“พาณิชย์” เข้ม! ห้ามส่งออก “หน้ากากอนามัย” ทุกชิ้น ป้องกันในประเทศขาดแคลน ยอมให้นำติดตัวออกไปได้ไม่เกิน 30 ชิ้น ส่วนส่งออกทั่วไปให้ขอที่คณะอนุกรรมการเป็นกรณี เผยปัจจุบันมีผู้ขอส่งออกรวม 32 ล้านชิ้น ให้ออกแค่หน้ากากชนิดพิเศษรายเดียว เดินหน้ากระจายผ่าน 7-11 บิ๊กซี โลตัส วิลล่ามาร์เก็ต คาดเกิน 2 หมื่นสาขา จำกัดซื้อคนละ 4 ชิ้นๆ ละ 2.50 บาท ด้านสต๊อกล่าสุดแจ้งมารวม 28 ล้านชิ้น เพิ่มจาก 6 ก.พ.63 ที่มีแค่ 2.17 แสนชิ้น
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) เรื่องการควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งหน้ากากอนามัยเพิ่มเติม โดยห้ามส่งออกหน้ากากอนามัยทุกชิ้นเพื่อป้องกันในประเทศขาดแคลน จากเดิมกำหนดให้การส่งออกตั้งแต่ 500 ชิ้นขึ้นไปต้องขออนุญาตส่งออกต่อกรมการค้าภายในก่อน เพราะที่ผ่านมามีบางรายใช้วิธีการส่งออกไม่เกิน 500 ชิ้น แต่ส่งออกวันละเป็นสิบเที่ยว จึงต้องห้ามทั้งหมด โดยยอมผ่อนผันให้ใน 2 กรณี คือ นำออกไปใช้ส่วนตัวได้ไม่เกิน 30 ชิ้น หรือหากกรณีเป็นผู้ป่วยต้องมีใบรับรองแพทย์ นำออกได้ไม่เกิน 50 ชิ้น
ส่วนการส่งออกทั่วไป ให้ขออนุญาตจากคณะอนุกรรมการที่มีกรรมการจากกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันพิจารณา เพื่อพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป เช่น การส่งออกไปให้สถานทูต การช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้าน การส่งออกหน้ากากอนามัยชนิดพิเศษที่ไม่ใช้ในไทย หรือไม่ได้ส่งออกเพื่อการค้าหรือหากำไร เป็นต้น
“ตั้งแต่จำกัดส่งออกไม่เกิน 500 ชิ้น มีคนมาขออนุญาตส่งออกรวมถึงตอนนี้ 32 ล้านชิ้น โดยกรมฯ ได้ระงับการส่งออกเกือบ 100% เพราะหากให้ส่งออก ในประเทศก็ไม่มีใช้ โดยรายที่อนุญาตให้ส่งออก คือ หน้ากากอนามัยที่ไม่ใช้ในไทย เป็นหน้ากากพลาสติก และมีลิขสิทธิ์ในการผลิต จำนวน 2.1 ล้านชิ้น แต่มีเงื่อนไขให้ผู้ผลิตรายนี้ ต้องผลิตหน้ากากแบบที่ใช้ป้องกันโรคจัดส่งให้ศูนย์บริหารจัดการหน้ากากอนามัย โดยจะผลิตในเดือน ก.พ. 2563 จำนวน 2.9 ล้านชิ้น เดือน มี.ค. 2563 จำนวน 5.4 ล้านชิ้น และในจำนวนที่ขออนุญาตส่งออกมีประมาณ 7-8 ราย ได้มาขอถอนการขออนุญาตส่งออกประมาณ 11 ล้านชิ้น ซึ่งพอสอบถามเพื่อขอแบ่งปันเพื่อนำกระจายในประเทศ ได้คำตอบว่าเป็นการขอตัวเลขไว้ก่อน ไม่ได้มีสินค้าในมืออยู่จริง” นายวิชัยกล่าว
นายวิชัยกล่าวว่า ทางด้านการกระจายหน้ากากอนามัย กรมฯ ได้เปิดจำหน่ายที่กระทรวงพาณิชย์ กระจายผ่านร้านธงฟ้าประมาณ 900 แห่งทั่วประเทศ กระจายให้องค์การเภสัชกรรม สมาคมร้านขายยา การบินไทย ซึ่งเป็นผู้ที่จำเป็นต้องใช้ และล่าสุดได้เพิ่มร้านสะดวกซื้อ 7-11 และบิ๊กซี กำลังจะเพิ่มไปเทสโก้ โลตัส วิลล่า มาร์เก็ต รวมๆ แล้วน่าจะมี 2 หมื่นสาขาทั่วประเทศ แต่จะจำกัดการซื้อไม่เกินคนละ 4 ชิ้นๆ ละ 2.50 บาท หรือจ่ายแค่ 10 บาท
“ตอนนี้สินค้ามีมากขึ้นแล้ว มีกำลังการผลิตวันละ 1.3 ล้านชิ้น และยังได้ห้ามการส่งออก ประกอบกับการเช็กสต๊อกล่าสุด มีรายงานเข้ามา ณ วันที่ 20 ก.พ. 2563 ว่ามีสต๊อกจำนวน 28 ล้านชิ้น อยู่ในมือผู้ผลิต 20 ล้านชิ้น และที่เหลืออยู่ในมือผู้ค้า เพิ่มขึ้นจากวันที่ 6 ก.พ. 2563 ที่มีการแจ้งสต็อกในมือแค่ 2.17 แสนชิ้น เป็นตัวเลขที่ผมจำได้ขึ้นใจ เพราะตอนนั้น มีการคุยกันว่าสต๊อกมีสูงถึง 200 ล้านชิ้น แสดงว่าก่อนที่จะห้ามส่งออก มีคนแอบส่งออกไปเยอะ อย่างปี 2562 ทั้งปี ส่งออกเพิ่มขึ้น 200% เฉพาะ ม.ค. 2563 เดือนเดียว เพิ่มขึ้น 300%” นายวิชัยกล่าว
นอกจากนี้ กรมฯ ได้ตรวจสอบการจำหน่ายหน้ากากอนามัยแพงเกินจริงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจับกุมผู้กระทำความผิดได้แล้ว 30 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ค้าออนไลน์ 3 ราย ตัวอย่างโทษ เช่น ซื้อมา 29 บาท ขาย 129 บาท หรือซื้อมา 5 บาท ขาย 15-20 บาท ซึ่งได้จับกุมตัวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี และส่งอัยการฟ้องศาลแล้ว มีโทษสูงสุดจำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งกรมฯ อยากจะฝากถึงผู้ครอบครองหน้ากากอนามัย อย่าค้ากำไรเกินควรและฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน ควรเอากำไรที่เหมาะสม เพราะถ้ากรมฯ ได้รับการร้องเรียนก็จะเข้าไปดำเนินการตามกฎหมายทุกกรณี