FTE ไม่หวั่นอสังหาฯ ชะลอตัว รุกขยายฐานลูกค้า คว้างานเพิ่ม หนุน Backlog 450 ล้าน เผยงวด 9 เดือนรายได้ 751.03 ล้านบาท กำไร 78.18 ล้านบาท แนวโน้มไตรมาส 4 ไม่หวั่นอสังหาฯ ชะลอตัวเน้นเจาะกลุ่มอุตสาหกรรม หน่วยงานราชการ ลุ้นคว้างานมูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท ด้านกฟผ.ส่งงานโครงการระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้า (EnergyStorage) และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำ (FloatingSolar Farm) หนุนรายได้ปีหน้า เพิ่มโอกาสรับงานเฉพาะทาง ตุน Backlog 450 ล้านบาท มั่นใจรายได้โตไม่ต่ำกว่า 10.0% หรือ 1,130 ล้านบาท รักษาอัตรากำไรสุทธิ 11-13%
ทักษิณ ตันติไพจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ FTE ผู้นำธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์-ระบบดับเพลิงแบบครบวงจร บริการออกแบบ รับเหมาติดตั้ง ซ่อมแซม ตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ดับเพลิงและงานระบบที่เกี่ยวข้องกับการดับเพลิง เปิดเผยถึงผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 2562 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 751.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 727.48 ล้านบาท จำนวน 23.55 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.24% และมีกำไรสุทธิ 78.18 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 89.03 ล้านบาท จำนวน 10.85 ล้านบาท หรือลดลง 12.19%
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3 มีรายได้รวม 251.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 248.54 ล้านบาท จำนวน 2.95 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.19% และมีกำไรสุทธิ 24.15 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 30.57 ล้านบาท จำนวน 6.42 ล้านบาท หรือลดลง 21.00%
ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากรับรู้รายได้จากการออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งและมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น ขณะที่กำไรของบริษัทปรับตัวลดลงเนื่องจากโครงการขนาดใหญ่บางส่วนส่งมอบงานล่าช้า ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมากขึ้น อีกทั้งบริษัทมีการบันทึกสำรองรายได้จากการรับประกันและบำรุงรักษาตามสัญญา 2-3 ปีตามมาตรฐานบัญชีใหม่
สำหรับแนวโน้มการดำเนินงานช่วงไตรมาส 4/62 ในภาวะที่ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว และโครงการขนาดใหญ่ยังคงมีความเสี่ยงจากความล่าช้า บริษัทจึงมุ่งเน้นที่จะขยายส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มลูกค้าภาคอุตสาหกรรมและเจาะงานโครงการของหน่วยงานราชการอื่นๆ มากขึ้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการยื่นประมูลงานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงเพิ่มเติมอีกหลายโครงการ มูลค่ารวมประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยทราบผลการประมูลภายใน 6 เดือน
ล่าสุดบริษัทได้รับงานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงในโครงการระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้า (Energy Storage) และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำ (Floating Solar Farm) เพิ่มเติมจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งเป็นงานที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในการวางระบบคาดว่าจะสามารถดำเนินงานและรับรู้รายได้ในช่วง 1-2 ปี ถือเป็นโอกาสที่บริษัทจะได้รับงานเฉพาะทางเพิ่มขึ้นในอนาคต ขณะที่โครงการติดตั้งระบบดับเพลิงในสถานีไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ.อยู่ระหว่างยื่นประมูลงานอีก 8-10 แห่งในปีนี้ มูลค่ารวมประมาณ150 ล้านบาท
ปัจจุบันมูลค่างานในมือ (Backlog) ของบริษัท ณ สิ้นเดือนกันยายน 62 อยู่ที่ 450ล้านบาท แบ่งเป็นงานจัดจำหน่าย 120 ล้านบาท งานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิง 330 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้จำนวนประมาณ 150 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้จนถึงปี 2564 บริษัทมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะไม่ต่ำกว่า 10.0% หรือ 1,130 ล้านบาท รักษาอัตรากำไรสุทธิ 11-13%