“กระทรวงพลังงาน” เร่งทบทวนแผน PDP 2018 คาดเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์มากขึ้น หลังเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงและต้นทุนผลิตไฟต่ำลง ด้านธนาคารยูโอบีจับมือพันธมิตรเอกชนทำโครงการยู-โซลาร์ ให้สินเชื่อกับแก่ผู้พัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และประชาชนทั่วไป
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงฯให้การส่งเสริมพลังงานทดแทนในประเทศเพื่อให้ไทยเป็นต้นแบบพลังงานทดแทนในภูมิภาคอาเซียน โดยมีการใช้ของเหลือทิ้งจากการเกษตร พืชพลังงานมาผลิตกระแสไฟฟ้าในรูปโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ และโรงไฟฟ้าไบโอแมส ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงทิตย์ และพลังงานลม ทำให้ไทยเป็นประเทศที่มีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนสูงเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน
ปัจจุบันต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์นับวันจะต่ำลงเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงชนิดอื่นๆ โดยปีนี้มีการทบทวนแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าระยะยาว (PDP2018) โดยจะนำเรื่องเทคโนโลยีและต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ที่ต่ำลงมาร่วมพิจารณาด้วย จึงมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานโซลาร์เพิ่มมากขึ้นในแผน PDP ใหม่ ขณะเดียวกันก็มีแผนปรับแก้กฎระเบียบการซื้อขายไฟฟ้า โดยอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างเอกชนด้วยกันเองที่ไม่ใช่การไฟฟ้า (Peer-to-Peer) ในขณะเดียวกันได้มอบหมายให้ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) แก้ไขอุปสรรคให้สอดคล้อง เปิดให้ผู้ผลิตไฟฟ้าโซลาร์ฯ สามารถซื้อขายไฟฟ้าระหว่างกันในพื้นที่เฉพาะ หรือ Sandbox ได้
จากเดิมโครงสร้างกิจการไฟฟ้าแบบ Enhanced Single-Buyer Model (ESB) ที่ให้ กฟผ.เป็นผู้รับซื้อไฟฟ้ารายเดียวเพื่อให้รายอื่นเข้ามาซื้อขายระหว่างกันได้ และยังเป็นพื้นฐานเชื่อมโยงไปถึงการซื้อขายไฟฟ้าในอาเซียน
วันนี้ (5 ก.พ.) ธนาคารยูโอบี (ไทย) เปิดตัวโครงการยู-โซลาร์ แพลตฟอร์มที่สนับสนุนระบบนิเวศอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ครบวงจรแห่งแรกในเอเชีย เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาและส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนในประเทศ โดยธนาคารยูโอบีได้จับมือกับพันธมิตร อาทิ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) บางกอกโซลาร์ เพาเวอร์ และเค.จี.โซล่า เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจและประชาชนทั่วไปที่ต้องการปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ทั้งในเรื่องการติดตั้งระบบ การจัดหาผู้รับเหมาและแพคเกจบริการหลังการขาย
โดยธนาคารยูโอบีเสนอโซลูชันทางการเงินในการให้สินเชื่อแก่ผู้พัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ได้แก่ สินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อมสำหรับพัฒนาโครงการ และสินเชื่อเพื่อการปรับโครงสร้างพอร์ตโฟลิโอ ส่วนผู้รับเหมาออกแบบติดตั้ง ธนาคารนำเสนอโซลูชั่นด้านการจัดการทางการเงิน เพื่อช่วยในการปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานไฟฟ้าที่มาจากพลังงานสะอาด โดยโครงการยู-โซลาร์ได้มีการเปิดตัวแล้วในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์
นายตัน ชุน ฮิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี (ไทย) กล่าวว่า เราเชื่อว่าโครงการยู-โซลาร์จะสามารถเข้าไปช่วยสนับสนุนความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมพลังงานโซลาร์ในประเทศ ด้วยการกระตุ้นการพัมนาและการปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในภาคธุรกิจและภาคประชาชน เชื่อว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างอนาคตสีเขียวให้กับประเทศไทยโดยธนาคารยูโอบีจะให้สินเชื่อค่าใช้จ่ายอุปกรณ์เพื่อการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์และการบำรุงรักษาสำหรับผู้ประกอบธุรกิจในวงเงินสูงสุดถึง 45 ล้านบาท และประชาชนทั่วไปมอบสิทธิประโยชน์ในการผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิตในอัตราดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 25 เดือน