นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในวันที่ 29 ต.ค. จะมีการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การบินไทย ซึ่งจะนำหารือในประเด็นข้อสังเกตของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม ซึ่งมีประมาณ 8-9 เรื่อง จำนวนพนักงาน การรับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเพิ่ม ต้องดูว่าที่มีอยู่ทำงานเต็มศักยภาพหรือยัง รวมถึงการใช้เครื่องมือต่างๆ ที่เต็มประสิทธิภาพและลดต้นทุน เป็นต้น
โดยในส่วนของแผนฟื้นฟูบริษัทฯ จะปรับปรุงในระยะเวลา 3 เดือนให้นำเสนอพร้อมแผนการปฏิบัติ หรือ Action Plan วางไทม์ไลน์ให้ชัดเจน ซึ่งบอร์ดจะพิจารณาเพื่อกำกับให้ทำตามแผนฟื้นฟู
สำหรับการทบทวนแผนจัดหาเครื่องบินใหม่นั้น เนื่องจากแผนเดิมทำก่อนในภาวะเศรษฐกิจหนึ่ง และยังไม่มีสมมติฐานเรื่องสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ดังนั้น จะต้องศึกษาใหม่ วางแผนศักยภาพของแต่ละเส้นทางบินที่ได้รับผลกระทบทั้งเอเชียและจีน โดยพิจารณาร่วมกับสถานะทางการเงิน ศักยภาพในการจัดหาเงินกู้และใช้หนี้ เพราะการซื้อเครื่องบินใหม่ต้องกู้เงินจำนวนมาก ซึ่งฝ่ายบริหารยังไม่เสนอให้บอร์ด ต้องดูจำนวนหนี้สินสะสมด้วย โดยจะสรุปแผนจัดหาเครื่องบินได้ก่อนสิ้นปีแน่นอน
นอกจากนี้ จะเร่งรัดการขายเครื่องบินที่ปลดระวาง ซึ่งบอร์ดได้มีมติไปนานแล้ว แต่ยังไม่ขาย ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องสัญญาขายที่มีเรื่องซ่อม เหลือการเจรจาเรื่องการส่งมอบ ซึ่งมีเรื่องซ่อมก่อนขาย จะสอบถามรายละเอียดจากดีดีอีกที เพราะหากให้ซ่อมก่อนขายจะต้องแก้สัญญาซึ่งอาจมีปัญหา
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของประเทศไทยจะต้องเร่งทำรายได้ให้เต็มที่ โดยปัจจุบันอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ยอยู่ที่ 80% แล้ว แต่จะต้องเพิ่มอัตราค่าตอบแทน (yield) ที่ตัวเลขยังต่ำ ในบางเส้นทางคือตอนนี้ปริมาณได้แล้ว แต่ราคาทำกำไรได้ไม่มาก เพราะมีการแข่งขัน จะต้องเจาะลึกเป็นรายเส้นทาง ซึ่งกระทบหนัก คือเส้นทางญี่ปุ่น ที่เป็นตลาดหลักของการบินไทยแต่มีการแข่งขันสูงมาก ซึ่งในไตรมาสสุดท้ายที่มีการเปิดเส้นทางใหม่สู่เมืองเซนได ประเทศญี่ปุ่น
มองทั้งญี่ปุ่น ทุกจุดบินมีการแข่งขันสูง แต่การเปิดบินสู่เมืองเซนได ที่การบินไทยบินเจ้าเดียว เป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์ในการแข่งขันโดยการเลือกเปิดเส้นทางในเมืองใหม่ๆ ที่ยังไม่มีคู่แข่งมากขึ้น และเป็นพรีเมียมแอร์ไลน์ และมีกำไร และจะเป็นต้นแบบที่สามารถทำราคาได้ ซึ่งการบินไทยได้จับมือกับพันธมิตรผู้บริหารสนามบินเซนได มีการรับประกัน หาก Cabin Factor ต่ำกว่า 75% เป็นเวลาเริ่มต้นใน 1 ปี ถ้าหากจำนวนผู้โดยสารไม่เป็นไปตามที่คาดไว้จะมีการอุดหนุนให้การบินไทย นอกจากนี้ ตั๋วการบินไทยยังจะมีส่วนลดแลกแจกแถมให้อีกด้วย
ยุทธศาสตร์การบินไทย จะเปิดตลาดใหม่และสร้างฐานของการบินไทย จะไม่เน้นแข่งในตลาดที่ดุเดือด โดยใช้เครื่องมือมาช่วยวิเคราะห์ นำข้อมูลลูกค้า ROP มาทำการตลาดเป็นรายบุคคล ซึ่งจะทำทันที โดยไตรมาส 4 ปีนี้ควรจะมีกำไร