ทช.วางแผนรองรับนโยบายเลนขวาไม่เกิน 120 กม./ชม. นำร่องถนนราชพฤกษ์ เตรียมติดแบริเออร์เกาะกลางตลอดแนวยาว 50 กม.เพิ่มความปลอดภัย เผย 2 ก.พ.รู้ผลทดสอบแบริเออร์หุ้มยางเป็นทางการ
นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมรองรับการปรับเพิ่มความเร็วสูงสุด 120 กม./ชม. ว่า ทช.ได้ตรวจสอบความพร้อมของถนนที่เหมาะสม คือถนนราชพฤกษ์ ซึ่งกายภาพมีความเหมาะสม เนื่องจากมีการควบคุมทางเข้าออก มีทางคู่ขนานและมีเกาะกลางถนน ไม่มีแยกไฟแดง มีทางกลับรถใต้สะพาน ตั้งแต่ช่วงเชื่อมต่อถนนสาทร-ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 345 ระยะทางประมาณ 50 กม. ที่ในช่วงนอกเวลาเร่งด่วนรถสามารถใช้ความเร็วได้ในช่องทางด้านขวาสุดไม่เกิน 120 กม./ชม.
ก่อนการประกาศใช้ ทช.จะต้องมีการติดตั้งแบริเออร์เพิ่มบริเวณเกาะกลางตลอดแนวถนนราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นการปรับปรุงเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ทั้งนี้ เนื่องจากเกาะกลางนั้น กรณีรถวิ่งด้วยความเร็วเกิน 60 กม./ชม.แล้วเกิดอุบัติเหตุ รถมีโอกาสพุ่งข้ามไปอีกฝั่งได้ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ ดังนั้นจะมีการติดตั้งแบริเออร์ ความสูง 90 ซม.ตลอดแนว ตามหลักความปลอดภัยของถนน
และจากที่ ทช.ได้มีการทดสอบแบริเออร์แบบเรียบ (Single-Slope Barrier) ซึ่งปรับเปลี่ยนรูปแบบจากคอนกรีตแบริเออร์ (New Jersey Type) แบบเดิม ด้วยความเร็ว 115 กม./ชม. พบว่า Single-Slope Barrier จะสามารถรับแรงปะทะและไม่ทำให้รถที่ชนปะทะแบริเออร์ลอยข้ามไปฝั่งตรงข้าม ซึ่งมีความปลอดภัยกว่าแบบ New Jersey Type ที่รถชนแล้วจะลอยข้ามได้ง่าย
ขณะนี้ได้นำ Single-Slope Barrier และหุ้มด้วยยางพารา (rubber fender barriers) ลงเรือไปประเทศเกาหลีเพื่อทำการทดสอบในวันที่ 20 ก.พ. นี้ หากได้ผล ในอนาคตถนนที่มีการก่อสร้างใหม่จะใช้แบริเออร์แบบ Single-Slope ที่หุ้มด้วยยางพาราทั้งหมด ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานของ AASHTO ต้นทุนไม่แตกต่างจากแบริเออร์แบบเดิม แต่ปลอดภัยมากกว่า
นอกจากนี้ ทช.จะมีการใช้ยางพารากับหลักนำโค้ง หลักกิโล ซึ่งจะช่วยลดอันตรายเมื่อมีการเกิดอุบัติเหตุได้มากกว่าหลักนำโค้งปูนในปัจจุบัน โดยในปี 2563 มีแผนจะทดแทนจำนวน 1 แสนต้น วงเงินประมาณ 200 กว่าล้านบาท โดยจะเป็นค่าน้ำยางดิบประมาณ 70-80% ถึงมือเกษตรกร ซึ่งถนน ทช.มีหลักนำทางและหลักกิโล ทั้งหมด 7 แสนต้น ซึ่งจะทยอยเปลี่ยนจนครบ ทั้งนี้ ทช.จะทำราคากลาง ดังนั้น ต้องทำเรื่องเสนอกรมบัญชีกลางขออนุมัติในการจัดซื้อตรงจากสหกรณ์ทั่วประเทศ เนื่องจากเป็นการซื้อเฉพาะเจาะจง ต้องออกเป็นพระราชกำหนด
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคมอยู่ในขั้นตอนเตรียมประกาศกำหนดอัตราความเร็วถนน 4 ช่องจราจร ให้ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 120 กม./ชม. ซึ่งนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำ Action Plan เพื่อไปสู่การปฏิบัติ และต้องมีการปรับปรุงกฎหมายกำหนดอัตราความเร็วสูงสุด นำเสนอคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) พิจารณาเห็นชอบเพื่อประกาศและมีการกำหนดอัตราความเร็วสูงสุดในแต่ละช่องจราจร, การบังคับใช้กฎหมาย, การปรับปรุงจุดกลับรถ, การกำหนดเขตโรงเรียน เขตอุตสาหกรรม ซึ่งต้องใช้อัตราความเร็วต่ำ