“ศิริ” ชี้เซเปียน-เซน้ำน้อยไม่กระทบความมั่นคงพลังงานไทย

รมว.พลังงานโครงการโรงไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อยไม่กระทบความมั่นคงด้านพลังงานในไทยแม้ว่าจะชะลอการจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ปี 62 หรือไม่ก็ตาม ด้าน กฟผ.ยันเชิงเทคนิคโรงไฟฟ้าดังกล่าวไม่สะดุดจ่ายไฟได้ตามแผนเดิม

นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จากกรณีที่เขื่อนดินย่อยกั้นช่องเขาส่วน D เกิดทรุดตัวเกิดรอยร้าวทำให้น้ำไหลออกมาพื้นที่ท้ายเขื่อนเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้รัฐบาล สปป.ลาว และโครงการเซเปียน-เซน้ำน้อย ไม่ได้แจ้งเลื่อนหรือชะลอการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ให้แก่ประเทศไทยแต่อย่างใด โดยโครงการนี้มีกำหนด COD ในเดือน ก.พ. 62 ในปริมาณ 354 เมกะวัตต์ โดยจะส่งมาจากสายส่งไฟฟ้าแรงสูงปากเซ เชื่อมต่อมายังสายส่งไฟฟ้าแรงสูงอุบล 3 จ.อุบลราชธานี

ยืนยันว่าโครงการดังกล่าวจะไม่กระทบความมั่นคงด้านพลังงาน ไม่ว่าโครงการโรงไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อยจะชะลอการจ่ายไฟหรือไม่ก็ตาม ส่วนกรณีที่รัฐมนตรีลาวระบุว่าการก่อสร้างเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยไม่ได้มาตรฐานจนทำให้เขื่อนดินย่อยส่วน D แตก ในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลลาวต้องตรวจสอบ ซึ่งกระทรวงพลังงานไม่ไปก้าวล่วงแต่อย่างใด

ด้านนายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า ทางเทคนิคโรงไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อยสามารถเดินเครื่องจ่ายไฟได้ตามแผน COD เดิม หลังจากสามารถอุดรอยรั่วเขื่อนดินย่อยส่วน D ได้ เพราะในส่วนนี้ไม่กระทบเขื่อนหลักที่ใช้รองรับการผลิตไฟฟ้า

โรงไฟฟ้าแห่งนี้ออกแบบให้ส่งน้ำแนวสูงผ่านท่อยาว 100 เมตรมายังเครื่องกำเนิดไฟฟ้า โดยปริมาณน้ำจะรั่วส่วนหนึ่งแต่ปริมาณน้ำส่วนนี้ก็เพียงพอผลิตไฟฟ้าได้ตามสัญญา

ทั้งนี้ ในปี 2562 ยังมีโรงไฟฟ้าเข้าระบบ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำเงี้ยบ 1 จำนวน 269 เมกะวัตต์ COD ก.พ. 62 และโครงการไซยะบุรี 1,220 เมกะวัตต์ COD เดือน ต.ค. 62 ขณะที่โครงการที่ลงนาม PPA แล้ว 1 โครงการ 520 เมกะวัตต์ เข้าระบบในวันที่ 23 พ.ค. 65 ในส่วนนี้เป็นทั้งหมด 9 โครงการ มีสัญญาซื้อขายไฟ (PPA) แล้ว 5,940.60 เมกะวัตต์จากข้อตกลงร่วม (MOU) ระหว่างไทยกับ สปป.ลาว ที่จะพัฒนาโรงไฟฟ้าร่วมกัน 9,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2579 ที่ยังเหลืออีก 3,059.40 เมกะวัตต์ก็คงต้องรอนโยบายรัฐบาลต่อไป

นายวิฑูรย์กล่าวอีกว่า สำหรับปริมาณน้ำที่มากในลาวทำให้โครงการพลังน้ำถูกแจ้งให้หยุดผลิตในช่วงนี้ เพราะเกรงว่าหากมีการปล่อยน้ำออกจากเขื่อนอีกก็จะกระทบต่อชาวบ้านในบริเวณท้ายเขื่อน โดยโครงการพลังน้ำ น้ำเทิน 2 ซึ่งมี บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) เป็นผู้ถือหุ้นร่วมอยู่ด้วยนั้นก็ถูกให้หยุดผลิตในช่วงนี้ด้วย แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อปริมาณการขายไฟฟ้าทั้งปี เพราะด้วยปริมาณน้ำที่มากก็จะทำให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้ในปริมาณที่มากขึ้นในระยะต่อไปซึ่งจะเข้ามาชดเชยการหยุดผลิตในช่วงนี้ได้