ผู้จัดการรายวัน360- ตลาดหนังไทยรายได้เฉลี่ยต่อเรื่องถอยหลังลดเหลือ 15ล้านบาท ปี62 เหลือ 400 กว่าล้านบาท เหตุดิจิทัลดิสรัปชั่นรุมเร้า "จีดีเอช" ปลื้ม 3เรื่อง ติดท็อป3ทำรายได้สูงสุด มองหาแพลตฟอร์มใหม่เพิ่ม
นางสาวจินา โอสถศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด เปิดเผยว่า ในปี2562ที่ผ่านมา ภาพรวมตลาดหนังไทยออกฉายอยู่ราว 40เรื่อง ทำรายได้รวมที่ประมาณ 711 ล้านบาท ติดลบ14% เฉลี่ยต่อเรื่องทำรายได้เพียง 15 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 18-19 ล้านบาท ส่วนสำคัญมาจากคอนเท้นต์ไทยมีมากมายที่ให้ดูฟรีในหลายช่องทาง บวกกับปัญหาฝุ่นPM2.5 ปัญหารถติด รวมถึงสภาพเศรษฐกิจไม่ดี มีส่วนทำให้คนอยู่บ้านมากขึ้น การดูหนังนอกบ้านจึงลดลง
ที่สำคัญหนังไทยไม่มีหน้าหนังที่คนอยากดู เมื่อเทียบกับหนังต่างประเทศที่คนดูรอคอย ขณะที่ภาพรวมตลาดหนังอยู่ที่ 4,700 ล้านบาท โตขึ้น 4% มาจากหนังต่าฃประเทศเป็นหลัก
ในส่วนของจีดีเอชถือว่าโชคดี กับภาพยนตร์ 3เรื่องที่เข้าฉายในปี2562 โดยสามารถทำรายได้สูงสุด 3อันดับแรกของกลุ่มหนังไทยทั้งหมด คือ 1. ตุ๊ดซี่ 141 ล้านบาท 2. เฟรนด์โซน 139 ล้านบาท และ3. ฮาวทูทิ้ง 57 ล้านบาท ทำให้ในปีที่ผ่านมาจีดีเอช มีผลประกอบการ 471.29 ล้านบาท โตขึ้น 12% โดยตลาดต่างประเทศรายได้ปี62 โตขึ้น90% จากภาพยนตร์เรื่อง เฟรนด์โซน ที่เป็นที่ต้องการในต่างประเทศ โดยเฉพาะในจีน
อย่างไรก็ตามในปีนี้ จีดีเอชตั้งเป้าทำรายได้ไว้ไม่ต่ำกว่าปีก่อน ซึ่งตลอด10ปีที่ผ่านมา เติบโตขึ้นทุกปี ต่างกันที่กำไร ที่ขึ้นอยู่กับจำนวนภาพยนตร์ที่เข้าฉายที่ไม่เท่ากัน โดยในปีนี้จีดีเอชมี 3โปรเจกต์ที่ทำออกมา คือ 1ซีรีส์ และ 2ภาพยนตร์ ประเดิมด้วย 1.ฉลาดเกมส์โกงเดอะซีรีส์ ออกอากาศเดือนก.คนี้ ทางช่องวัน 31 พร้อมออกคู่ขนานกับประเทศจีน 2.ภาพยนตร์แนว thriller horror ในช่วงเดือนส.ค. และ3.ภาพยนตร์โรแมนติก คอมเมอดี้ ในเดือนธ.ค. และในปีหน้าเตรียมไว้ 4โปรเจกต์ โดยจะมีเรื่องของการร่วมทุนกับต่างชาติด้วย ขณะการลงทุนทำหนังแต่ละเรื่องอยู่ที่20-30 ล้านบาท และโปรโมทอีก 20ล้านบาท
นางสาวจีน่า กล่าวต่อว่า ปี2563นี้จีดีเอช ได้เปิดตัวบริษัทใหม่ คือ บริษัท น้ำดีไม้งาม จำกัด ดูแลในเรื่องการโปรโมตหนังและคอนเท้นต์ให้กับจีดีเอชเป็นหลัก รวมถึงในเครือ อย่าง รัชดาลัยเธียเตอร์ และงานของเบิร์ด -ธงไชย ขณะเดียวกันจีดีเอชต้องการให้คอนเท้นต์เข้าถึงทุกแพลตฟอร์ม ดังนั้นในปีนี้จะขยายเพิ่มขึ้นอีก 1 แอพลิเคชั่น คือ iQiTi จากจีนที่มาเปิดฮับในไทย จากปัจจุบันคอนเท้นท์จีดีเอช สามารถรับชมได้หลายแพลทฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น WETV, Viu, Netflix, Line TV, HOOq และAIS PLAY เป็นต้น
นายทรงยศ สุขมากอนันต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นาดาว บางกอก จำกัด กล่าวว่า นาดาวเป็นหนึ่งในบริษัทของจีดีเอช ที่มีผลประกอบและการตอบรับที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี2562 มีรายได้ 370 ล้านบาท โตขึ้น 52.71% ซึ่งรายได้หลักมาจากดูแลศิลปิน ส่วนโปรดักส์ชั่นโตขึ้น 34% จากซีรีส์ Greatmen Academy และละคร รักฉุดใจนายฉุกเฉิน
จากการเติบโตที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ปีนี้ทางจีดีเอช เปิดโอกาสให้นาดาวได้บริหารงานด้วยตัวเอง โดยตั้งเป้า ได้วางไว้ 3เรื่อง คือ 1.ทำหนัง 2.ทำเพลง 3.ปั้นศิลปินใหม่ ซึ่งในส่วนของการทำหนัง ถือเป็นครั้งของนาดาวที่จะทำหนังที่นำเสนอกับทางจีดีเอช ส่วนทำเพลง ได้เปิดตัวบริษัท นาดาวมิวสิค จำกัด เพื่อเพิ่มความสามารถของศิลปิน และเป็นช่องทางทำงานเพิ่มเติมให้กับศิลปินที่มีความสามารถทางดนตรี
3.การปั้นศิลปินใหม่นั้น จะทำผ่านโครงการ Nadao Academy ค้นหาเด็กฝึกมาเป็นศิลปิน นักแสดงในสังกัด โครงการเวิร์คชอป เขียนบท เพิ่มพันธมิตรทั้งในส่วนทีวี ส่งนักแสดงร่วมงานช่องอื่นๆ อย่าง ช่องวัน, ช่องGMM25 และช่อง3 รวมทั้งเพิ่มพาร์ทเนอร์ OTT แพลทฟอร์ม และแบรนด์ต่างๆ ซึ่งน่าจะมี collaboration project กันมากขึ้น คาดการณ์ว่าปีนี้นาดาวจะมีรายได้อย่างน้อยที่สุดไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา.