xs
xsm
sm
md
lg

อาลีเพย์จัดแคมเปญ ‘Phuket Island Card’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ครั้งแรกในไทย! เซ็นทรัล รีเทล จับมืออาลีเพย์ จัดแคมเปญ ‘Phuket Island Card’ มอบส่วนลดมากกว่า 100 ร้านค้าในจังหวัดภูเก็ต กระตุ้นยอดชอปนักท่องเที่ยวจีน


บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และร้านค้าในเครือ สร้างปรากฏการณ์ครั้งแรกในเมืองไทยร่วมกับ อาลีเพย์ แพลตฟอร์มการชำระเงินผ่านมือถือและแพลตฟอร์มไลฟ์สไตล์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดแคมเปญ ‘Phuket Island Card’ รวบรวมแพกเกจโปรโมชันที่ดีที่สุดจากห้างและร้านค้าชั้นนำในเครือเซ็นทรัลกว่า 100 ร้านค้า


คุณนิโคโล กาลันเต้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “โครงการ ‘Phuket Island Card’ จะช่วยกระตุ้นยอดชอปจากนักท่องเที่ยวชาวจีน และร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศไทย รวมถึงกระตุ้นให้เม็ดเงินสะพัดเพิ่มเติมในระดับท้องถิ่น โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวที่สร้างรายได้สำคัญอย่างจังหวัดภูเก็ต ส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยให้คึกคักยิ่งขึ้น”


คุณสิทธิพงษ์ กิตติประภาพงศ์ ผู้จัดการทั่วไป ประจำประเทศไทย บริษัท อาลีเพย์ กล่าวว่า “การร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับเซ็นทรัล รีเทลเป็นการผนึกกำลังที่จะทำให้แคมเปญนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้น นอกจากเซ็นทรัลรีเทลจะเป็นแหล่งรวมร้านค้าแบรนด์ดังมากมายแล้ว ยังมีร้านค้าที่ตั้งอยู่ในจุดสำคัญของเมืองซึ่งเป็นแหล่งที่คนจีนนิยมไปชอปปิ้ง ที่ผ่านมาพบว่าประเทศไทยสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 5 แสนล้านบาท จากรายได้ที่เกิดจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งหมดกว่า 2 ล้านล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวชาวจีนมีการใช้จ่ายเฉพาะการชอปปิ้งราว 120,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการใช้จ่ายสำหรับชอปปิ้งสูงถึง 41% จากค่าใช้จ่ายทั้งหมด เราหวังว่าความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเพลิดเพลินไปกับการพักผ่อน และการชอปปิ้งเมื่อมาเที่ยวภูเก็ต รวมถึงช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงฤดูท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึง”


ทั้งนี้ เครือเซ็นทรัลได้คัดสรรดีลที่ดีที่สุดในจังหวัดภูเก็ตมาเพื่อเอาใจนักท่องเที่ยวจีนโดยเฉพาะ 6 รายการ พิเศษสำหรับผู้ใช้อาลีเพย์โดยเฉพาะ เมื่อซื้อครบตามเงื่อนไข ได้แก่
•ส่วนลด 366 บาท จากห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาภูเก็ต และป่าตอง
•ส่วนลด 199 บาท ที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน
•ส่วนลด 150 บาท ที่เซ็นทรัล ฟู้ดฮอลล์ ท็อปส์ มาร์เก็ต และ ท็อปส์ เดลี่
•แคชการ์ดมูลค่า 150 บาท สำหรับใช้ที่ Food Court ณ เซ็นทรัลภูเก็ต
•ส่วนลด 20% แบรนด์เสื้อผ้ายีนส์ยอดนิยม LEE ที่ห้างเซ็นทรัลภูเก็ต
•และ ส่วนลด 300 บาท จาก Supersports
โดยลูกค้าสามารถซื้อคูปอง 6 รายการนี้ได้ในราคาเพียง 10 หยวน หรือประมาณ 45 บาท

