ผู้จัดการรายวัน 360 - “อสมท” แตกไลน์ธุรกิจชิมลางค้าปลีก ปั๊มรายได้ธุรกิจใหม่ลดเสี่ยง ผนึก แอสเสท เวิร์ด คอร์ปอเรชั่น ผุดโครงการ MCOT MART ป้อนเอสเอ็มอี หวังรายได้ปีแรก 20 ล้านบาท
นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามแผนงานของ “อสมท” จะมุ่งเน้นในการพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของช่องทางการหารายได้ ล่าสุดพร้อมเรียนรู้ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ลอจิสติกส์ และการค้า ด้วยการดำเนินโครงการ MCOT MART
โครงการดังกล่าวนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs ที่มีศักยภาพในการส่งออกสินค้าจองพื้นที่จำหน่ายสินค้ากลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม ขนม และเครื่องอุปโภคต่างๆ สามารถวางสินค้าในพื้นที่การค้าส่งด้วยทุนที่ต่ำกว่าลงทุนเอง พร้อมนำสินค้าขึ้นระบบออนไลน์ แพลตฟอร์มเพิ่มโอกาสขายในอาเซียน ปัจจุบันมีผู้สนใจจองพื้นที่แล้ว 100 ราย คาดไตรมาสสี่ปีนี้ (2561) จะสามารถเปิดดำเนินการได้ คาดว่าในช่วงปีแรกของการดำเนินการ (2562) จะมีรายได้ 20 ล้านบาท
สำหรับโครงการ MCOT MART เป็นการร่วมมือกับบริษัท แอสเสท เวิร์ด คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นผู้บริหารโครงการตลาดต่อยอด (AEC Trade Center) บนพื้นที่ 160 ไร่ ห่างจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นตลาดการค้าที่ใหญ่สุดในอาเซียน พื้นที่การค้ากว่า 300,000 ตารางเมตร โดย อสมท ได้รับการสนับสนุนพื้นที่บริเวณอาคาร 2 ชั้น 1 ในโครงการตลาดต่อยอด พื้นที่รวม 300 ตารางเมตร หรือ 0.1% ของพื้นที่ทั้งหมด
ด้านนายธนฑิต เจริญจันทร์ เจ้าหน้าที่บริหารสายงานปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท แอสเสท เวิร์ด คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า โครงการตลาดต่อยอดมีศูนย์บริการให้ข้อมูลทางธุรกิจ, ระบบตรวจมาตรฐานสินค้า, ศูนย์ออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ และ SMEs Solution Service เป็นศูนย์ที่ปรึกษาให้กลุ่ม SMEs แบบครบวงจร มีแผนเปิดตัวในไตรมาส 4 ปี 2561 โดยจะเดินหน้าประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศ
อีกทั้งยังมีแผนกิจกรรมการตลาดในรูปแบบอีเวนต์ตลอดทั้งปี พร้อมเดินหน้ารุกตลาด CLMV และจีน ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่มีศักยภาพในการมาซื้อของภายในโครงการ คาดว่าเมื่อเปิดโครงการจะมีผู้เข้ามาเดิน 50,000-70,000 คนต่อวัน และมียอดการค้า 5-6 หมื่นล้านบาทต่อปี
นอกจากนี้ ตลาดต่อยอดยังเป็นสื่อกลางเชื่อมโยงช่องทางขายในลักษณะออฟไลน์และออนไลน์ (O2O) ล่าสุดเปิดตัว ‘ต่อยอดออนไลน์’ www.toryodonline.com ระบบการค้าส่งออนไลน์แห่งแรกในประเทศไทย สนับสนุนให้ผู้ประกอบการมีช่องทางการขายบนเว็บไซต์ออนไลน์เพื่อเชื่อมต่ออีคอมเมิร์ซทั่วโลก และมีแผนความร่วมมือในการเป็นพันธมิตรกับแพลตฟอร์ม B2B ระดับโลกอีกกว่า 10 ประเทศ เช่น อินเดีย เกาหลี อินโดนีเซีย สิงคโปร์ แอฟริกาใต้ และรัสเซีย เพื่อช่วยผู้ประกอบการไทยให้สู่ตลาดโลกอย่างแท้จริง