xs
xsm
sm
md
lg

SCN อัดงบลงทุนปีนี้ 1.2 พันล้าน สิ้นปี 63 ขยายโซลาร์รูฟท็อป 30MW

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สแกน อินเตอร์ ทุ่มงบลงทุนปีนี้ 1.2 พันล้านบาท ลุยธุรกิจพลังงานทดแทนทั้งโรงไฟฟ้าโซลาร์มินบู เฟส 2 และโซลาร์รูฟท็อป ตั้งเป้าปีนี้มีรายได้จากโซลาร์รูฟท็อป 120 ล้านบาทจากกำลังผลิตติดตั้งเพิ่มขึ้นเป็น 30 เมกะวัตต์

นายฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนประมาณ 1.2 พันล้านบาท เน้นลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทน โดยจะใช้ในการเพิ่มทุนในบริษัท พลังงานเพื่อโลกสีเขียว (ประเทศไทย) จำกัด (GEPT) เพื่อลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบู ระยะที่ 2 ที่ประเทศเมียนมา ขณะนี้โครงการดังกล่าวเตรียมประมูลหาผู้รับเหมาก่อสร้างและคาดว่าไตรมาส 2/63 จะเริ่มได้ รวมทั้งขยายการลงทุนในโซลาร์รูฟท็อปของบริษัทย่อยด้วย

ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบูที่พม่า มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 220 เมกะวัตต์ (MW) โดยเฟสแรกจำนวน 50 เมกะวัตต์ ได้จ่ายไฟเชิงพาณิชย์ (COD) เมื่อ ก.ย.ปี 2562 ทำให้ปีนี้บริษัทรับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้าโซลาร์มินบูเต็มปีตามสัดส่วนจากการเข้าถือหุ้น 40% ส่งผลให้ปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีกำไรที่ดีขึ้นกว่าปี 2562

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังใช้เงินลงทุนในธุรกิจยานยนต์ ธุรกิจก๊าซธรรมชาติสำหรับภาคอุตสาหกรรม (iCNG ) ธุรกิจยานยนต์และธุรกิจลอจิสติกส์ด้วย

นายฤทธีกล่าวต่อไปว่า ในสิ้นปีนี้บริษัท สแกน แอดวานซ์ พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย SCN คาดว่าจะมีการสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภาคเอกชน (Private PPA) รวม 30 เมกะวัตต์ และคิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวม 900 ล้านบาท เนื่องจากอยู่ระหว่างการเจรจาและได้รับความสนใจจากโรงงานอุตสาหกรรมหลายราย ทำให้ปีนี้มีรายได้จากโซลาร์รูฟท็อปรวม 120 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้วางแผนธุรกิจในระยะเวลา 5 ปี ตั้งเป้าจะมีกำลังการติดตั้งระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าที่ได้มาจากแสงอาทิตย์รวม 110 เมกะวัตต์ มีมูลค่าการลงทุนอยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท และจะสร้างรายได้กว่า 500 ล้านบาท

ส่วนธุรกิจยานยนต์ภายใต้บริษัทลูก คือ บริษัท แพนเทอรา มอเตอร์ส จำกัด ประกอบธุรกิจยานยนต์แบบครบวงจรที่ครอบคลุมทั้งในส่วนของการออกแบบ ผลิต ประกอบ ติดตั้ง ขาย ให้เช่า และซ่อมบำรุงรถโดยสารขนาดย่อมถึงขนาดใหญ่ อาจจะมีความล่าช้ากว่าที่คาดไว้ ราว 1 ไตรมาส เนื่องจากไม่สามารถเดินทางไปยังประเทศจีนเพื่อไปดูรถมินิบัสโมเดลใหม่ที่จะนำเข้ามาประกอบในไทยได้ เพราะเกิดสถานการณ์ไวรัสโคโรนาที่แพร่ระบาดอยู่ในปัจจุบัน

วันนี้ (30 ม.ค.) บริษัท สแกน แอดวานซ์ พาวเวอร์ จำกัด ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภาคเอกชน (Private PPA) กับผู้ประกอบการ 7 ราย เพื่อโซลาร์รูฟท็อปรวม 6 เมกะวัตต์ คาดว่าจะจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 2/63 รวมกับการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปให้กลุ่มผู้ประกอบการก่อนหน้านี้ รวมเป็นกำลังการผลิตติดตั้ง 10 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ร่วมลงนามกับผู้ประกอบการจำนวน 7 ราย ประกอบไปด้วย 1. บริษัท ไทยเปเปอร์มิลล์ จำกัด 2. บริษัท สมบูรณ์ แพ็คเกจจิ้ง (888) จำกัด 3. บริษัท กาญจนาเฟรชพอร์ค จำกัด 4. บริษัท อินโนเวชั่นฟุ้ตแวร์ จำกัด 5. บริษัท ห้องเย็นท่าข้าม จำกัด 6. บริษัท โบลท แอนด์ นัท อินดัสตรี้ จำกัด 7. บริษัท สหชัยซีฟู้ด จำกัด โดยมีกำลังการผลิตรวม 6 MW มูลค่าการลงทุนประมาณ 180 ล้านบาท โดยจะเริ่มดำเนินการติดตั้งให้เสร็จสิ้นและจ่ายไฟภายในไตรมาสที่ 2 ปี 2563


กำลังโหลดความคิดเห็น