นอกจากนี้ ยังมีคูปองส่วนลดอื่นๆ ที่สามารถรับได้ ‘ฟรี’ ในแอปพลิเคชันอาลีเพย์ และสามารถใช้ได้ที่กว่า 100 ร้านค้าชั้นนำในเครือเซ็นทรัล ครบทุกความต้องการในจังหวัดภูเก็ต เช่น ชอปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต, เซ็นทรัลภูเก็ตฟลอเรสต้า และเซ็นทรัลป่าตอง, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน หรือจะเป็นสินค้าประเภทอาหาร ของฝากที่เซ็นทรัล ฟู้ดฮอลล์, ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ เดลี่, ร้านสะดวกซื้อแฟมิลี่มาร์ท, สินค้ากีฬาที่ Supersports, ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ Power Buy, สินค้าเพื่อความงามครบครันที่ร้าน Matsumoto Kiyoshi, หนังสือ เครื่องเขียน และอุปกรณ์สำนักงาน ที่ B2S, ไปจนถึงของแต่งบ้านที่ ไทวัสดุ และ Baan&BEYOND ตั้งแต่วันนี้-31 มีนาคม 2563


การร่วมมือกันครั้งนี้ระหว่างเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น กับร้านค้าในเครือ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าและร้านค้ายอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวจีนกับอาลีเพย์ ตอกย้ำภาพลักษณ์ประเทศไทยอีกครั้งว่าเป็นเดสติเนชันของการท่องเที่ยวและชอปปิ้ง ปัจจุบันอาลีเพย์คือแอปพลิเคชันเพื่อการชำระเงินยอดนิยมของชาวจีนที่มีฐานผู้ใช้งานกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก และมีผู้ใช้งานเป็นประจำถึง 700 ล้านคนต่อเดือน โดยที่ 80% ของนักท่องเที่ยวจีนจะใช้อาลีเพย์ในการเสิร์ชหาที่กิน ที่เที่ยว ที่ชอปปิ้ง

เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“เซ็นทรัล รีเทล”) เป็นบริษัทภายใต้กลุ่มเซ็นทรัล ที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศโดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลี และเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล บริษัทย่อยและ/หรือบริษัทร่วม (รวมเรียกว่า “กลุ่มบริษัทฯ”) ยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจค้าปลีกในรูปแบบ Omni-channel ในประเทศไทย ซึ่งช่วยเสริมเครือข่ายร้านค้าปลีกของกลุ่มบริษัทฯ ในการนำเสนอสินค้าและบริการแก่ผู้บริโภค และทำให้กลุ่มบริษัทฯ มียอดการเข้าชมเว็บสโตร์สูงที่สุดในกลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีกที่ทำธุรกิจโดยมีร้านค้าเป็นหลัก ทั้งนี้ แบรนด์ “เซ็นทรัล” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นเลิศและการทำธุรกิจที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางในประเทศไทยมายาวนานกว่า 70 ปี ช่วยหลอมรวมและส่งเสริมแบรนด์ค้าปลีกที่หลากหลายของกลุ่มบริษัทฯ ให้มีตำแหน่งทางการตลาดในระดับแนวหน้าและครอบคลุมกลุ่มธุรกิจค้าปลีกที่หลากหลายที่เป็นที่นิยม


ธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ (1) กลุ่มแฟชั่น ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ (2) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน และ (3) กลุ่มฟูด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อ โดยแต่ละกลุ่มธุรกิจจะมีแบรนด์ค้าปลีกต่างๆ ซึ่งจำหน่ายสินค้าหลากหลายประเภท โดยแต่ละแบรนด์ค้าปลีกจะมีคุณลักษณะต่างๆ ที่แตกต่างกัน เช่น เครือข่ายร้านค้า รูปแบบร้านค้า สินค้าที่เสนอขาย กลยุทธ์ในการสื่อสารแบรนด์ (Branding) และจุดยืนทางการตลาด ทั้งนี้ แม้แบรนด์ค้าปลีกหลากหลายแบรนด์ของกลุ่มบริษัทฯ ได้เปิดดำเนินงานมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แต่กลุ่มบริษัทฯ ยังคงมุ่งนำเสนอแบรนด์ค้าปลีกใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และอาจปรับหรือเปลี่ยนแบรนด์ที่มีอยู่บางแบรนด์ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะของตลาดค้าปลีกที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา


ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2562 กลุ่มบริษัทฯ มีร้านค้าในรูปแบบต่างๆ ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกที่สำคัญในประเทศไทยจำนวน 1,912 ร้านค้า ซึ่งทำให้กลุ่มบริษัทฯ เป็นผู้ประกอบการค้าปลีกผ่านรูปแบบที่หลากหลายที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สำหรับประเทศเวียดนาม กลุ่มบริษัทฯ มีร้านค้าในรูปแบบต่างๆ ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกที่สำคัญ จำนวน 131 ร้านค้า ซึ่งทำให้กลุ่มบริษัทฯ เป็นผู้ประกอบการค้าปลีกข้ามชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศเวียดนาม และเป็นผู้ประกอบการค้าปลีกที่มีขนาดใหญ่โดยรวมเป็นอันดับสามของประเทศเวียดนาม และสำหรับในประเทศอิตาลี กลุ่มบริษัทฯ มีห้างสรรพสินค้าจำนวน 9 สาขา โดยกลุ่มบริษัทฯ ถือเป็นผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศอิตาลี จากรายงานของ Euromonitor International เมื่อพิจารณาจากส่วนแบ่งทางการตลาด


เกี่ยวกับอาลีเพย์
อาลีเพย์ (Alipay) ดำเนินงานโดยกลุ่มบริษัท แอนท์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส (Ant Financial Services Group) เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการชำระเงินออนไลน์และโมบายล์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเริ่มเปิดให้บริการเมื่อปี 2547 และปัจจุบันมีผู้ใช้อาลีเพย์กว่า 1,200 ล้านคน ร่วมกับพาร์ตเนอร์ด้าน e-wallet ในประเทศต่างๆ (สถิติเดือนมิถุนายน 2562) ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อาลีเพย์ได้พัฒนาจากบริการดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) สู่เครื่องมือที่รองรับไลฟ์สไตล์อย่างสมบูรณ์ โดยผู้ใช้สามารถเรียกแท็กซี่ จองห้องพักโรงแรม ซื้อตั๋วภาพยนตร์ จ่ายค่าสาธารณูปโภค นัดหมายเพื่อพบแพทย์ หรือซื้อผลิตภัณฑ์ด้านการบริหารสินทรัพย์ได้โดยตรงจากภายในแอปฯ นอกเหนือจากการชำระเงินออนไลน์แล้ว อาลีเพย์ยังขยายครอบคลุมการชำระเงินแบบออฟไลน์ในร้านค้าทั้งในและนอกประเทศจีนอีกด้วย บริการชำระเงินในร้านค้าของอาลีเพย์ยังครอบคลุมกว่า 50 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก ส่วนการขอคืนภาษีผ่านอาลีเพย์สามารถทำได้ใน 35 ประเทศและภูมิภาค อาลีเพย์ร่วมมือกับสถาบันการเงินและผู้ให้บริการชำระเงินในต่างประเทศกว่า 250 แห่ง เพื่อรองรับการชำระเงินระหว่างประเทศสำหรับนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางไปต่างประเทศ รวมถึงลูกค้าต่างชาติที่ซื้อสินค้าจากเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซของจีน ปัจจุบันอาลีเพย์รองรับ 27 สกุลเงิน


หมายเหตุ
เอกสารฉบับนี้มีข้อมูลทางสถิติ การวิจัยทางการตลาด และการประมาณการจากอุตสาหกรรมที่นำมาจากเอกสารที่ตีพิมพ์สำหรับอุตสาหกรรม ข้อมูลที่ได้มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ และแหล่งที่มาภายนอก ซึ่งรวมถึง Euromonitor International แม้ว่าบริษัทฯ จะเชื่อว่าข้อมูลที่นำมาจากแหล่งที่มาภายนอกดังกล่าวมีความน่าเชื่อถือ บริษัทฯ ไม่อาจรับประกันความถูกต้องและความสมบูรณ์ของข้อมูลเกี่ยวกับการตลาด และเศรษฐกิจที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ นอกจากนี้ ข้อมูลเกี่ยวกับการตลาดและอุตสาหกรรมอาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงและอาจไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากข้อจำกัดในการเข้าถึงและความน่าเชื่อถือของข้อมูล ลักษณะของกระบวนการเก็บข้อมูลที่กระทำโดยความสมัครใจ ตลอดจนข้อจำกัดและความไม่แน่นอนอื่นๆ ซึ่งเป็นธรรมชาติของการสำรวจข้อมูลเชิงสถิติ


กำลังโหลดความคิดเห็น