“รถไฟไทย-จีน” ถกเงินกู้ซื้อระบบ 5.06 หมื่นล้านใกล้จบ ตกลงชำระเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐ ใช้อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย เม.ย. 62 ถึงวันลงนาม “ศักดิ์สยาม” พร้อมนำคณะเร่งเจรจา กก.ร่วมไทย-จีนใน ม.ค. 63 เคาะวันเซ็นสัญญา 2.3
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. วงเงิน 179,413 ล้านบาท ว่า จากที่คณะทำงานฝ่ายไทยและจีนได้หารืออย่างไม่เป็นทางการในส่วนของสัญญา 2.3 (การวางราง และระบบการเดินรถ ระบบอาณัติสัญญาณ พร้อมขบวนรถ) วงเงิน 50,633.50 ล้านบาท ซึ่งทางจีนได้เสนอใช้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ (USD) ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนเงินกู้นั้นจีนขอใช้ค่าเฉลี่ย โดยคิดตั้งแต่วันที่ยื่นเมื่อเดือน เม.ย. 2562 จนถึงวันลงนามสัญญา ซึ่งประเมินแล้วเป็นอัตราที่มีความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
เบื้องต้นได้รายงานความก้าวหน้าต่อ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบแล้ว แต่เนื่องจากเป็นการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ทั่วไปที่จะใช้อัตราแลกเปลี่ยนวันที่ยื่นซองเป็นหลัก ดังนั้นจะต้องนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบก่อน เนื่องจากเป็นโครงการที่ดำเนินการภายใต้ความร่วมมือรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี)
หลังจาก ครม.เห็นชอบแนวทางการกำหนดอัตราดอกเบี้ยแล้ว จะประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน (Joint Committee หรือ JC) ครั้งที่ 28 เพื่อสรุปร่วมกันในเรื่องสกุลเงิน, อัตราแลกเปลี่ยน, วันลงนามสัญญา 2.3 ในขณะเดียวกัน การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะต้องเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท. และนำร่างสัญญาให้อัยการสูงสุดตรวจสอบ และก่อนลงนามสัญญาจะต้องเสนอ ครม.ขออนุมัติอีกครั้ง
รมว.คมนาคมกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานกับจีนเพื่อนัดประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-จีน ครั้งที่ 28 ซึ่งตามแผนงานจะต้องประชุมที่ประเทศไทย แต่หากจีนไม่สะดวก ไทยพร้อมที่จะไปประชุมที่ประเทศจีน ซึ่งคาดว่าจะประชุมคณะกรรมการร่วมฯไทย-จีนได้เร็วสุดช่วงต้นเดือน ม.ค. 2563
พร้อมกันนี้ ได้ทำเรื่องเสนอนายกรัฐมนตรีขอขยายเวลาตามคำสั่งและอำนาจหัวหน้า คสช.ขอขยายเวลาในการดำเนินงานในสัญญา 2.3 ที่ครบกำหนดในวันที่ 30 ธ.ค. 62 ออกไปด้วย อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมและรัฐบาลพยายามผลักดันการดำเนินงานโครงการรถไฟไทย-จีนให้เป็นไปตามแผน โดยจะเร่งรัดงานโยธา ซึ่งมีทั้งที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และขั้นตอนการประมูลรวมถึงที่ประมูลเสร็จแล้วแต่ยังลงนามสัญญาไม่ได้ เนื่องจากยังติดประเด็น EIA เพิ่มเติม
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการประเมินค่าเฉลี่ยอัตราแลกเปลี่ยนนับตั้งแต่วันที่ยื่นซอง จนถึงวันลงนามสัญญา ซึ่งคาดว่าจะลงนามได้ประมาณเดือน ม.ค.-ก.พ. 2563 นั้น ค่าเฉลี่ยอัตราแลกเปลี่ยนจะอยู่ประมาณ 30.82 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับการก่อสร้างงานโยธามีวงเงิน 120,162.126 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 14 สัญญา อยู่ระหว่างก่อสร้าง 2 สัญญา ได้แก่ ช่วงกลางดง-ปางอโศก มีความก้าวหน้า 47% และช่วงสีคิ้ว-กุดจิก มีความก้าวหน้า 2.15% รอลงนาม 5 สัญญา อยู่ระหว่างประมูล 5 สัญญา และรอระหว่างปรับแก้ TOR 1 สัญญา คือ ช่วงศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย และช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ที่อยู่ระหว่างรอความชัดเจน เนื่องจากโครงสร้างบางส่วนทับซ้อนกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน