บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) (CENTEL) รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2562 ระบุว่า มีรายได้รวม 4,964.7 ล้านบาท ลดลง 6.7% เทียบปีก่อน มีกำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ (EBITDA) จำนวน 800.4 ล้านบาท ลดลง 28.1% เทียบปีก่อน บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 215.0 ล้านบาท ลดลง 51.3% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
ธุรกิจโรงแรมรายได้รวมอยู่ที่ 1,882.2 ล้านบาท ลดลง 328.3 ล้านบาท (หรือ 14.9%) เทียบปีก่อน ส่วนหนึ่งจากการปิดปรับปรุงโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ บีช รีสอร์ท สมุยตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2562 ทำให้สูญเสียรายได้ประมาณ 115.0 ล้านบาทเทียบปีก่อน หากไม่รวมผลการดำเนินงานของโรงแรมที่ปิดปรับปรุงดังกล่าวรายได้รวมลดลงประมาณ 10.5% เทียบปีที่ผ่านมา
ในไตรมาส 3/2562 มีกำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ (EBITDA) จำนวน 445.8 ล้านบาท หรือคิดเป็น 23.7% ของรายได้รวม กำไรและอัตราการทำกำไรที่ลดลงสืบเนื่องจากการลดลงของรายได้ ขณะที่ต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารบางส่วนเป็นต้นทุนคงที่ โดยรายการหลัก เช่น ค่าแรงและสวัสดิการพนักงาน ค่าเช่าที่ดิน อาคาร และทรัพย์สินซึ่งเพิ่มขึ้นจากการต่อสัญญาเช่าโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ บีชรีสอร์ท และวิลลา หัวหินกับการรถไฟแห่งประเทศไทยอีก 1 ปี สิ้นสุดวันที่ 15 พฤษภาคม 2563
ธุรกิจอาหาร รายได้รวม 3,082.5 ล้านบาท ลดลง 0.9% เทียบปีก่อน โดยอัตราการเติบโตจากสาขาเดิม (SSS) ลดลง 8.4% และอัตราการเติบโตของยอดขายรวมทุกสาขา (TSS) ลดลง 1.0% แม้จำนวนสาขาเพิ่มขึ้นสุทธิ 107 สาขา แต่รายได้ลดลงสืบเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศครึ่งปีหลังชะลอตัวมากขึ้น กอปรกับภาวะการแข่งขันในตลาดรุนแรงทำให้ต้องจัดรายการส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการทำโปรโมชันและแคมเปญที่เน้นความคุ้มค่า (value promotion campaign) อีกทั้งค่าใช้จ่ายจากการเปิดสาขาร้านอาหารที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตราการทำกำไรลดลง ในไตรมาส 3 ปี 2562 บริษัทฯ มีกำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ (EBITDA) จำนวน 354.6 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11.5% ของรายได้รวม
สำหรับ 9 เดือน ปี 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 15,833.2 ล้านบาท ลดลง 2.6% เทียบปีก่อน กำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ (EBITDA) รวม 3,204.7 ล้านบาท ลดลง 14.9% เทียบปีก่อน จากทั้งธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหาร กำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติจำนวน 1,250.8 ล้านบาท ลดลง 26.3% เทียบปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ตั้งสำรองผลประโยชน์ระยะยาวของพนักงานจำนวน 58.1 ล้านบาท และได้รับเงินชดเชยความเสียหายจากประกัน (สุทธิจากภาษี) จำนวน 80.6 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 1,273.3 ล้านบาท ลดลง 24.9% เทียบปีก่อน
ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 บริษัทฯ มีโรงแรมภายใต้การบริหารทั้งสิ้นจำนวน 75 โรงแรม (14,402 ห้อง) โดยเป็นโรงแรมที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 42 โรงแรม (7,880 ห้อง) และเป็นโรงแรมที่กำลังพัฒนา 33 โรงแรม (6,522 ห้อง) ในส่วน 42 โรงแรมที่เปิดดำเนินการแล้วนั้น 17 โรงแรม (4,192 ห้อง) เป็นโรงแรมที่บริษัทฯเป็นเจ้าของ และ 25 โรงแรม (3,688 ห้อง) เป็นโรงแรมที่อยู่ภายใต้สัญญาบริหาร
สำหรับธุรกิจอาหาร บริษัทฯ มีจำนวนร้านอาหารที่เปิดดำเนินการรวม 1,029 สาขา ดังนี้ 1. เคเอฟซี (275) 2. มิสเตอร์โดนัท (365) 3. โอโตยะ (46) 4. อานตี้แอนส์ (178) 5. เปปเปอร์ลันช์ (45) 6. ชาบูตง ราเมน (19) 7. โคลด์สโตน ครีมเมอรี่ (17) 8. โยชิโนยะ (21) 9. เดอะ เทอเรส (9) 10. เทนยะ (13) 11. คัตสึยะ (31) 12. อร่อยดี (7) 13. สุกี้ เฮาส์ (2) 14. ซอฟท์แอร์ (1)