กรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช) และขบวนรถเร็วที่ 167 (กรุงเทพฯนตัง) พร้อมงดเดินรถด่วนที่ 85 กรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช, ขบวนรถด่วนที่ 39 (กรุงเทพฯสุราษฎร์ธานี) และขบวนรถด่วนที่ 41 (กรุงเทพฯ-ยะลา)

สำหรับขบวนรถเที่ยวล่อง ปลายทางสถานีกรุงเทพฯ มีการเดินรถตามปกติ แต่อาจมีความล่าช้าบ้าง เนื่องจากรอการเปิดทาง สำหรับผู้โดยสารที่ไม่ประสงค์จะเดินทางในเส้นทางสายใต้ สามารถติดต่อขอคืนตั๋วโดยสารได้เต็มจำนวนที่สถานีรถไฟ

ขณะนี้ ร.ฟ.ท.ได้สั่งการให้จัดขบวนรถพิเศษช่วยอันตรายไปทำการยกขบวนรถที่ตกรางในที่เกิดเหตุแล้ว ส่วนสาเหตุและความคืบหน้าจะแจ้งต่อไป










กำลังโหลดความคิดเห็น