ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการดำเนินงานพัฒนาพื้นที่คุ้งบางกะเจ้าสู่ความยั่งยืน ให้เกียรติเป็นประธานงานแถลงข่าว “1 ปี แห่งการขับเคลื่อนงาน และก้าวต่อไปของการสานพลังโครงการ OUR Khung BangKachao” โดยมี นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ และนายจิระศักดิ์ ชูความดี รองอธิบดีกรมป่าไม้ ร่วมงาน ณ สวนเฉลิมพระเกียรติฯ 80 พรรษา ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
ภายในงานมีการจัดเสวนาโชว์ไฮไลต์การดำเนินงานที่ผ่านมา 1 ปี พร้อมเล่าถึงแผนการพัฒนาคุ้งบางกะเจ้าในปี 2563 โดยมี นางสาวดวงพร เที่ยงวัฒนธรรม ประธานคณะทำงานด้านการพัฒนาพื้นที่สีเขียว นางสุพัตรา จิราธิวัฒน์ ประธานคณะทำงานด้านการส่งเสริมอาชีพ นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ประธานคณะทำงานด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน นายกมลนัย ชัยเฉนียน ประธานคณะทำงานด้านการพัฒนาเยาวชน การศึกษา และวัฒนธรรม นายณัฐนันท์ ศิริรักษ์ ประธานคณะทำงานด้านการจัดการขยะ พร้อมด้วยนายสมาน เสถียรบุตร และนางอาภรณ์ พานทอง ผู้แทนคุ้งบางกะเจ้า ร่วมเสวนา
ดร.สุเมธกล่าวว่า “1 ปีที่ผ่านมาของโครงการ OUR Khung BangKachao มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยการทำงานแบบสานพลังร่วมกันระหว่างองค์กรชั้นนำ และผู้เชี่ยวชาญทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมขับเคลื่อนงานพัฒนาทั้ง 6 ด้าน รวมถึงมีคณะทำงานด้านอำนวยการและสื่อสารที่เชื่อมประสานทุกคณะ บูรณาการทำงานระหว่างกัน เพื่อนำไปสู่เป้าหมายร่วม (Shared Goal) ในการมุ่งสู่การยกระดับและพัฒนาพื้นที่ ”คุ้งบางกะเจ้า” ให้เกิดความเจริญเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืนในทุกมิติ หรือ Green Growth มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตคนในชุมชนคุ้งบางกะเจ้า และสิ่งแวดล้อมให้เติบโตเพิ่มขึ้นภายใน 5 ปี (ปี 2562-2566)
ทุกวันนี้ จากความเจริญทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจที่ขาดการดูแลสิ่งแวดล้อม ทำให้เราเห็นผลกระทบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมรอบตัวยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย เช่น การเกิดพิษทางอากาศ ฝุ่นละออง PM 2.5 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่างๆ เป็นต้น ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนต้องให้ความสำคัญยิ่งในการช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างเร่งด่วน
สำหรับ 1 ปี ผ่านมา นอกจากคณะทำงานฯ ได้เพิ่มพื้นที่สีเขียวที่คุ้งบางกะเจ้าในระยะแรกบนพื้นที่ราชพัสดุตามเป้าหมายที่วางไว้แล้ว มีพื้นที่นำร่องการจัดการน้ำในร่องสวน มีศูนย์เรียนรู้การจัดการขยะ ยังมีการสร้างความเจริญเติบโตเพื่อผลทางด้านเศรษฐกิจและสังคมแก่ชาวคุ้งบางกะเจ้าอีกด้วย เช่น เกษตรสีเขียว การพัฒนาตลาดเขียว การท่องเที่ยวชุมชน รวมทั้งมีการพัฒนากลุ่มเยาวชนให้เรียนรู้และเข้าใจงานด้านต่างๆ ของโครงการฯ ซึ่งผลการทำงานที่ผ่านมานี้ นับเป็นก้าวแรกของการพัฒนาที่มีความคืบหน้าต่อเนื่อง สำหรับในปี 2563 โครงการฯ ยังคงเดินหน้าการทำงานให้สำเร็จตามแผนงานและเป้าหมายที่วางไว้ เพื่อรักษาให้พื้นที่ “คุ้งบางกะเจ้า” คงความเป็นอัตลักษณ์ที่ทั้งคนไทยและชาวโลกชื่นชม รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่เป็นสมบัติและความภาคภูมิใจของชุมชนบางกะเจ้า ที่คนไทยและชาวต่างประเทศอยากมาเยี่ยมเยือนตลอดไป
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในปี 2562 มีการพัฒนาทั้ง 6 ด้าน เช่น คณะทำงานด้านการพัฒนาพื้นที่สีเขียว โดยมี บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เป็นประธานฯ ร่วมมือกับคณะทำงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงองค์กรที่ร่วมสนับสนุน ได้เพิ่มพื้นที่สีเขียวคุ้งบางกะเจ้า บนพื้นที่ราชพัสดุ ระยะแรกแล้ว 107 แปลง 400 ไร่ ปลูกไม้ป่า ไม้ผล และไม้เศรษฐกิจระยะสั้น
คณะทำงานด้านการพัฒนาเยาวชน การศึกษา และวัฒนธรรม โดยมี บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เป็นประธานฯ มุ่งเน้นการพัฒนาเยาวชนให้มีทักษะชีวิต ทักษะอาชีพ และเป็นคนดีในสังคม รวมถึงสร้างผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ ด้วยการพัฒนาศักยภาพเยาวชนทั้ง 5 ด้าน ผ่านกิจกรรม อาทิ โครงการ “ตะโกน โยน ยื่น” เด็กไทยไม่จมน้ำ โครงการเสริมทักษะการออม โครงการไฟไม่ไหม้ โครงการปราชญ์ชุมชนเพื่อการอนุรักษ์วัฒนธรรม โครงการสร้างผลิตภัณฑ์ประจำโรงเรียน โครงการ Chang Mobile Football Clinic โครงการโรงเรียนวิถีพุทธ โครงการโรงเรียนคุณธรรม โครงการส่งเสริมหลักสูตรภาษาอังกฤษ โครงการส่งเสริมหลักสูตร STEM โครงการยกระดับทางการเรียน O-NET เป็นต้น
คณะทำงานการจัดการขยะ โดยมีบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) เป็นประธานฯ ได้พัฒนาจุดรวบรวมขยะ ณ วัดจากแดง ซึ่งสามารถรวบรวมจัดเก็บขยะ Recycle ได้มากกว่า 54 ตัน สามารถลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์